หลายคนที่ฉีดโบท็อกซ์มักสงสัยว่าโบท็อกซ์อยู่ได้นานแค่ไหน และต้องฉีดซ้ำบ่อยแค่ไหนถึงจะเห็นผลต่อเนื่อง ปกติแล้วระยะเวลาของโบท็อกซ์จะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ปริมาณที่ฉีด ตำแหน่งที่ฉีด และการดูแลตัวเองหลังฉีด บางคนอาจเห็นผลนานหลายเดือน แต่บางคนอาจต้องเติมบ่อยขึ้นเพื่อคงผลลัพธ์ที่ต้องการ การเข้าใจระยะเวลาการออกฤทธิ์ของโบท็อกซ์และวิธีดูแลที่เหมาะสมจะช่วยให้คุณวางแผนการฉีดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
โบท็อกซ์อยู่ได้นานแค่ไหน
- โบท็อกซ์ คืออะไร ?
- ฉีดโบท็อกซ์อยู่ได้นานแค่ไหน กี่เดือน กี่ปี
- โบท็อกซ์จะอยู่ได้นานแค่ไหนขึ้นอยู่กับอะไรบ้าง
- โบท็อกซ์สลายเร็วเพราะอะไร กี่เดือนสลาย
- การดูแลหลังฉีดโบท็อกซ์ลดริ้วรอยให้อยู่ได้นาน ๆ
- โบท็อกซ์ฉีดได้บ่อยแค่ไหน
โบท็อกซ์ คืออะไร ?
โบท็อกซ์ (Botox) คือ สารที่ถูกสกัดมาจากแบคทีเรียสายพันธุ์เฉพาะ ที่มีชื่อว่า “คลอสตริเดียม โบทูลินัม (Clostridium Botulinum)” ซึ่งตัวสารจะอยู่ในรูปของโปรตีน โดยโบท็อกซ์เป็นสารที่มีการออกฤทธิ์กับระบบประสาท ส่งผลให้เมื่อทำการฉีดเข้ากล้ามเนื้อ จะทำให้กล้ามเนื้อมีการทำงานที่น้อยลง ช่วยลดการขยับของกล้ามเนื้อ จึงทำให้แพทย์ทางด้านเสริมความงาม นำโบท็อกซ์มาช่วยในเรื่องของการลดริ้วรอย การปรับรูปหน้า ลดเหงื่อ และยังช่วยทำให้ผิวหนังมีความเต่งตึง
ฉีดโบท็อกซ์อยู่ได้นานแค่ไหน กี่เดือน กี่ปี
อย่างที่ทราบกันดีว่า โบท็อกซ์เป็นสารที่สกัดมาจากแบคทีเรีย ซึ่งมีคุณสมบัติพิเศษสามารถจับกับปลายเส้นประสาทที่ควบคุมกล้ามเนื้อ และเข้าไปยับยั้งการกระตุ้นกล้ามเนื้อที่ได้รับการควบคุมโดยเส้นประสาทบริเวณนั้น ทำให้กล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีดโบท็อกซ์ไม่สามารถหดตัวและคงอยู่ในสภาพคลายตัว โบท็อกซ์จึงได้รับความนิยมอย่างมากในวงการเสริมความงาม
โดยปกติ โบท็อกซ์จะให้ผลลัพธ์คงอยู่ได้ประมาณ 3 – 8 เดือน และสามารถสลายตัวเองได้ตามธรรมชาติ ทั้งนี้ระยะเวลาของผลลัพธ์อาจแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ตำแหน่งการฉีด หรือยี่ห้อของโบท็อกซ์
ระยะเวลาการคงอยู่ของโบท็อกซ์แต่ละตำแหน่ง มีดังนี้
โบท็อกซ์ลดกราม | 3 – 6 เดือน |
โบท็อกซ์ลดกราม | 3 – 6 เดือน |
โบท็อกซ์ปีกจมูก | 3 – 6 เดือน |
โบท็อกซ์ลดริ้วรอย | 3 – 6 เดือน |
โบท็อกซ์ลดรูขุมขน | 3 – 6 เดือน |
โบท็อกซ์ลิฟกรอบหน้า | 3 – 6 เดือน |
โบท็อกซ์ลดเหงื่อ | 4 – 6 เดือน |
โบท็อกซ์ลดน่อง | 4 – 6 เดือน |
โบท็อกซ์หน้าผาก | 4 – 6 เดือน |
โบท็อกซ์ระหว่างคิ้ว | 4 – 6 เดือน |
โบท็อกซ์รอบดวงตา | 3 – 4 เดือน |
ตัวอย่าง ระยะเวลาการคงอยู่ของโบท็อกซ์แต่ละยี่ห้อ ดังนี้
โบท็อกซ์ ยี่ห้อ Aestox | 4 – 6 เดือน |
โบท็อกซ์ ยี่ห้อ Nabota | 4 – 6 เดือน |
โบท็อกซ์ ยี่ห้อ Dysport | 4 – 6 เดือน |
โบท็อกซ์ ยี่ห้อ Xeomin | 6 – 8 เดือน |
โบท็อกซ์ ยี่ห้อ Allergan | 6 – 8 เดือน |
หมายเหตุ : ทั้งนี้ระยะเวลาของผลลัพธ์อาจแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ตำแหน่งการฉีด หรือยี่ห้อของโบท็อกซ์ รวมถึงการดูแลหลังฉีดโบท็อกซ์ด้วย
โบท็อกซ์จะอยู่ได้นานแค่ไหนขึ้นอยู่กับอะไรบ้าง
การฉีดโบท็อกซ์ซ์เป็นหนึ่งในวิธีที่ได้รับความนิยมในการลดเลือนริ้วรอยและปรับรูปหน้าให้ดูอ่อนเยาว์ โดยจะคงผลลัพธ์ได้อยู่ประมาณ 3 – 8 เดือน ซึ่งระยะเวลาของการคงอยู่อาจมีความแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ดังนี้
- ยี่ห้อของโบท็อกซ์ ปัจจุบันโบท็อกซ์มีหลายยี่ห้อ ซึ่งแต่ละยี่ห้อจะมีความบริสุทธิ์ ปริมาณของสาร ส่วนผสม และคุณสมบัติที่แตกต่างกัน หากโบท็อกซ์มีความบริสุทธิ์มาก ระยะเวลาการคงอยู่ของโบท็อกซ์ก็จะนานยิ่งขึ้น
- ปริมาณที่ฉีด ปริมาณที่ฉีดเข้าไปตรงบริเวณที่ต้องการแก้ไขจะส่งผลต่อระยะเวลาการคงอยู่ของผลลัพธ์ หากมีการฉีดในปริมาณที่มากเกินไป อาจทำให้ใบหน้าดูแข็ง ไม่เป็นธรรมชาติ และอาจเสี่ยงต่อการดื้อโบท็อกซ์
- บริเวณที่ฉีด บริเวณที่ฉีดมีผลต่อการกระจายของโบท็อกซ์และการทำงานของกล้ามเนื้อ ซึ่งส่งผลต่อระยะเวลาการคงอยู่ของผลลัพธ์ เช่น บริเวณที่กล้ามเนื้อมีการใช้งานบ่อย เช่น แขน ขา น่อง หน้าผาก หรือบริเวณรอบดวงตา อาจทำให้โบท็อกซ์สลายตัวเร็วขึ้น เนื่องจากกล้ามเนื้อบริเวณนี้มีการเคลื่อนไหวบ่อย ส่วนบริเวณที่กล้ามเนื้อหนา เช่น กรามหรือใบหน้า โบท็อกซ์อาจสลายตัวช้ากว่า
- อายุและสภาพผิว บุคคลที่มีอายุมากและผิวที่เริ่มสูญเสียคอลลาเจนอาจทำให้ผลลัพธ์ของโบท็อกซ์มีอายุสั้นลง ส่วนบุคคลที่มีอายุน้อยและมีผิวหนังที่เต่งตึง ผลลัพธ์อาจอยู่ได้นานขึ้น
- อัตราการเผาผลาญของร่างกาย บุคคลที่มีระบบเผาผลาญเร็ว เช่น บุคคลที่ออกกำลังกายเป็นประจำ หรือมีการเผาผลาญพลังงานสูง อาจทำให้โบท็อกซ์สลายเร็วกว่า
- การใช้ชีวิตประจำวัน การออกกำลังกายอย่างหนัก การแสดงออกทางสีหน้าเป็นประจำ ความเครียด การเคี้ยวอาหารที่มีความแข็งหรือเหนียวมาก อาจทำให้โบท็อกซ์สลายตัวได้เร็วขึ้น
- การดูแลตัวเองหลังจากการฉีด การดูแลตัวเองอย่างถูกวิธี เช่น การหลีกเลี่ยงความร้อน เช่น การซาวน่า การเลเซอร์ และหลีกเลี่ยงการสัมผัสบริเวณที่ฉีด จะช่วยยืดอายุของโบท็อกซ์ได้
- ประสบการณ์ของแพทย์ แพทย์ที่มีความชำนาญจะสามารถระบุตำแหน่งการฉีดได้อย่างแม่นยำ และคำนวณปริมาณตัวยาได้อย่างเหมาะสม ซึ่งจะทำให้ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติและอยู่ได้นานขึ้น แต่หากแพทย์ที่ทำการฉีดขาดความชำนาญ อาจทำให้เกิดผลข้างเคียง เช่น ปากเบี้ยว หรือกล้ามเนื้อใบหน้าขยับได้ยาก
โบท็อกซ์สลายเร็วเพราะอะไร กี่เดือนสลาย
โดยปกติโบท็อกซ์มีอายุอยู่ได้ประมาณ 3 – 8 เดือน ซึ่งโบท็อกซ์อาจสลายตัวเร็วขึ้นจากหลายสาเหตุ เช่น ความร้อน ที่สามารถทำให้โบท็อกซ์สลายตัวเร็วขึ้น ดังนั้น การทำกิจกรรมที่ต้องสัมผัสกับความร้อน เช่น การซาวน่า การออกกำลังกายกลางแดดจัด หรือการทำเลเซอร์ ควรงดหลังจากการฉีดเป็นเวลา 14 วัน นอกจากนี้ยังมีปัจจัยอื่น ๆ เช่น ปริมาณโบท็อกซ์ที่ใช้ในการฉีด ตำแหน่งที่ฉีด หากฉีดในบริเวณที่มีการเคลื่อนไหวบ่อย อาจทำให้โบท็อกซ์สลายตัวเร็วขึ้น รวมถึง วิธีการดูแลตัวเองหลังจากการฉีด ก็มีผลต่อระยะเวลาการคงอยู่ของโบท็อกซ์เช่นกัน
การดูแลหลังฉีดโบท็อกซ์ลดริ้วรอยให้อยู่ได้นาน ๆ
การดูแลตัวเองหลังจากการฉีดโบท็อกซ์ลดริ้วรอยอย่างถูกวิธี จะช้วยให้ผลลัพธ์มีประสิทธิภาพ และช่วยชะลอการสลายตัวของโบท็อกซ์ ซึ่งวิธีการดูแลตัวเองหลังจากการฉีด ดังนี้
- ผู้ทำการฉีดต้องพยายามขยับกล้ามเนื้อบริเวณที่ทำการฉีด ประมาณ 20 นาที เพื่อให้โบท็อกซ์มีการกระจายตัวเข้าสู่กล้ามเนื้อได้เร็วขึ้น
- 4 ชั่วโมงหลังจากการฉีด ควรงดการสัมผัส เช่นการกด การนวด และการคลึง เพื่อให้ตัวยาสามารถแทรกซึมเข้าถึงกล้ามเนื้อ และเพื่อป้องกันไม่ให้ตัวยาเกิดการเคลื่อนตัว
- 4 ชั่วโมงหลังจากทำการฉีดโบท็อกซ์ ควรงดการนอนเอนศีรษะ หรือนอนราบ เพื่อป้องกันการไหลของโบท็อกซ์ไปสู่บริเวณอื่น ที่อาจจะทำให้เกิดผลข้างเคียงที่ไม่ต้องการ
- หลีกเลี่ยงการโดนความร้อน และกิจกรรมที่ทำให้หน้าแดง เช่นการอบซาวน่า การออกกำลังกายหนัก ๆ การตากแดด และการยิงเลเซอร์ เป็นเวลา 2 วันหลังจากการฉีด
- หลังจากทำการฉีดโบท็อกซ์ให้ใช้น้ำแข็งประคบเป็นเวลา 24 ชั่วโมง ตามด้วยประคบอุ่นต่ออีก 24 ชั่วโมง
- หลังจากทำการฉีดโบท็อกซ์ให้รับประทานอาหารที่มีแร่ธาตุสังกะสี (Zinc) อาทิเช่น เนื้อสัตว์ หรืออาหารทะเล แต่ควรจะรับประทานในปริมาณที่เหมาะสม
- หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่มีรสจัด และอาหารหมักดอง เพราะมีสารที่ทำให้เส้นเลือดเกิดการขยายตัว
- งดการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และงดการสูบบุหรี่ เพราะจะส่งผลต่อการอักกเสบ การยุบตัวที่ช้าลง และทำให้ผลลัพธ์อยู่ได้สั้นลง
- ควรดื่มน้ำให้เพียงพอ เพื่อช่วยให้โบท็อกซ์เกิดกระจายตัวได้ดียิ่งขึ้น
- ควรฉีดโบท็อกซ์อย่างต่อเนื่อง แต่ควรอยู่ในระยะเวลาที่เหมาะสม ไม่ควรฉีดบ่อยเกินไป
- ควรไปพบแพทย์ตามนัดหมาย เพื่อติดตามอาการ และผลลัพธ์
โบท็อกซ์ฉีดได้บ่อยแค่ไหน
อย่างที่ทราบกันดีว่าการฉีดโบท็อกซ์ให้ผลลัพธ์ที่ไม่ถาวร จึงจำเป็นต้องมีการฉีดซ้ำอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้โบท็อกซ์คงสภาพ และเพื่อความปลอดภัยควรมีการเว้นระยะในการฉีด โดยระยะเวลาที่เหมาะสมสำหรับการฉีดโบท็อกซ์ลดริ้วรอยบริเวณหางตา คือ ทุก 4 – 6 เดือน/ครั้ง และสำหรับการฉีดโบท็อกซ์บริเวณหน้าผากหรือการฉีดเพื่อลดกราม คือ ทุก 6 – 8 เดือน/ครั้ง หรือปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนทุกครั้งที่จะเข้ารับการรักษา