รูปหน้า V-Shape เป็นอีกหนึ่งรูปหน้าที่หลายๆ คนชื่นชอบ และเป็นโครงหน้าที่จัดได้ว่าคล้ายดาราคนดังเยอะแยะมากมาย จึงไม่แปลกใจเลยที่ใครหลายๆ คน นิยมและอยากจะมีรูปหน้าเป็นแบบ V-Shape ยิ่งไปกว่านั้น บุคคลที่มีรูปหน้าไม่สมส่วน มีใบหน้าที่กลมไม่เรียว ก็อาจจะส่งผลเสียทางด้านโหงวเฮ้งใบหน้าได้ด้วย แต่ถึงอย่างงั้นบางคนก็มีความเชื่อว่าการปรับรูปหน้าต้องทำการศัลยกรรมเท่านั้น แต่ความเป็นจริงแล้วไม่เสมอไป โดยทางเราได้รวบรวมวิธีการปรับรูปหน้าให้ V-Shape โดยไม่ต้องศัลยกรรม ไม่ต้องเสียเวลาพักฟื้น มาให้กับทุกท่านแล้ว
ปรับรูปหน้า V-Shape
- การปรับรูปหน้า คืออะไร?
- สาเหตุที่ทำให้หน้าไม่เรียว
- การปรับรูปหน้า ช่วยเรื่องอะไรได้บ้าง ?
- ใครบ้างที่ควรปรับรูปหน้า ?
- วิธีการปรับรูปหน้าโดยไม่ศัลยกรรม
- การปรับรูปหน้าโดยไม่ศัลยกรรม ราคาเท่าไหร่ ?
- ปรับรูปหน้าโดยไม่ศัลยกรรม ที่ไหนดี
- ผลลัพธ์หลังปรับรูปหน้าโดยไม่ศัลยกรรม
การปรับรูปหน้า คืออะไร?
การปรับรูปหน้า คือ การรักษาเพื่อแก้ไขจุดพร่องบนใบหน้า หรือปัญหาที่เกิดตรงใบหน้า อาทิเช่น หน้าบาน แก้มเยอะ กรามใหญ่ หน้าผากแคบ หรือจมูกสั้น เป็นต้น เพื่อทำให้ใบหน้าสวยงามสมส่วน มีมิติ และตรงตามโหงวเฮ้ง นอกจากนี้การปรับรูปหน้ายังสามารถช่วยแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับความหย่อนคล้อยตามจุดต่าง ๆ เช่น แก้มห้อย เหนียงย้อย และผิวหนังที่หย่อยคล้อย เป็นต้น
สาเหตุที่ทำให้หน้าไม่เรียว
หน้าไม่เรียวสามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุ ซึ่งสาเหตุมีดังต่อไปนี้
- อายุที่เพิ่มมากขึ้น : เมื่อคนเราอายุเพิ่มมากขึ้น ระบบภายในร่างกายจะมีการทำงานที่ไม่เป็นปกติ อย่างการผลิตคอลลาเจนที่ร่างกายจะมีการผลิตที่น้อยลง ส่งให้ผิวหนังที่ขาดคอลลาเจนเกิดการหย่อนคล้อย ทำให้สัดส่วนของใบหน้ามีการหย่อนคล้อยตามลงมา อาทิเช่น แก้มเกิดการห้อย คอมีเหนียง รูปหน้าไม่สมส่วน ซึ่งรวมไปถึงกระดูกที่มีการทรุดตัว ก็จะทำให้บหน้าดูโทรม ไม่สดใส ดูเหนื่อยล้า เป็นต้น
- พันธุกรรม : โครงหน้าที่ไม่เรียว สามารถถ่ายทอดผ่านทางพันธุกรรม จากรุ่นหนึ่งสู่อีกรุ่นหนึ่งได้ อาทิเช่น บางครอบครัวอาจมีกรามที่ใหญ่ ทำให้มีใบหน้าที่เหลี่ยม หรือบางครอบครัวอาจจะมีใบหน้าที่กลม เป็นต้น
- เกิดจากไขมันที่สะสม : สาเหตุนี้เกิดได้จากพฤติกรรมในเรื่องของการรับประทานอาหาร โดยส่วนใหญ่จุดที่ไขมันมีสะสมมากจะกระพุ้งแก้ม หรือคาง ส่งผลให้โครงหน้าดูไม่เรียว
- เกิดจากกล้ามเนื้อ : ส่วนใหญ่กรามจะเป็นส่วนที่มีกล้ามเนื้อมากที่สุด โดยกรามจะส่วนที่มีการทำงานที่หนัก เนื่องจากเป็นส่วนที่มีหน้าที่ในการเคี้ยวอาหาร จึงทำให้กล้ามเนื้อส่วนนั้นมีการบริหารอยู่ตลอดเวลา ทำให้กล้ามเนื้อเกิดความแข็งแรง ส่งผลให้ใบหน้าดูไม่เรียว มีความเหลี่ยม และมีกรามที่ใหญ่
การปรับรูปหน้า ช่วยเรื่องอะไรได้บ้าง ?
การปรับรูปหน้าสามารถช่วยแก้ปัญหาต่าง ๆ บนใบหน้าได้มากมาย ดังนี้
- การปรับรูปหน้า V-Shape จะช่วยทำให้ใบหน้าดูเรียวเล็กลง และทำให้ใบหน้าสวยเข้ารูป
- ช่วยในเรื่องการปรับสมดุลของใบหน้า อาทิเช่น แก้มตอบ คางสั้น เป็นต้น
- ช่วยในการแก้ไขปัญหาเกี่ยวความหย่อนคล้อย ไม่กระชับ อาทิเช่น แก้มตก แก้มห้อย ผิวหนังหย่อนคล้อย และเปลือกตาตก เป็นต้น
- ช่วยในเรื่องการลดริ้วรอยบนใบหน้า ซึ่งจะทำให้ใบหน้าดูอ่อนกว่าวัย
- ช่วยในเรื่องการลดไขมันบริเวณใต้คาง เพื่อลดขนาดของเหนียง เนื่องจากเหนียงจะทำให้ใบหน้าดูบวม
- ช่วยในเรื่องการเสริมโหงวเฮ้งบนใบหน้า และยังช่วยเสริมสร้างความมั่นใจทางด้านภาพลักษณ์ รวมไปถึงยังช่วยส่งเสริมบุคลิกอีกด้วย
ใครบ้างที่ควรปรับรูปหน้า ?
บุคคลที่เหมาะกับการปรับรูปหน้า มักจะเป็นบุคคลที่มีปัญหา ดังต่อไปนี้
- บุคคลที่มีปัญหาเกี่ยวโครงหน้าที่กลม มีแก้มเยอะ หรือมีไขมันสะสมที่แก้ม
- บุคคลที่มีปัญหาที่หน้าเกิดความหย่อนคล้อย เมื่อมีอายุที่เพิ่มมากขึ้น
- บุคคลที่มีปัญหาเกี่ยวกับโครงหน้าที่ไม่เท่ากัน แก้มทั้งสองข้างมีขนาดที่ไม่เท่ากัน และมีกรอบหน้าส่วนบนที่ไม่เท่ากัน
- บุคคลที่มีปัญหาเรื่องหน้าตอบ แก้มตอบ ขมับตอบ ส่งผลให้ใบหน้าดูโทรม ไม่สดใส
- บุคคลที่มีปัญหาเรื่องโหนกแก้มสูง โหนกแก้มเด่น ที่เกิดมาจากโครงกระดูก หรือกล้ามเนื้อ
- บุคคลที่มีปัญหาเกี่ยวกับหน้าแคบ หรือหน้าผากยุบ
- บุคคลที่ต้องการเสริมโหงวเฮ้งให้กับใบหน้า
วิธีการปรับรูปหน้าโดยไม่ศัลยกรรม
วิธีการปรับรูปหน้าโดยไม่ผ่านการศัลยกกรม มีวิธีดังต่อไปนี้
1. ฟิลเลอร์ปรับรูปหน้า
การฉีดฟิลเลอร์ปรับรูปหน้า เป็นการรักษาโดยแพทย์จะทำการฉีดสารเติมเต็มประเภท Hyaluronic Acid (HA) เข้าสู่จุดที่ต้องการแก้ไขปัญหา โดยฟิลเลอร์จะช่วยในการเติมเต็มในส่วนที่ขาดหาย รวมไปถึงจะช่วยเรื่องการปรับโครงสร้างของใบหน้า ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้จะช่วยให้ใบหน้ามีความเรียวยาวสมส่วน และหน้าดู V-Shape ขึ้น ยังช่วยให้ใบหน้ามีความอ่อนกว่าวัยได้อีกด้วย
2.โบท็อกปรับรูปหน้า
การปรับรูปหน้าด้วยโบท็อก เป็นการรักษาโดยการฉีดสารที่ถูกสกัดมาจากแบคทีเรียสายพันธุ์เฉพาะ ที่มีชื่อว่า คลอสตริเดียม โบทูลินัม (Clostridium Botulinum) เข้าตรงบริเวณของกล้ามเนื้อ โดยโบท็อกจะช่วยลดการทำงานของกล้ามเนื้อ เมื่อกล้ามเนื้อมีการทำงานที่น้อยลง ก็จะส่งผลให้กล้ามเนื้อมีขนาดที่เล็กลง ทำให้กรอบของใบหน้าดูเรียวลง ซึ่งวิธีการนี้เหมาะกับคนที่มีกรามที่ใหญ่
3.เมโสแฟตปรับรูปหน้า
การปรับรูปหน้าด้วยเมโสแฟต เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยในเรื่องของการปรับรูปหน้าให้มีขนาดที่เล็กลง และเรียวขึ้น เนื่องจากเมโสแฟตจะช่วยในเรื่องของการสลายไขมันตามจุดที่มีไขมันสะสม อาทิเช่น บริเวณแก้ม หรือบริเวณเหนียง เป็นต้น ทำให้วิธีการนี้เหมาะกับบุคคลที่มีไขมันสะสมบนใบหน้าเยอะ ผลลัพธ์ที่ได้หลังจากการทำให้วิธีนี้ จะทำให้ใบหน้ามีขนาดที่เล็กลง และเรียวมากขึ้น รวมไปถึงช่วยทำให้กรอบหน้าดูชัดมากขึ้น
4.ร้อยไหมปรับรูปหน้า
การปรับรูปหน้าด้วยการร้อยไหม เป็นวิธีการรักษาโดยทางแพทย์จะทำการร้อยไหมเข้าสู่ผิวหนัง ซึ่งไหมจะเข้าไปเกี่ยวกับเนื้อเยื่อ ทำให้ผิวหน้าเกิดความกระชับ เต่งตึง และไม่มีความหย่อนคล้อย นอกจากนี้ยังเข้าไปกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ผิวหนัง เป็นต้น ซึ่งวิธีการนี้เหมาะกับบุคคลที่มีใบหน้าทรงกลม และหน้าไม่เรียวเข้ารูป
5.Hifu / Ulthera ยกกระชับปรับรูปหน้า
การยกกระชับปรับรูปหน้าด้วย Hifu / Ulthera เป็นการรักษาโดยทางแพทย์จะใช้พลังงานคลื่นเสียงที่มีความถี่สูง มาเปลี่ยนเป็นพลังงานความร้อน แล้วทำการยิงลงตรงบริเวณเนื้อเยื่อชั้น SMAS ซึ่งพลังงานความร้อนจะทำให้เนื้อเยื่อเกิดการหดตัว ส่งผลทำให้ผิวหนังเกิดความกระชับ ทำให้ใบหน้าเกิดการเข้ารูป ดูเรียว และกรอบหน้ามีความชัดขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยให้การกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ผิวหนังอีกด้วย
6.การนวดหน้า (Thermage)
การยกกกระชับรูปหน้าด้วยการนวด (Thermage) เป็นการยกกระชับหน้าโดยการปล่อยพลังงานความร้อนคลื่นวิทยุ ยิงลงสู่ผิวหนังชั้นผิวหนังแท้ รวมไปถึงชั้นไขมันใต้ผิวหนังด้วย ซี่งการนวดหน้า (Thermage) จะช่วยยกกระชับผิวหนัง และยังช่วยการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน รวมไปถึงยังช่วยสลายไขมันส่วนเกินอีกด้วย ผลลัพธ์จากการทำจะทำให้ผิวหนังเกิดความกระชับ และผิวหนังไม่เกิดความหย่อนคล้อย เป็นต้น วิธีการนี้จึงเหมาะกับบุคคลที่มีใบหน้ากลม และมีรูปหน้าที่ไม่เรียว
7.การดูดไขมัน
การปรับรูปหน้าด้วยการดูดไขมัน เป็นการรักษาโดยทางแพทย์จะทำการดูดไขมันตรงบริเวณต่างๆ และบริเวณที่มีการสะสมไขมัน อาทิเช่น บริเวณเหนียง บริเวณแก้ม บริเวณคอ บริเวณขอบกราม และบริเวณเหนียง เป็นต้น ซึ่งการดูดไขมันจะช่วยในการปรับรูปหน้าให้มีขนาดที่เล็กลง และมีความเรียวมากขึ้น นอกจากนี้ยังทำให้เห็นกรอบหน้าที่ชัดขึ้น รวมถึงทำให้ใบหน้าดูอ่อนวัย
การปรับรูปหน้าโดยไม่ศัลยกรรม ราคาเท่าไหร่ ?
การปรับรูปหน้าโดยไม่ต้องทำศัลยกรรม เป็นการรักษาเพื่อแก้ไขจุดพร่องบนใบหน้า หรือปัญหาที่เกิดตรงใบหน้า ทำให้ใบหน้าสวยงามสมส่วน มีมิติ และตรงตามโหงวเฮ้ง ซึ่งการรักษาวิธีนี้จะทำให้ไม่ต้องทำการผ่าตัด ไม่เสียเวลาพักฟื้น และไม่ทิ้งรอยแผลหลังจากการทำ โดยการรักษาวิธีนี้มีค่าใช้จ่ายที่แตกต่างกันไป ขึ้นอยู่ว่าจะใช้วิธีไหน และแต่ละวิธีก็มีความเสี่ยงที่แตกต่างกัน รวมถึงระยะเวลาของผลลัพธ์ที่ได้ ก็แตกต่างกัน เฉพาะฉะนั้นแล้ว ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในเรื่องการปรับรูปหน้าโดยเฉพาะ ก่อนทำการตัดสินใจทุกครั้ง ซึ่งหมอส้ม หมอเกรซ และทีมแพทย์พร้อมให้คำปรึกษาและมีการวิเคราะห์ออกแบบปรับรูปหน้าเฉพาะบุคคลได้อย่างตรงจุด ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย
ปรับรูปหน้าโดยไม่ศัลยกรรม ที่ไหนดี
สิ่งสำคัญคือการเลือกหาคลินิกที่มีความน่าเชื่อถือ ซึ่งหลายคนก็คงจะหนักใจไม่น้อยเมื่อในปัจจุบันเกิดคลินิกเสริมความงามขึ้นมาเยอะแยะมากมาย ที่อาจมีคลินิกเถื่อนแฝงตัวอยู่ จุดสังเกตสามารถเช็คได้จากปัจจัยเหล่านี้
- เลือกคลินิกที่มีรีวิวเยอะหลากหลายรูปแบบ
ไม่แนะนำให้ดูแค่รูปภาพเปรียบเทียบก่อนหลังเพียงอย่างเดียว เพราะภาพเหล่านี้สามารถตกแต่งขึ้นมาได้อย่างง่ายดาย ดังนั้นสิ่งที่ดีที่สุดคือควรเช็คจากคลิปวิดีโอ สร้างความน่าเชื่อถือของบริการนั้นๆ ได้ - เลือกคลินิกที่มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการปรับรูปหน้า หรือ อาจารย์แพทย์
เราสามารถอิงได้จากเคสรีวิวของผู้ที่เคยเข้ามาใช้บริการ ว่าแพทย์ที่ดูแลเคสนี้มีการปรับรูปหน้าแล้วเกิดผลลัพธ์ที่ดีขึ้นมากน้อยแค่ไหน ซึ่งแพทย์ประจำคลินิกก็ควรเป็นแพทย์ที่มีใบวิชาชีพและผ่านการรับรองมาอย่างถูกต้อง คนไข้สามารถเช็กได้จากเว็บไซต์ของแพทยสภา นอกจากนี้เทคนิคที่แพทย์เลือกใช้จะต้องเหมาะสมกับปัญหาที่เกิดขึ้นกับใบหน้าของคนไข้ - เลือกคลินิกที่มีการเปิดให้บริการอย่างถูกต้องตามกฎหมาย
คลินิกเหล่านั้นจะต้องมีป้ายเลขที่ใบอนุญาต 11 หลัก ป้ายชื่อคลินิกติดอย่างชัดเจน และสามารถตรวจสอบเลขที่ใบอนุญาตได้ทั้งผู้ดำเนินการสถานพยาบาล และผู้อนุญาตเปิดสถานพยาบาล - เลือกคลินิกที่ใช้ผลิตภัณฑ์แท้ และอุปกรณ์ที่ได้มาตรฐาน
คลินิกจะต้องนำเข้าผลิตภัณฑ์ที่เป็นของแท้ ได้มาตรฐานและผ่านการรับรองจาก อย. เพื่อผลลัพธ์ที่มีความปลอดภัยต่อผู้เข้ารับบริการ โดยแพทย์ควรมีการแกะกล่องใหม่ หรือบรรจุภัณฑ์ต่อหน้าคนไข้ทุกครั้ง นอกจากนี้ยังสามารถขอนำกล่องหรือบรรจุภัณฑ์ไปตรวจสอบแหล่งที่มาได้ - เลือกคลินิกที่มีการนัดติดตามผลหลังทำ
ควรมีการนัดติดตามผลเพื่อเช็คอาการกับคนไข้อย่างใกล้ชิดในทุก ๆ เคส พร้อมให้คำแนะนำเกี่ยวกับการดูแลตัวเองหลังทำอย่างถูกต้อง และควรมีช่องทางการติดต่อที่คนไข้สามารถพูดคุยสอบถามเพิ่มเติมได้ตลอดเวลา