ส่งท้ายปีกันด้วยคำถามที่คาใจของคนส่วนใหญ่ที่กำลังตัดสินใจฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก กับ 20 คำถาม พร้อมคำตอบแบบที่เข้าใจง่าย ไม่ว่าจะเป็นคำถามยอดฮิตอย่าง ราคาเท่าไหร่? ฉีดที่ไหนดี? ฉีดทั้งหมดกี่ CC? บทความนี้มีทุกคำตอบ ซึ่งใครที่กำลังเตรียมตัวที่จะทำการฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก ควรอ่านทุกข้อเพื่อทำความเข้าใจก่อนตัดสินใจ
สารบัญ
- 1. ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก เจ็บไหม
- 2. ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก ใช้เวลานานไหม
- 3. ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก อยู่ได้นานแค่ไหน
- 4. ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก ค่าใช้จ่ายเท่าไหร่
- 5. ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก ที่ไหนดี
- 6. ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก อันตรายไหม
- 7. ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก ผลข้างเคียงมีอะไรบ้าง
- 8. ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก เหมาะกับใคร และ “ไม่” เหมาะกับใคร
- 9. ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก มีข้อห้ามอะไรบ้าง
- 10. ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก ดูแลตัวเองอย่างไร
- 11. ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก ยี่ห้อไหนดี
- 12. ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก กี่ cc
- 13. คนเป็นโรคประจำตัวอะไร ที่ไม่ควรฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก
- 14. ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก ทำให้หน้าบวมไหม
- 15. ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก ทำให้หน้าแข็งไหม
- 16. ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก ทำให้หน้าไม่สมส่วนไหม
- 17. ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก ต้องทำบ่อยไหม
- 18. ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก มีโอกาสติดเชื้อไหม
- 19. ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก มีโอกาสเป็นก้อนไหม
- 20. ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก ช่วยให้หน้าเด็กขึ้นไหม
1. ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก เจ็บไหม
หนึ่งในคำถามยอดฮิต ที่ผู้ฉีดฟิลเลอร์หน้าผากครั้งแรกมักจะถามกัน นั้นคือ เจ็บไหม? โดยทั่วไปจะเจ็บน้อยกว่าการฉีดฟิลเลอร์บริเวณอื่นของใบหน้า เหตุเพราะว่าหน้าผากเป็นบริเวณที่มีเนื้อเยื่อหนากว่าบริเวณอื่นๆ ถึงอย่างนั้นระดับความเจ็บปวดในการฉีดฟิลเลอร์หน้าผากนั้น อาจจะแตกต่างกันไปแล้วแต่บุคคล ซึ่งขึ้นอยู่กับความไวต่อความเจ็บปวดของแต่ละคนนั้นเอง โดยปริมาณฟิลเลอร์ที่ฉีด และเทคนิคการฉีดของแพทย์ก็มีผลเช่นกัน เพราะฉะนั้นแล้วถ้าคนไข้มีความกังวลในเรื่องนี้สูง ควรเลือกฉีดกับแพทย์ที่มีความชำนาญและมีประสบการณ์เรื่องการฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก
2. ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก ใช้เวลานานไหม
โดยทั่วไปการฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก ใช้เวลาประมาณ 30-60 นาที ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับปริมาณฟิลเลอร์ที่ฉีดและบริเวณที่ต้องการแก้ไขหรือเติมเต็ม โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะทำการประเมินความต้องการและสภาพผิวของคนไข้ก่อนฉีด เพื่อกำหนดปริมาณฟิลเลอร์และตำแหน่งในการฉีดที่เหมาะสม ระยะเวลาในการดำเนินการก็จะขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ ที่กล่าวมาทั้งหมด
3. ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก อยู่ได้นานแค่ไหน
โดยทั่วไปแล้ว การฉีดฟิลเลอร์หน้าผากจะอยู่ได้นานประมาณ 6-18 เดือน ขึ้นอยู่กับหลายๆ ปัจจัยดังนี้
- ยี่ห้อฟิลเลอร์ที่ใช้
- ปริมาณฟิลเลอร์ที่ฉีด
- ตำแหน่งที่ฉีดฟิลเลอร์
- การดูแลรักษาหลังฉีดฟิลเลอร์
4. ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก ค่าใช้จ่ายเท่าไหร่
5. ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก ที่ไหนดี
การเลือกฉีดฟิลเลอร์หน้าผากที่ไหนดี มีปัจจัยในการเลือกไม่เยอะและเข้าใจง่าย ๆ ดังนี้
- คลินิกต้องได้มาตรฐาน ผ่านการรับรองจากกระทรวงสาธารณสุข
- แพทย์ต้องมีประสบการณ์ และความชำนาญ สามารถฉีดฟิลเลอร์หน้าผากได้อย่างถูกต้องและปลอดภัย
- ฟิลเลอร์ที่นำมาใช้ ต้องเป็นฟิลเลอร์แท้เท่านั้น
- สังเกตุรีวิว ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก จากผู้ที่เคยใช้บริการจริง
6. ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก อันตรายไหม
การฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก ต้องบอกเลยว่าเป็นอีกหนึ่งจุดที่อันตราย ถ้าไม่ได้รับการฉีดจากมือแพทย์ที่ชำนาญ เพราะบริเวณหน้าผากจะเป็นบริเวณที่มีเส้นเลือดที่เชื่อมไปยังลูกตาเยอะ หากฟิลเลอร์เข้าไปอุดตันเส้นเลือดบริเวณดวงตา อาจส่งผลให้หลังฉีดฟิลเลอร์มีอาการตาพร่ามัวและเสี่ยงตาบอดได้ แต่ถ้าฉีดด้วยเทคนิคที่ถูกต้อง กับแพทย์ที่มีประสบการณ์และด้วยฟิลเลอร์แท้ที่ได้มาตรฐาน ก็มีความปลอดภัย 100%
7. ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก ผลข้างเคียงมีอะไรบ้าง
ผลข้างเคียงจากการฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก สามารถแบ่งออกเป็นระยะสั้นและระยะยาวได้ดังนี้
ระยะสั้น
- อาการบวมหรือช้ำบริเวณที่ฉีด
- อาการแดงหรือคันบริเวณที่ฉีด
- อาการปวดบริเวณที่ฉีด
โดยผลข้างเคียงระยะสั้นนี้มักหายไปเองภายใน 2-3 วัน แต่หากอาการไม่ดีขึ้นหรือมีอาการรุนแรงขึ้น ควรรีบปรึกษาแพทย์ทันที
ระยะยาว
- พบก้อนฟิลเลอร์เคลื่อนตัวหรือนูนไม่เท่ากัน โดยอาการนี้อาจแก้ไขได้ด้วยการฉีดยาสลายฟิลเลอร์
- อาการแพ้ฟิลเลอร์ โดยอาการจะเหมือนกับการแพ้ระยะสั้น แต่อาการที่ยาวนานมากกว่า รวมไปถึงบางคนไข้อาจพบอาการ หน้ามืด วิงเวียนศีรษะ เป็นต้น
- อาการเนื้อตายบริเวณที่ฉีด พบได้น้อยมากและมักเกิดจากฉีดฟิลเลอร์เข้าไปในเส้นเลือด
การป้องกันที่ดีที่สุด เพื่อลดโอกาสที่จะเกิดผลค้างเขียงทั้งหมด คือ การปรึกษาแพทย์และเลือกฉีดกับแพทย์ที่มีความชำนาญและมีประสบการณ์เรื่องการฉีดฟิลเลอร์
8. ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก เหมาะกับใคร และ “ไม่” เหมาะกับใคร
การฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก จะเหมาะกับคนที่อยากแก้ไขจุดบกพร่องบริเวณหน้าผากโดยไม่อยากผ่าตัด ไม่ต้องการให้มีแผลบริเวณหน้าผาก และเพื่อเสริมโหงวเฮ้งหน้าผากให้นูนขึ้นแทนการใช้ซิลิโคน โดย
เหมาะกับใคร | ไม่ เหมาะกับใคร |
---|---|
– เหมาะกับคนที่มีปัญหาหน้าผากยุบ หน้าผากแคบ มีรอบบุ๋ม – เหมาะกับคนที่หน้าผากแบน และเอียงไปด้านหลัง ทำให้หน้าดูแก่ มีอายุ – เหมาะกับคนที่ขมับยุบมาก หน้าจะดูเป็นทรงกะโหลกชัด เหมือนคนป่วย – เหมาะกับคนที่ต้องการให้หน้าผากมีความอิ่มเต็ม ลดเลือนรอยตำหนิหรือแผลเป็น – เหมาะกับคนที่อยากเสริมโหงวเฮ้งหน้าผาก – เหมาะกับคนที่ไม่อยากผ่าตัด ไม่อยากให้มีรอยแผล ไม่มีเวลาพักพื้น | – ผู้ที่แพ้สาร Hyaluronic Acid – ผู้ที่มีแผลบริเวณที่ฉีด – ผู้ที่ตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร |
9. ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก มีข้อห้ามอะไรบ้าง
สำหรับเรื่องของข้อห้ามหรือข้อปฏิบัติ จะขอแบ่งออกเป็น ก่อนและหลัง โดยข้อห้ามหรือข้อปฏิบัติ ต่อจากนี้ สามารถใช้ได้กับการแก้ไขทุกจุดที่ทำการฉีดฟิลเลอร์ ไม่ใช่เพียงแค่ฉีดฟลิเลอร์หน้าผากเท่านั้น
ข้อปฏิบัติตัวก่อนฉีดฟิลเลอร์ (1 อาทิตย์ก่อนทำ )
- ควรงดยา แอสไพริน , NSAIDs เช่น Ibuprofen , Diclofenac , Ponstan เป็นเวลา 1 อาทิตย์ก่อนทำหัตถการ และควรปรึกษาแพทย์ก่อนที่จะหยุดยานั้น ๆ
- ควรงดวิตามิน St.John Wort , Ginko biloba , Primrose oil , Garlic , Ginseng , and Vitamin E เป็นเวลา 1 อาทิตย์ก่อนทำหัตถการ
- ควรงดยาทาชนิดผลัดเซลล์ผิว เช่น Tretinoin (Retin-A) , Retinols , Retinoids , Glycolic Acid , หรือครีมในกลุ่ม “ Anti-Aging ” ทุกชนิด เป็นเวลา 3 วันก่อนทำ
- ควรงดการแว็ก ผลักเซลล์ผิว การดึงขนหรือโกนขนบริเวณนั้นๆ เป็นเวลา 3 วันก่อนทำหัตถการ
- หากมีคอร์สทำหน้านวดหน้าหรือเลเซอร์ต่าง ๆ ควรทำมาก่อนอย่างน้อย 3 วัน ก่อนฉีดฟิลเลอร์ เพราะหลังทำต้องเว้นไปอีก 2 อาทิตย์
- หากมีโรคประจำตัว หรือยาที่กินเป็นประจำอื่น ๆ ควรเตรียมข้อมูลไว้เพื่อแจ้งกับแพทย์ก่อนที่จะทำหัตถการ
ข้อปฏิบัติตัวหลังฉีดฟิลเลอร์
- งดเลเซอร์ อบซาวหน้า นวดหน้าลงความร้อนบริเวณหน้าอย่างน้อย 1 เดือน
- งดทานยาหรือวิตามินที่ทำให้เลือดออกมากขึ้น เช่น แอสไพริน , วิตามินอี , ใบแป๊ะก๊วย ในช่วง 1 สัปดาห์แรก
- งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เหล้า เบียร์ บุหรี่ อย่างน้อย 2 สัปดาห์
- งดอาหารหมักดอง เนื่องจากของหมักดอกจะมีโซเดียมสูง อาจส่งผลกับบริเวณตำแหน่งที่มีการฉีดฟิลเลอร์ให้อาการบวมมากกว่าปกติ และหายบวมช้าลง
- หลีกเลี่ยงความร้อนต่างๆบริเวณใบหน้า เช่น การเป่าผม และ การล้างหน้าด้วยน้ำอุ่น
- ดื่มน้ำเยอะๆ ขั้นต่ำ 2-3 ลิตร ต่อวัน เนื่องจากฟิลเลอร์จะฟูขึ้น ทำให้อยู่ได้นาน
- ไม่ควรกดนวดคลึงลูบคลำ หรือปั้นเอง บริเวณตำแหน่งที่มีการฉีดฟิลเลอร์ เพื่อลดการเคลื่อนย้ายของตัวยาไปตำแหน่งที่ไม่ต้องการ
- สามารถแต่งหน้าได้ตามปกติในวันรุ่นขึ้นหลังฉีดฟิลเลอร์
ถ้ายังมีความกังวลอยู่ ก็ควรจะปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ก่อนและหลังทำหัตถการเสมอ เพื่อความปลอดภัยและได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
10. ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก ดูแลตัวเองอย่างไร
สำหรับการดูแลตัวเอง ไม่ว่าจะก่อนหรือหลังฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก ก็จะไม่ต่างอะไรกับข้อห้ามที่ได้กล่าวไว้เบื้องต้นแล้ว โดยสามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่ ข้อห้าม ก่อน-หลัง ฉีดฟิลเลอร์ห้ามกินอะไร ห้ามทำอะไรบ้าง
11. ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก ยี่ห้อไหนดี
การเลือกฟิลเลอร์และรุ่นให้ตรง ถือว่าเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ควรรู้ โดยแพทย์ที่ชำนาญและเข้าใจในฟิลเลอร์แต่ละยี่ห้อ จะเลือกรุ่นที่เหมาะกับหน้าผากที่คนไข้หรือผู้ใช้บริการต้องการ ซึ่งฉีดฟิลเลอร์หน้าผากยี่ห้อไหนดี และรุ่นไหน มีแนะนำอยู่ 2 ยี่ห้อ Juvederm และ Restylane โดยใครที่สนใจสามารถดูรายละเอียดโปรโมชั่นเพิ่มเติมได้ที่ โปรโมชั่นฟิลเลอร์
12. ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก กี่ cc
โดยการฉีดฟิลเลอร์หน้าผากจะใช้ประมาณ 3-7 CC ขึ้นอยู่กับปัญหาของแต่ละบุคคล และขึ้นอยู่กับพื้นฐานหน้าผากเดิมของคนไข้ ซึ่งการฉีดฟิลเลอร์หน้าผากในแต่ละครั้ง ต้องฉีดด้วยเทคนิคที่ถูกต้องในชั้นเยื่อหุ้มกระดูกเท่านั้น ผลลัพธ์ที่ได้จึงจะดูเป็นธรรมชาติและคงตัว เป็นการเสริมกระดูกขึ้นมา โดยทีมแพทย์ มูตาน พาวิลเลี่ยน จะออกแบบ มิติหน้าผากให้รับกับใบหน้าของคนไข้มากที่สุด สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่ ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก กี่ cc
13. คนเป็นโรคประจำตัวอะไร ที่ไม่ควรฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก
คนที่มีโรคประจำตัวต่อไปนี้ ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจฉีดฟิลเลอร์
- โรคเลือดออกง่ายหรือผู้ที่มีประวัติเป็นแผลคีลอยด์ง่าย
- ผู้ที่มีอาการแพ้ส่วนผสมของฟิลเลอร์ ทั้งสารไฮยาลูรอนิกแอซิด และยาชา
- ผู้ที่เป็นโรคที่ต้องทานยาต้านการแข็งตัวของเลือด ยาละลายลิ่มเลือด
นอกจากนี้ ผู้ที่มีสภาวะกำลังตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร ก็ควรหลีกเลี่ยงการฉีดฟิลเลอร์ไปก่อน หรือทำการปรึกษาแพทย์ก่อนทำการฉีดฟิลเลอร์
14. ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก ทำให้หน้าบวมไหม
ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก อาจทำให้มีอาการหน้าบวมได้ ซึ่งในบางกรณีและอาจใช้เวลานานประมาณ 2-3 สัปดาห์ อาการบวมจึงจะหายไปเอง แต่อย่างไรก็ตามอาการบวมหลังฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก มักเกิดขึ้นภายใน 24 ชั่วโมงแรกหลังฉีด โดยอาการบวมที่กล่าวมานี้จะไม่รุนแรงถึงขั้นทำให้รูปหน้าเปลี่ยนไป
ถ้าใครที่พบอาการบวมดังกล่าว สามารถใช้วิธีลดอาการบวมต่อจากนี้ได้หลังฉีดฟิลเลอร์
- ประคบเย็นบริเวณที่ฉีดด้วยน้ำแข็งก้อนหรือผ้าเย็นประมาณ 20 นาที 3-4 ครั้งต่อวัน
- ดื่มน้ำให้เพียงพอ
- หลีกเลี่ยงการสัมผัสหรือขยับใบหน้าบริเวณที่ฉีดมากจนเกินไป
- รับประทานยาแก้ปวดตามแพทย์สั่ง
นอกจากนี้ การปรึกษาแพทย์หรือเลือกแพทย์ผู้ชำนาญในการฉีดฟิลเลอร์ โดยเฉพาะหน้าผาก ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัย ที่จะลดความเสี่ยงของการเกิดอาการบวมหลังฉีดฟิลเลอร์ได้อีกด้วย
15. ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก ทำให้หน้าแข็งไหม
หลังฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก อาจจะพบกับอาการที่ทำให้หน้าดูตึงขึ้นได้เล็กน้อย แต่จะไม่แข็งจนไม่สามารถขยับหน้าได้ โดยอาการตึง หรือหน้าแข็ง ที่เกิดหลังจากฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก มักเกิดขึ้นภายใน 24 ชั่วโมงแรกหลังฉีด และจะค่อยๆ ดีขึ้นภายใน 1-2 วัน อย่างไรก็ตาม การฉีดฟิลเลอร์หน้าผากด้วยเทคนิคที่ถูกต้อง เลือกใช้ฟิลเลอร์ที่มีคุณภาพดี และฉีดโดยแพทย์ผู้ชำนาญในการฉีดฟิลเลอร์ จะสามารถช่วยลดความเสี่ยงที่จะเกิดอาการตึงของหน้าลงได้
16. ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก ทำให้หน้าไม่สมส่วนไหม
ความจริงแล้วการฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก ไม่ได้ทำให้หน้าไม่สมส่วนได้ แต่หากฉีดฟิลเลอร์ผิดวิธี ถึงทำให้เกิดอาการหน้าไม่สมส่วน ตัวอย่างเช่น
- ฉีดฟิลเลอร์ในปริมาณที่มากเกินไป จะทำให้หน้าผากดูโป่งนูนจนเกินธรรมชาติ
- ฉีดฟิลเลอร์ในตำแหน่งที่ต่ำเกินไป อาจจะทำให้หน้าผากดูสั้นลง
- ฉีดฟิลเลอร์ในตำแหน่งที่สูงเกินไป อาจจะทำให้หน้าผากดูยาวขึ้น
- ฉีดฟิลเลอร์ในตำแหน่งที่ไม่เท่ากัน จะทำให้หน้าผากดูไม่สมส่วน
ดังนั้น ต้องการฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก ควรทำการปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนฉีด เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีและปลอดภัย โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะสามารถประเมินรูปหน้าและความต้องการของผู้ฉีดได้อย่างเหมาะสม และสามารถฉีดฟิลเลอร์ในปริมาณและตำแหน่งที่เหมาะสม
17. ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก ต้องทำบ่อยไหม
โดยทั่วไปแล้ว ฟิลเลอร์ไม่ว่าจะฉีดตำแหน่งไหนจะอยู่ได้ประมาณ 12-18 เดือน หลังจากนั้นฟิลเลอร์จะถูกร่างกายย่อยสลายไปเอง หากต้องการคงผลลัพธ์ของฟิลเลอร์หน้าผากไว้นาน ๆ ควรฉีดซ้ำทุก 12-18 เดือน อย่างไรก็ตาม ปัจจัยในการทำให้ฟิลเลอร์ที่ฉีดนั้นอยู่ได้นาน ก็ขึ้นอยู่กับการดูแลหลังการฉีดฟิลเลอร์ด้วยเช่นกัน
18. ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก มีโอกาสติดเชื้อไหม
การฉีดฟิลเลอร์หน้าผากมีโอกาสติดเชื้อได้เช่นเดียวกับการฉีดฟิลเลอร์บริเวณอื่น ๆ ของร่างกาย โดยอาการติดเชื้อหลังฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก มีดังนี้
- มีอาการปวด
- มีอาการบวม
- มีอาการแดง
- อุณหภูมิของผิวร้อนขึ้น
อย่างไรก็ตามยังมีวิธีป้องกันหรือหลีกเลี่ยงการติดเชื้อหลังฉีดฟิลเลอร์ ดังนี้
- เลือกคลินิกและแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่สะอาดและปลอดภัย
- ตรวจสอบความสะอาดของอุปกรณ์ที่ใช้ฉีดฟิลเลอร์
- หลีกเลี่ยงการฉีดฟิลเลอร์หากมีแผลหรือรอยช้ำบริเวณที่จะฉีดฟิลเลอร์
- ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัดหลังฉีดฟิลเลอร์
19. ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก มีโอกาสเป็นก้อนไหม
ความจริงแล้วการฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก ไม่ได้ทำให้เกิดอาการเป็นก้อน แต่หากฉีดฟิลเลอร์ในปริมาณที่ไม่เหมาะสม หรือฉีดฟิลเลอร์ในตำแหน่งที่ไม่ถูกต้อง ก็อาจจะทำให้เกิดอาการเป็นก้อนเกิดขึ้นได้ ดังนั้น ก่อนที่จะตัดสินใจฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก ควรศึกษาข้อมูล และปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง เพื่อให้แพทย์ประเมินความต้องการและสภาพผิวก่อนฉีด เพื่อป้องกันและหลีกเลี่ยงการเกิดอาการเป็นก้อนได้ อย่างไรก็ตาม ถ้าเกิดมีอาการเป็นก้อนหลังฉีดฟิลเลอร์ ก็ยังสามารถแก้ไขโดยการฉีดยาสลายฟิลเลอร์ เพื่อสลายฟิลเลอร์ก้อนออก อ่านเพิ่มเติมได้ที่ ฟิลเลอร์เป็นก้อนเกิดจากอะไร และจะแก้อย่างไร
20. ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก ช่วยให้หน้าเด็กขึ้นไหม
การฉีดฟิลเลอร์หน้าผากสามารถช่วยให้หน้าเด็กขึ้นได้จริง โดยฟิลเลอร์จะช่วยเติมเต็มบริเวณหน้าผากที่ยุบตัวลงตามวัย ทำให้หน้าผากดูเต่งตึงขึ้น รวมไปถึงรอยย่นบริเวณหน้าผากก็จะดูจางลง ส่งผลให้ใบหน้าโดยรวมดูอ่อนเยาว์ นอกจากนี้ การฉีดฟิลเลอร์หน้าผากบางที่ อย่างเช่น มูตาน พาวิลเลี่ยน (Mudan Pavilion Wellness Center) ยังสามารถช่วยปรับรูปหน้าให้ดูสมส่วน พร้อมเสริมโหงวเฮ้งหน้าผาก โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะประเมินความต้องการและสภาพผิวของแต่ละบุคคลก่อนฉีด เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ออกมาดูเป็นธรรมชาติและดูอ่อนเยาว์
ก็จบไปแล้วกับ คำถามยอดฮิต ที่คนส่วนใหญ่ที่กำลังจะทำการฉีดฟิลเลอร์มักจะถามกัน ซึ่งใครที่ได้อ่านมาถึงตรงนี้ ก็คงได้ความรู้ไปเยอะมากๆ โดยทางเราเชื่อว่า คงมีอีกหลายคำถามที่ไม่ได้ถูกหยิบยกขึ้นมา และถ้าจะให้หยิบมาทั้งหมดก็คงจะไม่ไหว อย่างไรก็ตาม การพบแพทย์เพื่อสอบถามทุกคำถามในใจ เป็นสิ่งที่ควรทำและต้องทำก่อนการตัดสินใจฉีดฟิลเลอร์ทุกครั้ง สำหรับ หมอส้ม หมอเกรซ และทีมแพทย์ Mudan Pavilion ยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย Inbox Facebook หรือ Add Line นี้ได้เลย คุณหมอตอบเองทุกเครส