Revealing a method to reduce wrinkles under the eyes, solve the problem of wrinkles, see results quickly and safely.

ริ้วรอยใต้ตา คือรอยย่นที่เกิดขึ้นบริเวณใต้ตา มักมีลักษณะเป็นเส้นยาวๆ หรือเป็นรอยย่นๆ เกิดขึ้นบริเวณใต้ตา เป็นปัญหาหลักสำหรับใครหลายคน ที่มีสาเหตุมาจากหลายปัจจัยทั้งภายใน และภายนอก ส่งผลให้บุคคลนั้นสูญเสียความมั่นใจ ดังนั้นบทความฉบับนี้ จะนำวิธีลดริ้วรอยใต้ตา การแก้ปัญหาเรื่องรอยเหี่ยวย่น ทั้งแบบธรรมชาติ และแบบเร่งด่วนมาฝาก เพื่อเป็นทางเลือกให้กับใครหลาย ๆ คน ได้เลือกตามความสะดวกและเหมาะสม โดยมีข้อมูลดังนี้

วิธีริ้วรอยใต้ตา แก้ปัญหารอยเหี่ยวย่น

ริ้วรอยใต้ตา มีกี่ประเภท ?

ริ้วรอยใต้ตา ถูกแบ่งออกเป็น 3 ปะเภท ซึ่งมีข้อแตกต่างกันดังนี้

ริ้วรอยเล็ก หรือริ้วรอยแบบตื้น (Fine Line)เป็นระยะเริ่มต้นของปัญหาเรื่องริ้วรอย โดยริ้วรอยเล็ก หรือริ้วรอยแบบตื้น จะเป็นริ้วรอยที่เกิดในชั้นหนังกำพร้า (Epidermis) ทำให้สามารถรักษาได้ง่ายที่สุด ซึ่งริ้วรอยเล็กมีสาเหตุมาจากที่ผิวหนังเกิดสภาวะขาดน้ำ จนทำให้ผิวหนังเกิดความแห้ง และทำให้เกิดริ้วรอย
ริ้วรอยจากการแสดงสีหน้า (Expression Wrinkle)เป็นริ้วรอยที่เกิดจากการหดตัวของกล้ามเนื้อบนใบหน้า ขณะแสดงสีหน้า อาทิเช่น การหัวเราะ การร้องไห้ การยิ้ม และการแสดงความเครียด ทั้งหมดนี้เป็นประจำ จนเกิดรอยพับ อย่างรอยตีนกา รอยย่นบนหน้าผาก หรือรอยที่ร่องแก้ม โดยริ้วรอยเหล่านี้สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกเพศ และทุกวัย ซึ่งหากในผิวหนังมีปริมาณคอลลาเจนที่มากพอ ผิวหนังก็จะมีความยืดหยุ่น จนสามารถคืนตัวได้ปกติ แต่ถ้าผิวหนังมีการสูญเสียคอลลาเจนเป็นจำนวนมาก ก็จะทำให้ผิวหนังกลับมาเรียบเนียนได้ยาก
ริ้วรอยในชั้นหนังแท้ (Dermis)เป็นริ้วรอยที่เกิดจากการที่ผิวหนังถูกทำร้ายด้วยสารอนุมูลอิสระ ไม่ว่าจะมาจาก ฝุ่น ควัน แสงแดด หรือระบบเผาผลาญภายในร่างกาย จนทำให้ร่างกายเกิดการสูญเสีย อีลาสติน กรดไฮยาลูรอนิก ไฟโบรบลาสต์ และคอลลาเจน ทำให้โครงสร้างเส้นใยของผิวหนังมีความเสื่อมสภาพอย่างรวดเร็ว และไม่คืนรูป ส่งผลให้บนผิวหนังใต้ตาเกิดริ้วรอย และความหย่อนคล้อยที่ใต้ตา

ริ้วรอยใต้ตา เกิดจากอะไรได้บ้าง ?

ปัญหาเรื่องริ้วรอยใต้ตา และรอยย่นใต้ตา อาจจะเป็นสัญญาณทางกายภาพที่บ่งบอกว่า ผิวหนัง และระบบภายในร่างกายที่เสื่อมลง ทำให้ผิวหนังบริเวณใต้ตาเกิดการสูญเสียความยืดหยุ่น และทำให้ผิวหนังมีความบางลง ซึ่งอาจถูกกระตุ้นจากปัจจัยภายใน และภายนอก ดังนี้

  • สูญเสียอีลาสติน และคอลลาเจน การสูญเสีย 2 อย่างนี้ จะส่งผลให้ผิวหนังสูญเสียความยืดหยุ่น และผิวหนังขาดความกระชับ รวมไปถึงทำให้ผิวหนังบางลง จนทำให้เกิดริ้วรอยใต้ตา ซึ่งริ้วรอยส่วนใหญ่จะเกิดตรงบริเวณ ใต้ตา หางตา เปลือกตา และผิวหนังรอบดวงตา เนื่องจากผิวหนังบริเวณนั้น มีความบอบบาง และมีความละเอียดมากกว่าจุดอื่น ทำให้ผิวหนังบริเวณนี้เกิดริ้วรอยได้เร็วขึ้น
  • age เมื่อคนเราอายุเพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้กระดูกบริเวณใต้ตาเกิดการยุบตัวลง ทำให้ผิวหนังบริเวณใต้ตาเกิดความหย่อนคล้อย และเกิดริ้วรอยใต้ดวงตา 
  • ผิวหนังขาดความชุ่มชื้น ส่วนใหญ่จะพบในคนผิวแห้ง เนื่องจากผิวหนังอยู่ในสภาวะขาดน้ำ ส่งผลให้เกิดริ้วรอยใต้ตาได้ง่าย
  • sunlight เป็นอีกหนึ่งต้นเหตุที่ทำให้เกิดริ้วรอย โดยเฉพาะบริเวณรอบดวงตา เนื่องจากในแสงแดดมีรังสีอัลตราไวโอเลต ที่เป็นตัวคอยทำร้ายอีลาสติน และคอลลาเจนในชั้นผิว ทำให้เกิดการเสื่อมสภาพ แล้วส่งผลให้เกิดริ้วรอย และรอยเหี่ยวย่น
  • การแสดงออกทางสีหน้า  เมื่อมีการแสดงออกทางสีหน้า อาทิเช่น การยิ้ม การหัวเราะ หรือการหรี่ตา เป็นเวลานาน หรือเป็นประจำ จะส่งผลให้เกิดริ้วรอย และความหย่อนคล้อย บริเวณผิวหนังรอบดวงตา
  • Smoking เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดรอยย่นบริเวณรอบดวงตา  เนื่องจากในบุหรี่มีสารเคมีที่คอยทำร้ายเซลล์ผิวให้เกิดความเสียหาย และยิ่งหากมีการสูบบุหรี่เป็นประจำก็จะทำให้มีรอยย่นเพิ่มมากขึ้น
  • การขยี้ตา การถูบริเวณรอบดวงตา หรือการขยี้ตา เป็นประจำ จะทำให้ผิวหนังเกิดการยืดตัวมากเกินไป ส่งผลให้อิลาสตินเกิดการสลายตัว และเกิดเป็นเส้น ทำให้เกิดริ้วรอยขึ้นได้
  • ชอบนอนคว่ำ หรือนอนตะแคง เป็นเวลานาน การนอนลักษณะนี้เป็นเวลานาน อาจจะทำให้ผิวหนังเกิดริ้วรอยได้เร็วกว่าปกติ
  • การใช้สายตาดูโทรศัพท์หรือคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน ส่งผลให้กล้ามเนื้อบริเวณรอบดวงตา เกิดการหดตัว ทำให้เกิดริ้วรอยได้ง่าย

วิธีป้องกันการเกิดริ้วรอยใต้ตา

ริ้วรอยใต้ตา เป็นปัญหาที่สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์เหล่านี้ หัวข้อนี้เลยนำวิธีป้องกันการเกิดริ้วรอยใต้ตาแบบง่ายที่ทุกคนสามารถทำตามได้มาฝาก

  • Getting enough rest ขณะที่ร่างกายมีการพักผ่อน ระบบภายในจะทำการซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ และการนอนจะช่วยในเรื่องการปรับฮอร์โมนในร่างกาย ส่งผลให้ผิวพรรณดูเปล่งปลั่ง และไม่เกิดริ้วรอย
  • การดื่มน้ำเยอะๆ  การดื่มน้ำเยอะ ณ ที่นี้คือการดื่มน้ำให้ได้ปริมาณที่ร่างกายต้องการ โดยจะช่วยป้องกันไม่ให้เกิดริ้วรอยบริเวณใต้ตา และช่วยให้ผิวหนังเกิดความชุ่มชื้น ไม่แห้งกร้าน
  • Eating healthy foods You should eat all five food groups and should eat vegetables and fruits that contain antioxidants, such as avocado, cucumber, banana, papaya, red grapes, pumpkin, etc.
  • การหลีกเลี่ยงแสงแดด อย่างที่รู้กันแสงแดดเป็นตัวการทำร้ายผิว โดยเฉพาะผิวหนังรอบดวงตา เนื่องจากในแสงแดดมีรังสีอัลตราไวโอเลต ที่เป็นตัวคอยทำร้ายอีลาสติน และคอลลาเจนในชั้นผิว ทำให้ผิวหหนังใต้ตาเกิดริ้วรอย ดังนั้นควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ต้องโดนแสงแดดเป็นเวลานาน แต่ถ้าหลีกเลี่ยงไม่ได้ควรมีการบำรุงผิวด้วยครีมกันแดด หรือใส่แว่นกันแดดเพื่อป้องดวงตา
  • งดการขยี้ตา เนื่องจากการถู หรือการขยี้ จะทำให้ผิวหนังบริเวณรอบดวงตาเกิดการยืดตัวมากเกินไป ส่งผลให้อิลาสตินเกิดการสลายตัว และเกิดเป็นเส้น ทำให้เกิดริ้วรอยขึ้นได้ ดังนั้นควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสดวงตาโดยตรง และควรงดการถู หรือการขยี้ตาแรงๆ
  • การเช็ดเครื่องสำอาง ไม่ควรจะเช็ดเครื่องสำอางแรงเกินไป โดยเฉพาะผิวหนังบริเวณรอบดวงตา เนื่องจากผิวหนังบริเวณรอบดวงตามีความบาง อาจจะส่งผลให้ผิวหนังเกิดความระคายเคือง
  • Sleeping position should be changed. ควรหลีกเลี่ยงการนอนตะแคง หรือการนอนคว่ำเป็นประจำ เนื่องจากอาจทำให้เกิดริ้วรอยได้ง่าย
  • ใช้ครีมบำรุงรอบดวงตา ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประสมของสารแอนตี้ออกซิแดนท์ ที่ช่วยในเรื่องการฟื้นฟูผิวหนังรอบดวงตาทำให้ดวงตาสดใส หรือผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประสมของคาโมมายล์  ที่ช่วยในลดการระคายเคืองของดวงตา

วิธีลดริ้วรอยใต้ตา แบบธรรมชาติ

วิธีการลดริ้วรอยใต้ตาแบบธรรมชาติ เป็นวิธีที่ทุกคนสามารถทำได้ด้วยตนเอง ไม่ยุ่งยาก และไม่ทิ้งสารเคมีไว้ในร่างกาย แต่อาจจะเห็นผลลัพธ์ช้าหน่อยและวิธีนี้ต้องทำอย่างสม่ำเสมอ

  • cucumber เป็นผักที่มีส่วนประกอบของน้ำ ร้อยละ 90  และมีฤทธิ์เย็น จึงช่วยลดอาการบวม อาการอักเสบ เพิ่มความชุ่มชื้น และช่วยลดริ้วรอย  นอกจากนี้ยังช่วยฟื้นฟูระบบไหลเวียนของเส้นเลือดฝอยรอบดวงตาได้ 
    How to use it: นำแตงกวามาล้างน้ำให้สะอาด แล้วนำมาหั่นเป็นแว่น แล้วแช่ให้เย็น จากนั้นค่อยนำมาวางบนดวงตา ทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที
  • egg white มีคุณสมบัติช่วยให้ผิวหนังมีความเต่งตึง ช่วยป้องกันการเกิดริ้วรอย และช่วยลดการเกิดริ้วรอยอีกด้วย  
    How to use it: แยกไข่ขาวออกจากไข่แดง แล้วนำไข่ขาวที่แยกไว้มาทาลงบริเวณผิวหนังรอบดวงตา ทาทิ้งไว้จนกว่าจะรู้สึกตึงที่ผิว แล้วค่อยล้างด้วยน้ำสะอาด ข้อควรระวัง คือไม่ควรทิ้งไว้นานเกิดไป เพราะแรงตึงที่มากของไข่ จะทำให้เกิดถุงใต้ตา 
  • Avocado มีไขมันดีอยู่ในปริมาณมากที่ดีต่อผิวหนัง ซึ่งอะโวคาโดจะช่วยในการลดริ้วรอย และความเหี่ยวย่นของผิวหนัง ยังรวมไปถึงช่วยเรื่องริ้วรอยคล้ำใต้ตา
    How to use it: นำอะโวคาโดมาหั่นเป็นแผ่นบาง ๆ  แล้วนำไปแปะตรงบริเวณผิวหนังใต้ตา ใช้มือกดอย่างเบามือ แปะทิ้งไว้ 15 นาที เพื่อในไขมันซึมลงสู่ผิวหนัง
  • Coconut oil มีคุณสมบัติช่วยในเรื่องการลดริ้วรอยใต้ตาและช่วยฟื้นฟูผิวหนัง รวมไปถึงช่วยในเรื่องผิวหนังที่เหี่ยวย่น
    How to use it: นำน้ำมันมะพร้าวมาทาบริเวณผิวหนังใต้ตา  แล้วใช้นิ้วนวดเบา ๆ ประมาณ 10 นาที แล้วทิ้งไว้ข้ามคืน ตื่นมาค่อยล้างด้วยน้ำสะอาด
  • น้ำมันมะกอก มีคุณสมบัติช่วยในเรื่องการลดริ้วรอยใต้ตา และช่วยให้ผิวหนังมีความชุ่มชื้น 
    How to use it: นำน้ำมันมะกอกมาทาตรงบริเวณผิวใต้ตา แล้วใช้นิ้วนวดเบา ๆ ประมาณ 4 นาที แล้วทิ้งไว้ข้ามคืน ตื่นมาค่อยล้างด้วยน้ำสะอาด

วิธีลดริ้วรอยใต้ตา แบบเร่งด่วน

สำหรับการลดริ้วรอยใต้ตาด้วยวิธีอื่น ๆ ในบางครั้งอาจจะใช้ระยะเวลาที่นานกว่าจะเห็นผล จึงทำให้เกิดวิธีลดริ้วรอยใต้ตาแบบเร่งด่วน ซึ่งมีมากมายหลายวิธี ดังนี้

  • การลดริ้วรอยใต้ตาด้วยโบท็อกซ์ (Botox)  วิธีนี้เหมาะกับบุคคลที่ใช้ครีมบำรุงใต้ตาแล้วไม่เห็นผล ซึ่งการฉีดโบท็อกซ์ จะเป็นการฉีดสารชนิดหนึ่งที่ชื่อว่า โบทูลินั่ม ท็อกซิน เอ (Botulinum toxin type A) เข้าสู่ผิวหนังบริเวณใต้ดวงตา ทำให้กล้ามเนื้อบริเวณนั้นเกิดการคลายตัวชั่วคราว ส่งผลให้ริ้วรอยมีความจางลง การฉีดโบท็อกจะสามารถเห็นผลลัพธ์ได้ทันที ไม่ทิ้งรอยแผล และไม่เสียเวลาพักฟื้น
  • ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา (Filler) วิธีการนี้เป็นวิธีที่นิยมกันมากและเหมาะกับบุคคลที่มีปัญหาเรื่องริ้วรอยใต้ตาที่ค่อนข้างเยอะ และปัญหาร่องใต้ตาที่ไม่ลึก ซึ่งฟิลเลอร์จะเป็นการฉีดสารเติมเต็มประเภทไฮยาลูโรนิค แอซิด (Hyaluronic Acid : HA) เข้าสู่ผิวหนังใต้ตา  โดยจะช่วยลดริ้วรอยใต้ตา ทำให้ดวงตามีความอวบอิ่ม การฉีดฟิลเลอร์สามารถเห็นผลได้ทันที ไม่ต้องผ่าตัด และไม่ต้องเสียเวลาในการพักฟื้น จึงไม่แปลกใจที่วิธีที่จะได้รับความนิยมสูง
  • การลดริ้วรอยใต้ตาด้วยการยิงเลเซอร์ การเลเซอร์ลดริ้วรอยใต้ตา จะมีวิธีการคือ ทางแพทย์จะทำการใช้ความร้อนยิงลงบริเวณใต้ผิวหนัง เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนให้เกิดใหม่ ส่งผลให้ผิวหนังเกิดความเรียบเนียน ช่วยลดริ้วรอย และจุดด่างดำ แต่การยิงเลเซอร์อาจจะต้องใช้เวลาในการพักฟื้น และอาจทิ้งรอยแผลไว้
  • การลดริ้วรอยใต้ตาโดยการใช้ คลื่นวิทยุ HIFU (High Intensity Focused Ultrasound) เป็นการรักษาโดยการส่งพลังงานที่มีความเข้มข้นสูงผ่านเครื่องมือ ซึ่งพลังงานชนิดนั้นจะมาในรูปแบบของคลื่นความถี่วิทยุ ที่จะทำปฏิกิริยากับผิวบริเวณนั้น ๆ ซึ่งการรักษาด้วยวิธีนี้จะทำให้ผิวหนังเกิดความกระชับ และช่วยในเรื่องริ้วรอยได้ด้วยเช่นกัน

ทั้งหมดนี้คือวิธีลดริ้วรอยใต้ตา และการแก้ปัญหารอยเหี่ยวย่น หากคุณพบปัญหาดังกล่าว ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อหาวิธีรักษาที่เหมาะสมกับตนเองโดยDr. Som, Dr. Grace and the Mudan Pavilion medical team are happy to provide free consultations without any charges. Inbox Facebook or add this Line. The doctors will answer every case themselves.