การฉีดฟิลเลอร์เป็นวิธีที่ได้รับความนิยมในการปรับรูปหน้าและคืนความอ่อนเยาว์ แต่สำหรับผู้ที่กำลังวางแผนฉีดฟิลเลอร์ครั้งแรก อาจมีคำถามเกี่ยวกับสิ่งที่ควรรู้ก่อนทำ รวมถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้ บทความนี้จะพาคุณไปทำความเข้าใจกับข้อมูลสำคัญก่อนการฉีดฟิลเลอร์ ไม่ว่าจะเป็นกระบวนการฉีด การเตรียมตัว และผลข้างเคียงที่ควรระวัง เพื่อช่วยให้ผู้ที่กำลังตัดสินใจเป็นครั้งแรกได้เข้าใจเรื่องของการฉีดฟิลเลอร์และมีความมั่นใจมากยิ่งขึ้นก่อนเข้ารับการฉีดฟิลเลอร์
ฟิลเลอร์ คือ
ฟิลเลอร์ คือสารเติมเต็มที่นิยมใช้ในการฉีดเข้าตรงบริเวณใต้ผิวหนัง เพื่อช่วยในการเติมเต็มร่องลึก และริ้วรอยบนใบหน้า ทำให้ผิวหนังบนใบหน้ามีความเรียบเนียน มีความอิ่มฟู รวมถึงทำให้ใบหน้าดูอ่อนกว่าวัย โดยฟิลเลอร์มีส่วนประกอบหลักของกรดไฮยาลูโรนิก (Hyaluronic Acid) ซึ่งเป็นสารที่สามารถพบได้ตามธรรมชาติในร่างกาย ซึ่งหลังจากทำการฉีดฟิลเลอร์ สาร HA จะเข้าไปจับกับโมเลกุลของน้ำ ทำให้ตรงบริเวณที่ฉีดมีปริมาณน้ำเพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้ผิวหนังมีความชุ่มชื้น ดูอิ่มฟู ริ้วรอยร่องลึกมีความตื้นขึ้น และริ้วรอยมีความจางลง นอกจากนี้ ฟิลเลอร์ยังช่วยกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินขึ้นมาใหม่ ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ผิวหนังมีความแข็งแรง และทำให้ผิวหนังมีความยืดหยุ่นขึ้น
ฟิลเลอร์เหมาะกับใคร
อย่างที่ทราบฟิลเลอร์มีส่วนประกอบของกรดไฮยาลูโรนิก (Hyaluronic Acid) ซึ่งมีคุณสมบัติอุ้มน้ำได้ดี ส่งผลให้ผิวหนังมีความชุ่มชื้น อิ่มฟู ริ้วรอยร่องลึกมีความตื้นขึ้น และช่วยให้ริ้วรอยมีความจางลง ฟิลเลอร์จึงเหมาะกับบุคคลที่มีลักษณะ ดังนี้
- บุคคลที่ต้องการแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับริ้วรอย เช่นริ้วรอยตรงบริเวณรอบดวงตา รอยร่องลึก รอยร่องแก้ม และมุมปาก โดยฟิลเลอร์จะเข้าไปช่วยเติมเต็มทำให้ผิวหนังมีความเรียบเนียนยิ่งขึ้น
- บุคคลที่มีปัญหาเกี่ยวกับใต้ตาคล้ำ โดยฟิลเลอร์จะช่วยเติมเต็มใต้ตาที่เกิดการยุบตัวลง ทำให้ดูสดใสขึ้น
- บุคคลที่ต้องการปรับรูปหน้า เช่นปรับรูปทรงจมูกให้โด่งขึ้น เติมริมฝีปากให้มีความอิ่มฟู และปรับรูปคางให้ได้สัดส่วน
- บุคคลที่มีปัญหาผิวหนังไม่เรียบเนียน เช่น รอยย่นบนหน้าผาก โดยการฉีดฟิลเลอร์หน้าผากจะเข้าไปช่วยเติมเต็มร่องให้ผิวดูเรียบเนียนขึ้น
- ฟิลเลอร์เหมาะสำหรับบุคคลที่ต้องการเห็นผลลัพธ์แบบเร่งด่วน ต้องการแก้ไขปัญหาโดยไม่ต้องทำการผ่าตัด และไม่ต้องเสียเวลาพักฟื้น
ฟิลเลอร์มีกี่ประเภท
อย่างที่รู้กัน ฟิลเลอร์ เป็นหัตถการที่ได้รับความนิยมอย่างมาก โดยทางการรักษาแพทย์จะทำการฉีดสารเติมเต็มเข้าใต้ผิวหนัง ฟิลเลอร์จะช่วยในการปรับรูปหน้าให้มีความอ่อนเยาว์ ช่วยเติมเต็มรอยร่องลึก รอยย่น และช่วยเพิ่มวอลลุ่มให้กับใบหน้า ซึ่งฟิลเลอร์แต่ละประเภทก็มีคุณสมบัติ หรือระยะเวลาการคงอยู่ที่แตกต่างกัน
ฟิลเลอร์ถูกแบ่งออกเป็น 3 ปะเภท ดังนี้
1. ฟิลเลอร์แบบถาวร (Permanent filler) เป็นฟิลเลอร์ที่ไม่สามารถสลายตัวได้เองตามธรรมชาติ โดยหลังจากการฉีดผิวหนังไม่สามารถดูดซึมได้ ส่งผลให้เกิดการตกค้างใต้ชั้นผิว ซึ่งฟิลเลอร์แบบถาวรมักมีส่วนประกอบของสาร ดังนี้
- Polymethylmethacrylate (PMMA) เป็นสารที่นิยมใช้ในฟิลเลอร์ประเภทนี้ เนื่องจากมีความคงตัวสูง แต่ก็มีความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อน
- ซิลิโคน เป็นสารที่ใช้ในการเสริมความงาม แต่การนำมาใช้ในฟิลเลอร์นั้นมีความเสี่ยงสูง และอาจก่อให้เกิดปัญหาในระยะยาว
2. ฟิลเลอร์แบบกึ่งถาวร (Semi-Permanent filler) เป็นสารเติมเต็มที่ฉีดเข้าใต้ผิวหนัง ซึ่งช่วยในการเพิ่มวอลลุ่มให้กับใบหน้า ช่วยลดเลือนริ้วรอย และช่วยในการปรับรูปหน้าให้มีความอ่อนวัย ฟิลเลอร์แบบกึ่งถาวรมีจุดเด่น คือ ระยะเวลาการคงอยูได้นานกว่าฟิลเลอร์แบบชั่วคราว แต่ไม่อยู่ถาวรแบบฟิลเลอร์ถาวร จึงเหมาะกับบุคคลที่ต้องการผลลัพธ์อยู่ได้นาน แต่ยังมีความยืดหยุ่นในการปรับเปลี่ยนรูปหน้า โดยฟิลเลอร์แบบกึ่งถาวรมีส่วนประกอบของสาร ดังนี้
- Calcium Hydroxylapatite เป็นสารที่พบได้ตามธรรมชาติในกระดูก เมื่อมีการฉีดสารเข้าสู่ร่างกาย จะทำให้เกิดการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และสารอีลาสติน ทำให้ผิวหนังมีความแข็งแรง และทำให้ผิวมีความยืดหยุ่นมากขึ้น
- Poly-L-lactic acid (PLLA) เป็นสารที่กระตุ้นให้ร่างกายเกิดการสร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวหนังมีความหนาแน่นขึ้น และช่วยลดเลือนรอยร่องลึก
- Polyalkylimide เป็นสารที่มีคุณสมบัติในการสร้างโครงสร้างให้กับผิวหนัง ทำให้ผิวหนังมีความแข็งแรง และทำให้มีความยืดหยุ่นมากขึ้น
3. ฟิลเลอร์แบบชั่วคราว (Temporary Filler) เป็นฟิลเลอร์ที่นิยมใช้กันมากในปัจจุบัน เนื่องจากฟิลเลอร์ประเภทนี้สามารถสลายตัวเองได้ตามธรรมชาติ มีความปลอดภัยสูง โดยฟิลเลอร์แบบชั่วคราวมีส่วนประกอบของสารคือ กรดไฮยาลูโรนิก (Hyaluronic Acid – HA) ที่มีคุณสมบัติอุ้มน้ำได้ดี จึงทำให้ผิวหนังมีความชุ่มชื้น และดูอิ่มฟู โดยมีอายุการคงอยู่ได้ถึง 1 ปี
ข้อดี – ข้อเสีย ของการฉีดฟิลเลอร์
ข้อดีของการฉีดฟิลเลอร์ มีดังนี้
- ฟิลเลอร์มีส่วนประกอบของกรดไฮยาลูโรนิก (Hyaluronic Acid) ที่สามารถพบได้ตามธรรมชาติในร่างกาย สามารถสลายได้ จึงมีความปลอดภัยสูง และไม่ทิ้งสารตกค้าง
- ฟิลเลอร์ช่วยลดเลือนริ้วรอยต่าง ๆ เช่น รอยร่องแก้ม รอยร่องหางตา และรอยร่องน้ำหมาก
- ฟิลเลอร์ช่วยเพิ่มวอลลุ่มให้กับใบหน้า เช่น แก้มตอบ และคางแหลม
- ฟิลเลอร์จะช่วยในการปรับรูปหน้าให้ดูสมส่วน และมีความสวยงาม
- ฟิลเลอร์ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวหนัง ทำให้ผิวดูอิ่มน้ำ และมีความชุ่มชื้น
- หลังจากการฉีดฟิลเลอร์ จะช่วยเติมเต็มรอยร่องลึกต่าง ๆ เช่น รอยแผลเป็น เป็นต้น
- หลังจากการฉีดหากไม่พอใจกับผลลัพธ์ สามารถฉีดยาสลายฟิลเลอร์ได้
- หลังจากการฉีดฟิลเลอร์ สามารถเห็นผลลัพธ์ได้ทันที ไม่ต้องเสียเวลาพักฟื้น และไม่ต้องทำการผ่าตัด
- ฟิลเลอร์สามารถคงอยู่ได้นานถึง 1 ปี ขึ้นอยู่กับประเภทของฟิลเลอร์
ข้อเสียของการฉีดฟิลเลอร์
- การฉีดฟิลเลอร์ให้ผลลัพธ์ที่ไม่ถาวร
- หากฉีดฟิลเลอร์ที่ไม่ได้มาตรฐาน หรือฉีดกับแพทย์ที่ไม่มีความชำนาญ อาจทำให้เกิดการติดเชื้อได้
- หลังจากการฉีดอาจจะเกิดผลข้างเคียง เช่น อาการบวมแดง รอยช้ำ หรืออาการคัน ซึ่งอาการเหล่านี้จะหายไปเอง แต่หากเกิดอาการรุนแรงให้รีบปรึกษาแพทย์ทันที
ฟิลเลอร์แท้ ดูยังไง
อย่างที่ทราบกัน การฉีดฟิลเลอร์ เป็นการเสริมความงามโดยแพทย์จะทำการฉีดสารเติมเต็มเข้าใต้ผิวหนัง เพื่อช่วยแก้ไขปัญหา เช่น ปัญหาริ้วรอย ปัญหารอยร่องลึก ต้องการปรับรูปหน้า และปัญหาผิวหนังไม่เรียบ เป็นต้น ปัจจุบันมีฟิลเลอร์ที่ไม่มาตรฐานถูกผลิตออกมาเป็นจำนวนมาก ซึ่งหากมีการฉีดฟิลเลอร์ปลอมเข้าไปในร่างกาย จะทำให้ร่างกายเกิดการติดเชื้ออย่างรุนแรง เกิดอาการแพ้ เกิดการอักเสบเรื้อรัง เกิดการตกค้างของสาร เกิดการอุดตันในหลอดเลือด และฟิลเลอร์อาจเกิดการจับตัวเป็นก้อน จนทำให้เกิดการผิดรูป เป็นต้น
ดังนั้นเพื่อความปลอดภัย และเพื่อไม่ให้เกิดผลข้างเคียงที่อาจจะส่งผลต่อชีวิต ควรมีวิธีดูฟิลเลอร์แท้ว่าดูยังไง ดังนี้
- สังเกตจากบรรจุภัณฑ์ โดยบรรจุภัณฑ์ต้องมีความสมบูรณ์ ไม่บุบ หรือมีรอยแกะ นอกจากนี้บนกล่องต้องมีฉลากภาษาไทยติดอยู่อย่างชัดเจน และมีจุดสังเกตุ ดังนี้
- มีเลขทะเบียน อย.
- มีเลข Lot ตรงกัน 4 จุด คือ เลข Lot ที่หลอด, เลข Lot ที่กล่อง, เลข Lot ที่สติกเกอร์ และ เลข Lot ที่ซองหรือหลอด
- สังเกตจากเนื้อฟิลเลอร์ โดยฟิลเลอร์ต้องเป็นเนื้อเจล มีความใส ไม่มีฟองอากาศ ไม่มีตะกอน มีสีที่สม่ำเสมอ นอกจากนี้เนื้อฟิลเลอร์ต้องมีความหนืดที่เหมาะสม เมื่อหลังจากการฉีดฟิลเลอร์จะมีการกระจายตัวได้ดี และจะมีความไหลลื่น
- สังเกตจากราคา ฟิลเลอร์จะมีราคาที่ค่อนข้างสูง ซึ่งขึ้นอยู่กับยี่ห้อ และปริมาณ เป็นต้น
- สังเกตจากแหล่งที่มา ฟิลเลอร์แท้จะมีใบรับรองการนำเข้า และมีมาตรฐานการผลิต นอกจากนี้ควรฉีดกับคลินิก หรือสถาพยาบาลที่ได้มาตรฐาน น่าเชื่อถือ และต้องฉีดโดยแพทย์ที่มีความชำนาญ
- สังเกตจากผลลัพธ์ เมื่อฉีดฟิลเลอร์แท้ ผลลัพธ์ที่ได้จะดูเป็นธรรมชาติ มีความเรียบเนียนไปกับผิวหนัง นอกจากนี้ยังสลายตัวเองได้ตามธรรมชาติ และไม่มีอาการแทรกซ้อน เช่นอาการติดเชื้อ หรืออาการแพ้ เป็นต้น
ฉีดฟิลเลอร์ ราคา
ก่อนฉีดฟิลเลอร์ควรปฏิบัติอย่างไร
ก่อนทำการฉีดฟิลเลอร์ควรมีการปฏิบัติตัวดังนี้ เพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพ และเพื่อความปลอดภัย
- ควรงดทานยาแอสไพริน , NSAIDs เช่น Ibuprofen , Diclofenac , Ponstan เป็นเวลา 7 วันก่อนทำการฉีด และควรมีการปรึกษากับแพทย์ก่อนหยุดยา
- ควรงดทานวิตามิน St.John Wort , Ginkgo biloba , Primrose oil , Garlic , Ginseng , and Vitamin E เป็นเวลา 7 วันก่อนทำการฉีด
- ควรงดยาทาชนิดผลัดเซลล์ผิว เช่น Tretinoin (Retin-A) , Retinols , Retinoids , Glycolic Acid , หรือครีมในกลุ่ม “ Anti-Aging ” ทุกชนิด เป็นเวลา 3 วันก่อนทำการฉีด
- งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เป็นเวลา 24 ชั่วโมก่อนการฉีด เนื่องจากแอลกอฮอล์จะทำให้เลือดไหลง่ายขึ้น และอาจจะเพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดรอยช้ำได้
- งดการสูบบุหรี่ เป็นเวลา 24 ชั่วโมก่อนการฉีด เนื่องจากสารนิโคตินจะทำให้การไหลเวียนเลือดไม่ดี ซึ่งอาจส่งผลต่อการสมานแผล
- งดการแว็ก การผลัดเซลล์ผิว การดึงขน และการโกนขนตรงบริเวณที่จะทำการฉีด เป็นเวลา 3 วัน
- หากมีการซื้อคอร์สทำหน้า นวดหน้า หรือเลเซอร์ต่าง ๆ ควรทำมาก่อนอย่างน้อย 3 วัน ก่อนฉีดฟิลเลอร์ เพราะหลังจากฉีดต้องเว้นไปอีก 2 อาทิตย์
- หากมีผิวหนังที่เกิดการอักเสบ หรือมีการติดเชื้อตรงบริเวณที่จะฉีด ควรแจ้งกับทางแพทย์ก่อน
- หากมีโรคประจำตัว หรือยาที่กินเป็นประจำ ควรเตรียมข้อมูลไว้เพื่อแจ้งกับแพทย์ก่อนที่จะทำการฉีด
สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่ [ข้อห้าม] ก่อน-หลัง ฉีดฟิลเลอร์
คำถามที่พบบ่อย
ฉีดฟิลเลอร์อันตรายไหม ?
การฉีดฟิลเลอร์ เป็นเทคนิคเสริมความงามที่ โดยทั่วไป ไม่อันตราย หากทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และมีประสบการณ์ในการฉีดฟิลเลอร์ รวมถึงมีการใช้อุปกรณ์ ฟิลเลอร์แท้ หรือคลินิกที่ได้รับการรับรองจากหน่วยงานของรัฐ นอกจากนี้ การฉีดฟิลเลอร์ยังเป็นวิธีการที่ได้รับความนิยม ซึ่งจะช่วยแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับริ้วรอยร่องลึก ช่วยเพิ่มวอลลุ่มให้กับผิวหนัง ทำให้ผิวหนังเรียบเนียน และทำให้ผิวหนังดูอิ่มฟู และผิวหนังดูชุ่มชื้น เป็นต้น
ฟิลเลอร์สลายเองได้ไหม ?
ฟิลเลอร์สามารถสลายเองได้ตามธรรมชาติ เนื่องจากในฟิลเลอร์มีส่วนประกอบของกรดไฮยาลูรอนิก (Hyaluronic Acid – HA) ที่สามารถพบเห็นได้ตามธรรมชาติในร่างกาย หลังจากทำการฉีดสารเติมเต็มเข้าสู่ผิวหนัง เอนไซม์ในร่างกายจะค่อยๆ ย่อยสลายกรดไฮยาลูรอนิก จนฟิลเลอร์สลายไปเอง ทำให้ไม่ต้องกังวลเรื่องสารตกค้าง
ฉีดฟิลเลอร์ กี่วันเห็นผล ?
หลังจากการฉีดฟิลเลอร์สามารถเห็นผลลัพธ์ได้ทันที แต่ผลลัพธ์ที่เห็นอาจจะยังไม่ชัดเจน เนื่องจากอาจจะมีอาการบวมแดง หรือรอยช้ำที่เกิดจากเข็ม เป็นเวลา 7 วัน แล้วจะจางหายไปเอง หลังจากนั้นประมาณ 2 สัปดาห์ จะเริ่มเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนที่สุด ใบหน้าจะดูอิ่มฟู รอยร่องลึกมีความตื้นขึ้น และผิวหนังมีความเรียบเนียน ฟิลเลอร์มีอายุได้นานถึง 1 ปี ขึ้นอยู่กับประเภทของฟิลเลอร์