10 หัตถการ ที่นิยมในปี 2024 มีอะไรบ้าง ตัวไหนมาแรงถึงปีหน้า

ฟิลเลอร์ (Filler) หัตถการที่ได้รับความนิยมสูงมากในไทย โดยสารเติมเต็มที่นิยมใช้นี้ จะฉีดเข้าตรงบริเวณใต้ผิวหนัง เพื่อช่วยเติมเต็มร่องลึกและริ้วรอยบนใบหน้า ทำให้ผิวหน้าดูเรียบเนียน อิ่มฟู และดูอ่อนกว่าวัย โดยฟิลเลอร์มีส่วนประกอบหลักเป็นกรดไฮยาลูโรนิก (Hyaluronic Acid) ซึ่งเป็นสารที่พบได้ตามธรรมชาติในร่างกาย หลังการฉีดฟิลเลอร์ สาร HA จะจับกับโมเลกุลของน้ำ ทำให้บริเวณที่ฉีดมีปริมาณน้ำเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ผิวหนังชุ่มชื้น ดูอิ่มฟู ริ้วรอยร่องลึกตื้นขึ้น และริ้วรอยจางลง นอกจากนี้ ฟิลเลอร์ยังช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน ซึ่งมีส่วนสำคัญที่ทำให้ผิวหนังแข็งแรงและยืดหยุ่นขึ้น

โบท็อกซ์ (Botox) เป็นชื่อทางการค้าของยาชนิดหนึ่งที่มีสารโบทูลินั่มท็อกซิน (Botulinum Toxin) ซึ่งสกัดจากแบคทีเรียสายพันธุ์เฉพาะชื่อ Clostridium botulinum โดยสารนี้อยู่ในรูปโปรตีนที่สามารถจับกับปลายเส้นประสาทที่ควบคุมกล้ามเนื้อ และยับยั้งการกระตุ้นกล้ามเนื้อบริเวณนั้น ทำให้กล้ามเนื้อที่ฉีดโบท็อกซ์ไม่สามารถหดตัวและอยู่ในสภาพคลายตัว ในวงการเสริมความงาม โบท็อกรักแร้ช่วยลดเหงื่อบริเวณรักแร้ ลดริ้วรอย ปรับรูปหน้า และช่วยกระชับผิวหนังที่หย่อนคล้อย แต่ต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ด้วยเช่นกัน

ร้อยไหม แพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะสอดไหมเข้าไปใต้ผิวหนัง ซึ่งผิวหนังจะถูกเงี่ยงเกี่ยวขึ้นมาตามเส้นไหมไปในทิศทางที่ร้อยไหมเข้าไป คล้ายกับการเกี่ยวตะขอ การร้อยไหมจะช่วยปรับรูปหน้าให้ดูเรียวขึ้น หรือช่วยแก้ปัญหาแก้มที่หย่อนคล้อยให้กระชับ รวมถึงช่วยลดริ้วรอย โดยการร้อยไหมแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่

• ร้อยไหมละลาย ไหมละลายได้รับการรับรองความปลอดภัยจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาของประเทศไทย และ FDA จากสหรัฐอเมริกา โดยไหมละลายสามารถสลายได้เองตามธรรมชาติ ทำให้ไม่มีสารเคมีตกค้างและไม่มีผลข้างเคียง
• การร้อยไหมไม่ละลาย ส่วนใหญ่ใช้วัสดุโลหะ ทองคำ หรือพลาสติก จึงไม่สามารถสลายไปตามธรรมชาติ โดยไหมไม่ละลายมี 2 แบบ คือ ไหมทองคำและไหมพลาสติก

Skin Booster หรือ สกินบูสเตอร์ การฉีดสารบำรุงผิวชนิดเข้มข้นตรงบริเวณชั้นผิวหนังชั้นกลาง (Dermis) เปรียบเสมือนการเติมอาหารให้ผิว ช่วยฟื้นฟูสภาพผิว นอกจากนี้ Skin Booster ยังช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินให้ผิว ทำให้ผิวมีความยืดหยุ่นและดูอ่อนเยาว์มากขึ้น เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการปรับสภาพผิวให้ดูสดใสและสุขภาพดีอย่างรวดเร็ว

ประเภทของ Skin Booster

• Hyaluronic Acid (HA): ช่วยเติมความชุ่มชื้นให้ผิว เหมาะกับผิวแห้ง ขาดน้ำ
• Vitamin C: ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ลดเลือนริ้วรอย ปรับสีผิวให้สว่างกระจ่างใส
• Peptides: ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอิลาสติน ลดเลือนริ้วรอย ร่องลึก
• Amino Acids: ช่วยบำรุงผิว ฟื้นฟูสภาพผิว ให้ผิวแข็งแรง
• Nucleotides: ช่วยกระตุ้นการซ่อมแซมเซลล์ผิว ลดเลือนริ้วรอย ร่องลึก

เมโสแฟต (Meso fat) หนึ่งในหัตถการเทคนิคการลดไขมันและลดเซลลูไลท์เฉพาะจุดแบบไม่ต้องผ่าตัด ซึ่งแพทย์จะทำการฉีดสารที่ช่วยสลายไขมันลงในชั้นผิวหนังบริเวณไขมัน โดยหลังจากฉีดตัวยา ไขมันจะเกิดการแตกตัวหรือสลายตัวและจะถูกขับออกทางการขับถ่าย ทำให้ไขมันบริเวณที่ฉีดมีขนาดลดลง ส่งผลให้บริเวณที่ฉีดกระชับยิ่งขึ้น

โดยตัวยาที่มีคุณสมบัติช่วยเร่งการเผาผลาญไขมันและลดการเกิดเซลล์ไขมันขึ้นมาใหม่ มีดังนี้

• แอลคาร์นิทีน (L-carnitine) มีคุณสมบัติช่วยในการเปลี่ยนเซลล์ไขมันให้กลายเป็นพลังงาน รวมถึงช่วยสลายไขมันส่วนเกินบริเวณใต้ผิวหนัง
• ไทโรซีน (Tyrosine) มีคุณสมบัติช่วยเร่งการเผาผลาญไขมันภายในร่างกายให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
• เมโสสตาบิล (Mesostabyl) มีคุณสมบัติกระตุ้นการทำงานของเอนไซม์ไลเปส (lipase) และลดการสร้างไขมัน รวมถึงหยุดการสร้างคอเลสเตอรอลในเนื้อเยื่อ
• สารสกัดอาร์ติโชค (Artichoke extract) มีคุณสมบัติช่วยลดการสร้างกรดไขมันและลดระดับไขมันแบบเฉพาะจุด

การดูดไขมัน (Liposuction) เป็นหัตถการเสริมความงามด้วยการผ่าตัดเพื่อช่วยกำจัดไขมันส่วนเกินออกจากร่างกาย โดยเฉพาะบริเวณที่ออกกำลังกายแล้วลดได้ยาก เช่น บริเวณหน้าท้อง ต้นขา และต้นแขน เป็นต้น โดยแพทย์จะเปิดแผลเล็ก ๆ บริเวณที่ต้องการดูดไขมัน เช่น ใบหน้า แก้ม เหนียง และกรอบหน้า จากนั้นจะใช้เครื่องมือที่มีลักษณะคล้ายท่อยาวใส่เข้าไปใต้ผิวหนังเพื่อดูดไขมันส่วนเกินออกจากบริเวณนั้น ซึ่งการดูดไขมันจะช่วยในการปรับรูปร่างได้ตามต้องการและสามารถเห็นผลลัพธ์ได้ทันที

CoolSculpting เป็นวิธีการสลายไขมันส่วนเกินด้วยความเย็น โดยแพทย์จะใช้เครื่องมือส่งความเย็นเจาะลึกลงสู่ชั้นไขมันใต้ผิวหนัง ความเย็นที่ส่งลงไปจะทำให้เซลล์ไขมันแข็งตัวและตาย ไขมันจะถูกขับออกจากร่างกายผ่านระบบขับถ่าย เช่น เหงื่อหรือปัสสาวะ CoolSculpting ช่วยลดไขมันได้ถึง 25-30% ต่อการทำ 1 ครั้ง CoolSculpting จะช่วยลดไขมันส่วนเกินและช่วยปรับรูปร่างให้กระชับยิ่งขึ้น

เมโสเทราปี (Mesotherapy) เป็นวิธีการรักษาผิวหน้าและผิวกาย โดยแพทย์จะทำการฉีดสารบำรุงผิว เช่น วิตามิน กรดอะมิโน สารต้านอนุมูลอิสระ และสารสกัดจากธรรมชาติ เข้าสู่ผิวหนังชั้นกลางด้วยเข็มขนาดเล็ก ซึ่งจะช่วยให้สารบำรุงผิวซึมซาบเข้าสู่ผิวได้อย่างตรงจุดและมีประสิทธิภาพมากกว่าการทาครีม Mesotherapy จะช่วยลดรอยดำ รอยแดง ฝ้า กระ จุดด่างดำ ช่วยให้ผิวมีความขาวใสขึ้น ลดเลือนริ้วรอย แก้ไขปัญหาสิว ลดความหมองคล้ำ และลดไขมัน เป็นต้น 

Thermage เป็นหัตถการเสริมความงามเพื่อช่วยยกกระชับผิวและลดเลือนริ้วรอย ด้วยการใช้พลังงานคลื่นวิทยุความถี่สูง (Radiofrequency หรือ RF) ยิงลงตรงชั้นผิวหนัง ซึ่งพลังงานความร้อนจะเข้าไปกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน ซึ่งเป็นโปรตีนที่สำคัญในการทำให้ผิวหนังเกิดความยืดหยุ่นและสร้างความแข็งแรงให้กับผิวหนัง Thermage จะทำให้ผิวหนังมีความกระชับมากขึ้น ช่วยลดริ้วรอย และทำให้รูปหน้ามีความเรียวขึ้น

เลเซอร์ เป็นหัตถการด้านความงามเพื่อช่วยรักษาผิวพรรณ ลดริ้วรอย จุดด่างดำ ฝ้า กระ รอยสิว ปัญหารูขุมขน และช่วยกำจัดขน โดยวิธีการรักษาจะใช้พลังงานแสงเลเซอร์ที่มีความเข้มข้นสูงยิงลงผิวหนังหรือบริเวณที่ต้องการแก้ไข ทำให้เกิดความร้อนและทำลายเซลล์ที่ไม่ต้องการ โดยการยิงเลเซอร์จะไม่กระทบกับเซลล์ผิวบริเวณใกล้เคียง ส่งผลให้ผิวหนังเกิดการผลัดเซลล์ใหม่และช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน ทำให้ผิวหนังเกิดความเรียบเนียน ผิวดูอ่อนเยาว์ รูขุมขนกระชับขึ้น สีผิวสม่ำเสมอ และขนมีความบางลง