เผย 10 วิธียกกระชับใบหน้า แก้ปัญหาผิวหน้าหย่อนคล้อย ในปี 2024

เผย 10 วิธียกกระชับใบหน้า

ใบหน้า เป็นสิ่งแรกที่คนส่วนใหญ่มักจะมองเห็น ซึ่งหากบุคคลใดมีปัญหาผิวหน้าหย่อนคล้อย อาจจะสร้างผลเสียมากมาย ไม่ว่าจะทำให้บุคคลนั้นสูญเสียความมั่นใจ หรืออาจจะทำให้บุคคลนั้นสูญเสียบุคลิก และภาพลักษณ์ โดยบทความฉบับนี้จะมาเผย 10 วิธียกกระชับใบหน้า เพื่อแก้ปัญหาผิวหน้าหย่อนคล้อย ซึ่งแต่ละวิธีก็ไม่จำเป็นต้องทำการผ่าตัด บางวิธีก็เห็นผลได้ทันทีอีกด้วย

วิธียกกระชับใบหน้า

ยกกระชับใบหน้า คืออะไร

การยกกระชับใบหน้า คือ กระบวนการที่จะทำให้ผิวหน้ากลับมาเต่งตึง มีความกระชับ เรียวขึ้น และดูอ่อนกว่าวัย โดยจะอาศัยวิธีการต่างๆ อาทิเช่น การผ่าตัดโดยการศัลยกรรม การใช้เครื่องมือทางการแพทย์ หรือการใช้สารเติมเต็มอย่างฟิลเลอร์ ซึ่งการรักษาด้วยวิธีการต่างๆ เหล่านี้ จะแตกต่างกันไปตามระดับความรุนแรงของปัญหาผิวหนังหย่อนคล้อย ซึ่งควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อให้แพทย์ทำการวิเคราะห์และแนะนำวิธีที่เหมาะสมที่สุด

ปัญหาที่การยกกระชับใบหน้าสามารถช่วยแก้ไขได้

  • ารยกกระชับใบหน้าช่วยแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับผิวหน้าหย่อนคล้อย
    การเกิดผิวหน้าหย่อนคล้อย เป็นปัญหาที่กวนใจใครหลายคน และส่วนใหญ่จะพบในผู้ที่มีอายุมาก เนื่องจากเมื่อเรามีอายุที่เพิ่มขึ้น ร่างกายจะมีการผลิตคอลลาเจน และอีลาสตินน้อยลง รวมไปถึงการสูญเสียไขมันใต้ผิวหนัง ส่งผลให้ผิวหนังเกิดความหย่อนยาน ไม่กระชับ เป็นต้น ซึ่งการยกกระชับจะช่วยยกผิวหนัง และกล้ามเนื้อให้กับไปอยู่ที่ตำแหน่งเดิม และทำให้ผิวหน้ากลับมาเต่งตึง ผิวหน้ากระชับ และทำให้ใบหน้าดูอ่อนกว่าวัย
  • การยกกระชับใบหน้าช่วยแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับริ้วรอย
    การเกิดริ้วรอยบนใบหน้า มีสาเหตุมาจากหลายปัจจัยไม่ว่าจะมาจาก แสงแดด การสูบบุหรี่ การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หรือการพักผ่อนไม่เพียงพอ เป็นต้น ซึ่งการยกกระชับใบหน้าจะเข้าไปกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และอีลาสตินใต้ผิวหนัง ส่งผลให้ผิวหน้าเกิดความเรียบเนียน เป็นต้น
  • การยกกระชับใบหน้าช่วยแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับรอยร่องลึก
    รอยร่องลึก ไม่ว่าจะเป็น รอยร่องแก้ม ร่องใต้ตา และร่องจมูก สามารถเกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัย อาทิเช่น ร่างกายมีการผลิตคอลลาเจน และอีลาสตินน้อยลง รวมไปถึงการสูญเสียไขมันใต้ผิวหนัง ซึ่งการยกกระชับจะช่วยให้รอยร่องลึกมีความตื้นขึ้น
  • การยกกระชับใบหน้าช่วยแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับรูปหน้าไม่กระชับ
    การยกกระชับใบหน้าจะทำให้รูปหน้าที่ไม่กระชับ เกิดความกระชับมากขึ้น และยังช่วยให้รูปหน้ามีความเรียวสวยสมส่วน รวมไปถึงทำให้กรอบหน้ามีความคมชัด

ข้อดีของการยกกระชับใบหน้า

ข้อดีของการยกกระชับใบหน้า ได้แก่

  • ช่วยให้ผิวหน้ากลับมาเต่งตึง มีความกระชับ ทำให้ใบหน้าดูอ่อนกว่าวัย
  • ช่วยทำให้รอยร่องลึก ไม่ว่าจะเป็น รอยร่องแก้ม ร่องใต้ตา และร่องจมูก มีความตื้นขึ้น ทำให้ผิวหน้ามีความเรียบเนียน
  • ช่วยในการปรับรูปหน้าให้มีความเรียวสวย แลทำให้กรอบหน้าชัดเจนมากขึ้น
  • ช่วยป้องกันริ้วรอย และลดความหมองคล้ำ บนใบหน้า
  • การยกกระชับด้วยการนวด ช่วยให้เกิดการกระตุ้นของการไหลเวียนของเลือด และน้ำเหลือง
  • การยกกระชับด้วยการนวด ช่วยให้กล้ามเนื้อบนใบหน้าเกิดการผ่อนคลาย
  • ช่วยเสริมโหงวเฮ้งใบหน้า สร้างความมั่นใจเกี่ยวกับด้านภาพลักษณ์

10 วิธียกกระชับใบหน้า โดยไม่ต้องผ่าตัด

1. โบท็อกยกกระชับใบหน้า

โบท็อกยกกระชับใบหน้า เป็นการเสริมความงามแบบไม่ต้องทำการผ่าตัด ซึ่งวิธีการรักษาทางแพทย์จะฉีดสารที่มีชื่อว่า โบทูลินัมท็อกซิน เอ (Botulinum toxin A) เข้าสู่บริเวณกล้ามเนื้อของใบหน้า โดยสารชนิดนี้จะช่วยลดการทำงานของกล้ามเนื้อ ทำให้กล้ามเนื้อเกิดการคลายตัว ส่งผลให้ผิวหนังตรงบริเวณนั้นเกิดการยกตัวขึ้น จนทำให้ใบหน้าดูยกกระชับขึ้น และทำให้ริ้วรอยที่เกิดขึ้นบนใบหน้าลดน้อยลง รวมไปถึงช่วยให้กรอบหน้าดูชัดยิ่งขึ้น

2. ฟิลเลอร์ยกกระชับใบหน้า

ฟิลเลอร์ยกกระชับใบหน้า หนึ่งวิธียกกระชับใบหน้าแบบไม่ต้องผ่าตัดที่ได้รับความนิยม โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ จะทำการฉีดสารเติมเต็มที่มีชื่อว่า ไฮยาลูรอนิก (Hyaluronic Acid) เข้าไปทดแทนไขมันที่มีการหดตัว หรือตรงกระดูกที่มีการยุบตัว รวมไปถึงช่วยในการพยุงโครงสร้างของผิวที่หายไป ซึ่งหลังจากทำการฉีดฟิลเลอร์จะทำให้ใบหน้าดูเต่งตึง มีความกระชับมาขึ้น และทำให้ใบหน้าดูอ่อนกว่าวัยอย่างเป็นธรรมชาติ ฟิลเลอร์ยกกระชับใบหน้าถ้ามีการดูแลหลังฉีดฟิลเลอร์ที่ถูกวิธี อาจส่งผลลัพธ์ได้นานถึง 2 ปี

3. ร้อยไหมยกกระชับใบหน้า

ร้อยไหมยกกระชับใบหน้า เป็นการรักษาโดยทางแพทย์จะใช้ไหมที่ละลายได้ ร้อยเข้าไปผิวหนังของใบหน้า ซึ่งไหมจะเข้าไปเกี่ยวกับเนื้อเยื่อของผิว และยกกระชับขึ้น การร้อยไหมจะช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และอีลาสตินใต้ผิวหนัง ส่งผลให้ใบหน้ากลับมาเต่งตึง และทำให้กรอบหน้าดูชัดยิ่งขึ้น โดยการร้อยไหมแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่ ร้อยไหมละลายและร้อยไหมไม่ละลาย สามารถอ่านต่อเพิ่มเติมได้ที่นี่ ร้อยไหม มีกี่แบบ ? ช่วยเรื่องอะไร ?

4. HIFU ไฮฟูยกกระชับใบหน้า

ไฮฟูยกกระชับใบหน้า (HIFU) เป็นการรักษาโดยทางแพทย์จะใช้คลื่นเสียง ultrasound ยิงลงไปที่ชั้นผิวหนัง ที่มีชื่อว่า SMAS ซึ่งคลื่น ultrasound จะทำให้ชั้นของผิวหนังเกิดการหดตัว เหมือนกับการเย็บที่เนื้อ ส่งผลลัพธ์ที่ให้ผิวหนังเกิดการยกกระชับ และทำให้ใบหน้าดูอ่อนกว่าวัย ไฮฟูยกกระชับใบหน้า (HIFU) จะคงผลลัพธ์ได้ถึง 6-12 เดือน

5. Ulthera ยกกระชับหน้า

Ulthera เป็นการยกกระชับใบหน้าโดยไม่ต้องทำการผ่าตัด ที่แพทย์จะใช้คลื่นความถี่สูง ยิงลงที่ผิวหนังชั้น SMAS ซึ่งจะเป็นชั้นของกล้ามเนื้อ และเนื้อเยื่อที่อยู่ใต้ผิวหนังชั้นหนังแท้ คลื่นความถี่สูงที่ยิงลงไปที่ผิวหนังจะทำให้เกิดความร้อน ความร้อนจะช่วยกระตุ้นให้ร่างกายเกิดการสร้างคอลลาเจน และอีลาสตินขึ้นมาใหม่ ส่งผลให้ผิวหนังที่หน้าเกิดความแต่งตึง โดยผลลัพธ์จะค่อยๆ ชัดเจนขึ้นภายใน 3-6 เดือน และคงอยู่นาน 1-2 ปี

6. Thermage ยกกระชับใบหน้า

https://storage.yanhee.co.th/uploads/2023/09/thermage-04.jpg

Thermage ยกกระชับใบหน้า เป็นการรักษาโดยจะมีการใช้คลื่น Radio Frequency ยิงลงไปที่ชั้นผิวหนังชั้นหนังแท้ และตรงไขมัน เพื่อกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจนใต้ผิวหนัง และเพื่อให้เกิดการยกกระชับขึ้น ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้จะทำให้ผิวมีความแน่นขึ้น ริ้วรอยมีความจางลงทำให้ผิวหนังเรียบเนียน และช่วยให้ไขมันบริเวณใบหน้าลดลง อย่างไรก็ตามควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสบริเวณที่ทำการรักษา งดการทาครีมหรือเครื่องสำอางที่มีส่วนผสมของกรดหรือแอลกอฮอล์ และควรดื่มน้ำให้เพียงพอ เพื่อคงผลลัพธ์ให้ยาวนานที่สุด

7. เลเซอร์ยกกระชับใบหน้า

https://baredmonkey.com/

เลเซอร์ยกกระชับใบหน้า เป็นการรักษาโดยทางแพทย์จะทำการปล่อยพลังงานคลื่นแสง หรือคลื่นวิทยุ ยิงลงสู่ผิวหนัง เพื่อเข้าไปกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และอีลาสตินใต้ผิวหนัง  ซึ่งการยิงเลเซอร์จะทำให้ผิวหนังเกิดการหดตัว จนเกิดความกระชับ ผลลัพธ์จากการยิงเลเซอร์ จะทำให้ผิวหนังของใบหน้าเกิดความกระชับขึ้น และผิวหนังไม่มีริ้วรอย เลเซอร์ยกกระชับใบหน้าจะคงผลลัพธ์อยู่ได้นาน 1-2 ปี

8. นวดยกกระชับใบหน้า

การนวดกระชับใบหน้า เป็นการยกกระชับใบหน้าโดยการนวดกดจุด ซึ่งวิธีการรักษาจะใช้นิ้วมือนวดไปทีละจุด โดยเริ่มจากบริเวณหน้าแก้ม ร่องมุมปาก และร่องแก้ม การนวดจะนวดจุดละ 5 ครั้ง และทำการนวดหมุนรอบ ประมาณ 4 รอบ จากนั้นให้ใช้ฝ่ามือนวดตรงบริเวณคาง ลามไปที่หลังหู จนถึงลำคอ ทำแบบนี้ซ้ำไปซ้ำมา จนครบ 5 ครั้ง การนวดกระชับใบหน้าเป็นการกระตุ้นเลือด และน้ำเหลืองเกิดการไหลเวียน ผลลัพธ์ที่ได้จะทำให้กล้ามเนื้อเกิดความผ่อนคลาย ผิวพรรณเกิดความเปล่งปลั่ง ใบหน้าดูสดใส และทำให้ใบหน้าดูอ่อนกว่าวัย รวมไปถึงช่วยลดริ้วรอย เป็นอีกวิธีที่ไม่ต้องทำการผ่าตัดใดๆ และสามารถทำได้เอง

9. โยคะหน้ายกกระชับใบหน้า

https://i.pinimg.com/

โยคะหน้ายกกระชับใบหน้า เป็นการออกกำลังกายแบบยืดเหยียด ที่จะเน้นตรงบริเวณกล้ามเนื้อ และเนื้อเยื่อของใบหน้า โดยจะนิยมใช้ท่าที่ชื่อว่า The Satchmo ซึ่งท่านี้จะเอาลมเข้าทางปาก จนทำให้แก้มเกิดการพองขึ้น จากนั้นเอาลมสลับไปมา ระหว่างแก้มซ้าย และแก้มขวา ทำแบบนั้น 3 ครั้ง การทำแบบนี้จะทำให้กล้ามเนื้อบริเวณแก้ม และผิวหนังของใบหน้า เกิดความกระชับ เป็นอีกวิธีที่ไม่ต้องทำการผ่าตัดใดๆ และสามารถทำได้เองเช่นกัน

10. ใช้ครีมยกกระชับใบหน้า

https://f.ptcdn.info/

ใช้ครีมยกกระชับใบหน้า เป็นการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสารที่จะช่วยกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจน และอีลาสตินใต้ผิวหนัง อาทิเช่น สารคอลลาเจน สารเรตินอล กรดไฮยาลูรอนิก และสารเปปไทด์ เป็นต้น โดยวิธีนี้อาจใช้เวลารักษานานกว่าจะเห็นผล และต้องทำอย่างต่อเนื่อง ถึงอย่างไรก็เป็นอีกวิธีที่ไม่ต้องทำการผ่าตัดใดๆ และสามารถทำได้เอง เพียงเลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมและทำอย่างสม่ำเสมอ

การดูแลหลังฉีดฟิลเลอร์ยกกระชับใบหน้า

หนึ่งในวิธียอดนิยมของการยกกระชับใบหน้า นั้นคือการฉีดฟิลเลอร์ยกกระชับใบหน้า ซึ่งการดูแลหลังจากทำการฉีดฟิลเลอร์ เป็นสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญ เพื่อป้องกันการติดเชื้อ และเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี ซึ่งข้อปฏิบัติหลังจากการฉีด มีรายละเอียดดังนี้

  • 24 ชั่วโมงหลังจากทำการฉีด ควรหลีกเลี่ยงการล้างหน้า การออกกำลัง การโดนแสงแดด การทำกิจกรรมที่เกี่ยวกับความร้อน งดการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และงดการสูบบุหรี่ เพราะอาจจะทำให้ฟิลเลอร์เกิดการเคลื่อนตัว และจะทำให้เกิดอาการบวมช้ำได้
  • 3 วันหลังจากทำการฉีด อาจจะมีอาการบวมช้ำหลงเหลือ ตรงบริเวณที่ทำการฉีด ซึ่งอาการเหล่านี้จะหายภายใน 14 วัน ในระหว่างนี้ผู้ทำการฉีดควรมีการประคบเย็น ตรงบริเวณที่ทำการฉีด อย่างน้อยวันละ 3 ครั้ง ครั้งละ 20 นาที เพื่อลดอาการบวมช้ำ
  • 14 วันหลังจากทำการฉีด ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัส หรือขยับบริเวณที่ทำการฉีดฟิลเลอร์
  • 3 เดือนหลังจากการฉีด ผู้ทำการฉีดจะเห็นผลลัพธ์ขัดเจนมากขึ้น โดยฟิลเลอร์จะคงอยู่ได้นานถึง 1-2 ปี แต่จะขึ้นอยู้กับยี่ห้อของฟิลเลอร์ที่ทำการฉีด ตำแหน่งที่ฉีด และการดูแลหลังจากฉีด เป็นต้น

สรุป

สำหรับวิธียกกระชับใบหน้าในปัจจุบันนั้น มีด้วยกันหลากหลายวิธี ทั้งวิธีแบบธรรมชาติ เช่น โยคะหน้า นวดหน้า การใช้ครีมบำรุงผิว รวมถึงวิธีทางการแพทย์แบบไม่ผ่าตัด เช่น การร้อยไหม ฉีดฟิลเลอร์ และการทำ HIFU เป็นต้น ซึ่งวิธีไหนจะเหมาะกับใครนั้น ขึ้นอยู่กับปัญหาผิวหน้าและงบประมาณ โดยควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อประเมินสภาพผิวหน้าและวางแผนการรักษาที่เหมาะสม ทาง หมอส้ม หมอเกรซ และทีมแพทย์ Mudan Pavilion ยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย Inbox Facebook หรือ Add Line นี้ได้เลย คุณหมอตอบเองทุกเคส เพื่อช่วยให้คนไข้มีใบหน้าที่ยกกระชับ แลดูอ่อนเยาว์อย่างเป็นธรรมชาติ