ในวงการฟิลเลอร์ยุคนี้ ชื่อของ HArmonyCA และ Juvederm ถือว่าเป็นที่รู้จักและถูกพูดถึงบ่อย เพราะทั้งสองตัวต่างก็มีจุดเด่นที่ช่วยเติมเต็มใบหน้าให้ดูอ่อนเยาว์และกระชับขึ้น แต่หลายคนก็ยังสับสนว่าว่าเจ้าสองตัวนี้ต่างกันยังไง เลือกแบบไหนดีถึงจะเหมาะกับตัวเอง บทความนี้จะพาไปเปรียบเทียบระหว่าง HArmonyCA กับ Juvederm แบบเข้าใจง่าย ๆ ทั้งในแง่ของเทคโนโลยีทั้ใช้ จุดเด่น ผลลัพธ์ และความเหมาะสมกับแต่ละปัญหา อาจจะช่วยให้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้นก่อนเข้าคลินิก
HArmonyCA คืออะไร ?
HArmonyCA เป็นฟิลเลอร์ชนิดไฮบริด ที่ผสมผสานระหว่าง Hyaluronic Acid (HA) และ Calcium Hydroxyapatite (CaHA) ซึ่งทำงานด้วยกลไกสองประการ โดยรวมคุณสมบัติของฟิลเลอร์เติมเต็ม (filler) และสารกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน (collagen biostimulator) ไว้ในผลิตภัณฑ์เดียวกัน ออกแบบมาเพื่อให้ผลลัพธ์ทั้งการเติมเต็มผิวทันทีและการฟื้นฟูกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในระยะยาว
HArmonyCA มอบผลลัพธ์ Duo Effects จากการผสานสารธรรมชาติ 2 ชนิด:
- Hyaluronic Acid (HA): สารที่มีอยู่ตามธรรมชาติในผิวหนัง ช่วยเติมเต็มและยกกระชับผิวได้ทันทีหลังการฉีด ทำให้ผิวดูอิ่มฟูและเรียบเนียน
- Calcium Hydroxyapatite (CaHA): แร่ธาตุที่พบในกระดูกและฟัน ช่วยเพิ่มความเฟิร์มให้ผิวหน้า และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในระยะยาว ทำให้เกิดผลลัพธ์ที่ยาวนาน (long lasting) โดย CaHA ตามธรรมชาติจะคงอยู่ประมาณ 1-3 ปีก่อนสลายไปตามธรรมชาติ
Juvederm คืออะไร ?
Juvederm เป็นฟิลเลอร์ที่ผลิตโดยบริษัท Allergan จากประเทศสหรัฐอเมริกา นำเข้าโดย Allergan Thailand (DSKH) ได้รับการรับรองความปลอดภัยและผ่านมาตรฐานจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ด้วยเทคโนโลยีเฉพาะของ Allergan ทำให้ฟิลเลอร์แต่ละรุ่นมีคุณสมบัติที่แตกต่างและหลากหลาย เหมาะสำหรับทุกสภาพผิวและทุกปัญหา โดย Juvederm มีถึง 6 รุ่น ดัง
- Juvederm Ultra Plus XC : เป็นฟิลเลอร์ที่มีเนื้อเจลความแน่นสูงพร้อมความนิ่ม ผลิตด้วยเทคโนโลยี Hylacross ช่วยให้เนื้อฟิลเลอร์เรียบเนียน คงตัวไม่ไหล อยู่ได้นานถึง 12 เดือน
- Juvederm Voluma : มีความแน่นสูง เรียบเนียน และยืดหยุ่นดีเยี่ยม มีความคงทนยาวนานถึง 18 เดือน
- Juvederm Volift : เนื้อฟิลเลอร์นิ่มและละเอียด ให้ผลลัพธ์ธรรมชาติ อยู่ได้นานประมาณ 12 เดือน
- Juvederm Volite : มีเนื้อบางเบาและเรียบเนียน ช่วยเพิ่มความอิ่มฟูและความชุ่มชื้นให้ผิวหนัง ให้ความรู้สึกธรรมชาติ คงอยู่ได้ 8–12 เดือน
- Juvederm Volbella : เป็นฟิลเลอร์ที่มีความละเอียดและนิ่มมากที่สุดในบรรดาทั้งหมด คุณสมบัตินี้ทำให้ฉีดเข้าสู่ผิวหนังได้ง่าย ไม่เป็นก้อน และดูเป็นธรรมชาติ อยู่ได้นานถึง 12 เดือน
- Juvederm Volux : เป็นฟิลเลอร์รุ่นใหม่ล่าสุดที่เพิ่งเปิดตัวและนำเข้ามาในประเทศไทย ผลิตด้วยเทคโนโลยี VYCROSS เช่นเดียวกับรุ่น Voluma, Volbella และ Volift ทำให้ขึ้นรูปได้ง่ายและมีความคงตัวสูง อยู่ได้นานที่สุดถึง 18–24 เดือน
HArmonyCA & Juvederm ช่วยเรื่องอะไร
HArmonyCA เป็นผลิตภัณฑ์ที่ช่วยเรื่องการเติมเต็มผิวแบบทันที และช่วยฟื้นฟูกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจนในระยะยาว โดยการผสมผสานของสาร 2 ชนิด คือ Hyaluronic Acid (HA) และ Calcium Hydroxyapatite (CaHA) ซึ่ง HArmonyCA ช่วยในหลายด้าน ดังนี้
- เพิ่มการยกกระชับ และการเติมเต็ม HArmonyCA มีส่วนประกอบของ Hyaluronic Acid (HA) ซึ่งจะช่วยเติมเต็ม และยกกระชับผิวได้ทันที ส่งผลให้ผิวหนังดูอิ่มฟู และมีความเรียบเนียบ
- กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน HArmonyCA มีส่วนประกอบของ Calcium Hydroxyapatite (CaHA) เป็นแร่ธาตุที่พบได้ในกระดูก และฟัน ซึ่งจะช่วยกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจนในระยะยาว และช่วยเพิ่มความกระชับในกับผิวหนัง
- เพิ่มความแข็งให้กับผิวหนัง CaHA จะช่วยเสริมโครงสร้างผิวให้เกิดความแข็งแรง และช่วยยกกระผิวหนัง รวมถึงช่วยลดปัญหาผิวหนังหย่อนคล้อย
- เพิ่มความยืดหยุ่นให้กับผิวหนัง เนื่องจาก HArmonyCA มีส่วนประกอบของ HA ซึ่งจะช่วยให้ผิวหนังมีความยืดหยุ่น ทำให้ผิวหนังดูสุขภาพดี มีความเป็นธรรมชาติ และช่วยลดริ้วรอยบนผิวหน้า
- เพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว HArmonyCA มีส่วนประกอบของ HA ที่มีคุณสมบัติในการอุ้มน้ำได้ดี ซึ่งช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นในกับผิว ผิวดูสุขภาพดี ผิวหนังมีความอิ่มฟู ช่วยลดการเกิดริ้วรอย และช่วยกักเก็บน้ำบริเวณผิวนานขึ้น
Juvederm เป็นฟิลเลอร์สัญชาติอเมริกา ที่มีส่วนประกอบหลัก คือ Hyaluronic Acid (HA) ซึ่งจะช่วยการเติมเต็ม และช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว นอกจากนี้ Hyaluronic Acid ยังช่วยในหลายด้าน ดังนี้
- เพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว เนื่องจาก Hyaluronic Acid มีคุณสมบัติในการดึงดูด และกักเก็บน้ำบริเวณชั้นผิว ส่งผลให้ผิวหนังดูชุ่มชื้น และเปล่งปลั่งขึ้น นอกจากนี้ยังทำให้ผิวดูอ่อนเยาว์
- ช่วยเติมเต็มริ้วรอย และรอยร่องลึก Juvederm จะช่วยเติมเต็มริ้วรอย และรอยร่อลึกที่มีสาเหตุมาจากการเสื่อมสภาพของคอลลาเจน และไขมันใต้ผิวหนัง โดย HA จะช่วยเพิ่มปรอมาณ และเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับผิวหนัง ส่งผลให้ริ้วรอย และรอยร่องลึกมีความตื้นขึ้น
- ช่วยปรับรูปหน้า หรือปรับโครงหน้า เช่นการเติมโหนกแก้ม คาง หรือกราม ซึ่งจะช่วยให้ใบหน้ามีโครงสร้างที่สมส่วนมากขึ้น และมีความคมชัดมากขึ้น
- ช่วยยกกระชับผิว Juvederm รุ่น Voluma หรือ Volux มีคุณสมบัติช่วยยกกระชับผิวหนังได้ดี ช่วยให้กรอบหน้าคมชัดมากขึ้น และช่วยลดการหย่อนคล้อยของผิวหนัง
จุดที่เหมือนกันระหว่าง HArmonyCA กับ Juvederm
อย่างที่ทราบทั้ง HArmonyCA และ Juvederm เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบหลัก คือ Hyaluronic Acid (HA) ที่มีคุณสมบัติในการดึงดูด และกักเก็บน้ำบริเวณใต้ผิวหนัง ทำให้ผิวหนังมีความชุ่มชื้นมากขึ้น ทำให้ผิวหนังดูอิ่มฟู และดูเปล่งปลั่ง นอกจากนี้ยังช่วยเติมเต็ม และยกกระชับผิวหนัง ทำให้ผิวหนังมีความเรียบเนียน รวมถึงช่วยลดเลือนริ้วรอย และรอยร่องลึก
ความแตกต่างระหว่าง HArmonyCA กับ Juvederm
| ความแตกต่าง | HArmonyCA | Juvederm |
|---|---|---|
| ส่วนประกอบ | การผสมผสานระหว่าง Hyaluronic Acid (HA) และ Calcium Hydroxyapatite (CaHA) | Hyaluronic Acid (HA) |
| เทคโนโลยี | Hybrid Filler เป็นการผสมของ HA และ CaHA เข้าด้วยกัน | Vycross Technology เป็นการผสมกันของ HA โมเลกุลขนาดเล็กและขนาดใหญ่ |
| กลไกการทำงาน | HArmonyCA จะช่วยเติมเต็มทันทีหลังจากการฉีด และช่วยกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจนในระยะยาว | Juvederm จะช่วยเติมเต็มทันทีหลังจากการฉีด |
| ระยะเวลาการอยู่ของผลลัพธ์ | 12-18 เดือน * | 6-18 เดือน * |
HArmonyCA กับ Juvederm ฉีดร่วมกันได้ไหม
HArmonyCA และ Juvederm สามารถทำการฉีดร่วมได้ โดยอาจมีการฉีดคนละตำแหน่ง เช่น HArmonyCA เหมาะกับการเพิ่มปริมาตร หรือการฉีดตรงแก้ม คาง ส่วน Juvederm เหมาะกับการฉีดตรงบริเวณริมฝีปาก หรือบริเวณร่องแก้ม แต่ก่อนการฉีดทุกครั้งควรได้รับการประเมินจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อความปลอดภัย และผลลัพธ์ที่ตรงต่อความต้องการ
ผลข้างเคียงระหว่าง HArmonyCA กับ Juvederm
HArmonyCA และ Juvederm มีความคล้ายคลึงกันตรงส่วนประกอบหลัก คือ Hyaluronic Acid (HA) ส่งผลให้ผิวหนังมีความชุ่มชื้น ดูอิ่มฟู ผิวหนังมีความเรียบเนียน ช่วยลดเลือนริ้วรอย และช่วยเติมเต็มทันทีหลังจากการฉีด รวมถึงผลข้างเคียงก็มีความคล้ายคลึงกัน เช่น รอยแดง รอยช้ำ อาการบวม รวมถึงอาการข้างเคียงที่รุนแรง เช่น อาการแพ้ และอาการติดเชื้อ
สรุป HArmonyCA VS Juvederm
อย่างที่รู้ HArmonyCA เป็นฟิลเลอร์แบบไฮบริด ที่ผสมกันระหว่าง กรดไฮยาลูโรนิก (HA) และแคลเซียมไฮดรอกซีอะพาไทต์ (CaHA) ซึ่งทำงานด้วยสองกลไก โดยมีคุณสมบัติของฟิลเลอร์เติมเต็ม และสารกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนไว้ในผลิตภัณฑ์เดียวกัน เพื่อให้ผลลัพธ์สำหรับการเติมเต็มผิวทันที และช่วยกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจนในระยะยาว HArmonyCA จึงเหมาะกับการฉีดตรงบริเวณแก้ม กราม และคาง ส่วน Juvederm จะมีส่วนประกอบหลัก คือ กรดไฮยาลูโรนิก (HA) ซึ่งมีคุณสมบัติในการอุ้มน้ำได้ดี ทำให้ผิวหนังมีความชุ่มชื้น ดูอิ่มฟู และมีความเปล่งปลั่ง นอกจากนี้ยังช่วยเติมเต็มผิว Juvederm จึงเหมาะกับการฉีดตรงบริเวณริมฝีปาก ร่องแก้ม และบริเวณรอบดวงตา
