ฉีดดอลลี่อาย กับ ฟิลเลอร์ใต้ตา ต่างกันอย่างไร ? ควรทำแบบไหน ?

ฉีดดอลลี่อายกับฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาต่างกันอย่า

ฉีดดอลลี่อาย กับ ฟิลเลอร์ใต้ตา คนส่วนใหญ่มักเข้าใจว่าเหมือนกัน เพราะทั้งสองวิธีต่างเป็นการฉีดสารเติมเต็มเข้าไปบริเวณใต้ตาเหมือนกัน แต่ความจริงแล้ว ทั้งสองวิธีมีความแตกต่างกัน ซึ่งบทความฉบับนี้ได้บอกข้อแตกต่างไว้อย่างละเอียด โดยให้ความรู้กับบุคคลที่คิดจะทำการฉีด เพื่อให้รู้ว่าใครควรจะทำการรักษาแบบไหน เพื่อให้ตรงกับความต้องการและแก้ไขปัญหาอย่างถูกต้อง

สารบัญ

ดอลลี่อาย คือ ?

ดอลลี่อาย (Dolly Eyes) คือ เทรนด์ความงามที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน เนื่องจากการมีดอลลี่อายจะทำให้ใบหน้าดูเด็กลงและมีความอ่อนหวานมากขึ้น ซึ่งลักษณะของดอลลี่อาย จะเป็นลักษณะผิวหนังตรงบริเวณขอบตาล่างที่มีการโค้งนูนออกมา ติดกับแนวขนตาล่าง โดยดอลลี่อายจะส่งผลให้ดวงตาดูโตขึ้น กลมโตขึ้น หวานขึ้น

ดอลลี่อาย เหมาะกับใคร

ดอลลี่อายเหมาะกับบุคคลที่ต้องการให้ใบหน้าดูอ่อนกว่าวัย ไม่ต้องการให้ใบหน้าดูโทรม บุคคลที่ต้องการปรับลุคให้ดูเด็กขึ้น มีความสดใสน่ารัก และบุคคลที่ต้องการมีดวงตาที่กลมโต ฉ่ำวาว นอกจากนี้ยังรวมถึงบุคคลที่ต้องการเพิ่มมิติให้กับดวงตา พร้อมกับเพิ่มเสน่ห์ให้กับดวงตาได้อีกด้วย

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา คือ ?

การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา (Filler) คือ การฉีดสารเติมเต็มฟิลเลอร์ในกลุ่มไฮยาลูรอนิค แอซิด (HA : Hyaluronic Acid) เข้าไปใต้ผิวบริเวณใต้ตาที่มีปัญหา เช่น ขอบตาหมองคล้ำ ริ้วรอยใต้ตา ร่องใต้ตา เบ้าตาลึก ถุงใต้ตา โดยการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตายังสามารถช่วยเติมเต็มในส่วนที่มีการยุบตัวของกระดูก ช่วยพยุงเอ็นยึดใต้ตาให้กลับไปสู่ที่เดิม แก้ไขริ้วรอยใต้ตาและสีหมองคล้ำ ให้กลับมาเต่งตึงอีกครั้ง โดยในฟิลเลอร์จะมีคุณสมบัติเพิ่มความชุ่นชื้นให้กับผิว และยังช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนให้ผิวบริเวณที่ฉีดอีกด้วย

ซึ่ง การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา (Filler) เป็นวิธีการรักษาที่ได้รับความนิยม เนื่องจากเป็นวิธีการรักษาที่ไม่ต้องเสียเวลาพักฟื้น และสามารถเห็นผลได้ทันทีหลังจากการฉีด

ฟิลเลอร์ใต้ตา เหมาะกับใคร

  • คนที่มีปัญหารอยคล้ำใต้ตาที่เป็นสาเหตุทำให้ใบหน้าดูไม่สดใส เหมือนคนพักผ่อนน้อย
  • คนที่มีปัญหาริ้วรอยใต้ตา ร่องใต้ตา หลังจากทำการรักษาจะทำให้ผิวบริเวณนั้นอิ่มฟู ร่องใต้ตาเรียบเนียน
  • คนที่มีปัญหาถุงใต้ตาเกิดจากอายุที่เพิ่มมากขึ้น กระดูกยุบตัว เอ็นยึดใต้ตาหย่อน ฟิลเลอร์จะไปเติมเต็มในส่วนที่ขาดหายไปและช่วยชะลอความชราในอนาคตได้ ทำให้ถุงใต้ตาเรียบเนียน ดูอ่อนเยาว์
  • เหมาะกับคนที่กลัวการผ่าตัดถุงใต้ตา แพ้การดมยาสลบ ไม่มีเวลาพักฟื้น
  • คนที่อยากเห็นผลลัพธ์ทันทีหลังทำ

ฉีดดอลลี่อาย กับ ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ต่างกันอย่างไร

การฉีดดอลลี่อาย กับการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เป็นเทคนิคการเสริมความงามที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน โดยทั้งสองวิธีเป็นการฉีดสารเติมเต็มเข้าไปเพื่อแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับผิวหนังรอบดวงตา หรือเข้าไปช่วยเติมเต็ม แต่ทั้งนี้ทั้งสองวิธีก็ยังมีข้อแตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นวัตถุประสงค์ในการทำ ระยะเวลาของผลลัพธ์และค่าใช้จ่ายเป็นต้น โดยความแตกต่าง มีดังนี้

การฉีดดอลลี่อายการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
– การฉีดดอลลี่อาย เป็นการฉีดฟิลเลอร์เพื่อเติมเต็มในส่วนของกล้ามเนื้อ orbicularis oculi ซึ่งเป็นกล้ามเนื้อที่อยู่บริเวณขอบตาล่าง– การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เป็นการฉีดฟิลเลอร์เพื่อเข้าไปช่วยแก้ไขปัญหาผิวหนังบริเวณรอบดวงตา  
– การฉีดดอลลี่อาย จะทำให้ดวงตาดูโตขึ้น และทำให้ใบหน้าดูเด็ก ยังรวมไปถึงทำให้ใบหน้าดูหวานยิ่งขึ้น– การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา จะช่วยแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับริ้วรอยบริเวณรอบดวงตา รอยหมองคล้ำ ตาโหล เบ้าตาลึก หรือแก้ไขปัญหาเรื่องถุงใต้ตา เป็นต้น
– การฉีดดอลลี่อาย สามารถทำร่วมกับการทำตาสองชั้นได้– การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา สามารถเลือกชนิดของฟิลเลอร์ และปริมาณที่ต้องการฉีดได้ตามปัญหาที่ต้องการแก้ไข
– การฉีดดอลลี่อาย จะให้ผลลัพธ์ที่ชัดเจน และเห็นผลได้ทันทีหลังการฉีด ซึ่งผลลัพธ์จะอยู่ได้นาน 6-12 เดือน– การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา จะให้ระยะเวลาของผลลัพธ์ที่ขึ้นอยู่กับปัญหาที่ต้องการแก้ไข รุ่นและยี่ห้อของฟิลเลอร์ โดยทั่วไปจะอยู่ได้นาน 12-18 เดือน รวมถึงการดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ด้วย
– การฉีดดอลลี่อาย จะใช้ปริมาณอยู่ที่ 1-2 CC– การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา จะใช้ปริมาณอยู่ 1-3 CC ขึ้นอยู่กับปัญหาและจุดที่จะแก้ไขในแต่ละคน

ฉีดดอลลี่อาย กับ ฟิลเลอร์ใต้ตา อะไรดีกว่ากัน ?

การฉีดดอลลี่อาย กับการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เป็นเทคนิคการเสริมความงามที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน โดยทั้งสองวิธีมีวัตถุประสงค์ในการทำที่แตกต่างกัน ดังนั้นหากเกิดคำถามที่ว่า “ฉีดดอลลี่อาย กับ ฟิลเลอร์ใต้ตา อะไรดีกว่ากัน ?” คำตอบคือ ทั้งการฉีดดอลลี่อาย กับการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาดีทั้งคู่ ขึ้นอยู่กับความต้องการของแต่ละบุคคล อย่างบุคคลใดที่ต้องการทำให้ใบหน้าดูอ่อนหวาน หรือต้องการให้ใบหน้าดูเด็ก การฉีดดอลลี่อายก็ถือว่าเหมาะสม ส่วนบุคคลใดต้องการแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับตาโหล เบ้าตาลึก หรือต้องการทำให้ริ้วรอยใต้ตาดูจางลง การเลือกฉีดฟิลเลอรืใต้ตาก็ถือว่าเหมาะสม เพราะฉะนั้นแล้ว การปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนทำการเลือกฉีดดอลลี่อายหรือฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา จะช่วยให้คนไข้หรือบุคคลนั้นๆ แก้ไขปัญหาได้ตรงจุด โดยหมอส้ม หมอเกรซ และทีมแพทย์ Mudan Pavilion ยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย Inbox Facebook หรือ Add Line นี้ได้เลย คุณหมอตอบเองทุกเคส

ความเสี่ยงและข้อควรระวัง

สำหรับความเสี่ยงและข้อควรระวัง ในการทำฉีดดอลลี่อายหรือฉีดฟิลเลอร์ใต้ตานั้น ตรงตำแหน่งการฉีดของทั้งสองวิธีถือว่ามีความเสี่ยงที่เหมือนกัน ดังนั้นข้อควรระวังของทั้งสองวิธีจึงเหมือนกัน เพราะบริเวณรอบดวงตามีเส้นเลือดฝอยบริเวณนี้มาก หากฟิลเลอร์ไปอุดตันเส้นเลือดบริเวณดังกล่าว จะทำให้เลือดไหลไปหล่อเลี้ยงบริเวณดวงตาไม่สะดวก ทำให้เกิดอาการตาพร่ามัว ไปจนถึงอาการตาบอดได้ แต่การเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ไม่ได้เกิดขึ้นได้ง่ายๆ ด้วยเหตุนี้ จึงจำเป็นต้องเลือกใช้บริการกับแพทย์ที่มีความชำนาญทั้งด้านกายวิภาคของใบหน้า และด้านการฉีดฟิลเลอร์โดยเฉพาะ ซึ่งอาจจะใช้หลักการดังต่อไปนี้ ในการลดความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นได้

  • การศึกษาหาข้อมูลเกี่ยวกับการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาและการฉีดดอลลี่อายอย่างถูกต้อง
  • ไม่เห็นแก่ราคาถูกหรือโปรโมชั่น
  • ตรวจสอบแพทย์ผู้ทำการรักษา (ตรวจสอบรายชื่อได้จากทางแพทยสภา)
  • แพทย์ต้องมีความเชี่ยวชาญทั้งด้านกายวิภาคของใบหน้า และด้านการฉีดฟิลเลอร์โดยเฉพาะ
  • คุณภาพของยา ต้องเป็นฟิลเลอร์แท้เท่านั้น

ฉีดฟิลเลอร์ดอลลี่อาย (Dolly Eyes) 3 สไตล์

  • ทรง Korean Style ดอลลี่อายสายเกา. เอกลักษณ์ทรงนี้จะทำให้ดวงตากลมโต ส่งเสริมให้รอยยิ้มมีความน่ารักสดใส เสมือนสาวน้อย วัยแรกแย้ม 20 ต้นๆ
  • ทรง Chinese Style ดอลลี่อายสาย พส.จีน ทรงนี้จะเหมาะกับสาวหมวย ที่ต้องการเพิ่มเสน่ห์ให้กับดวงตากลมโต สวยงาม
  • ทรง Hollywood Style ดอลลี่อายสายฝอ. เหมาะกับสาวที่มีรูปตากลมโตอยู่เดิม ต้องการเพิ่มเสน่ห์ดวงตา สาวที่มีรูปตากลมโตอยู่เดิม ต้องการเพิ่มเสน่ห์ดวงตาหวานละมุมปนโฉบเฉี่ยว มีความแบ๋วซ่อนเปรี้ยว นิดๆ

รีวิวฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา

รีวิวฉีดดอลลี่อาย