10 ways to make your face clear, nourish your skin, remove acne, brighten your skin, easily and naturally.

การมีผิวหน้าใส สุขภาพดี กระจ่างใส และไร้สิว ไม่จำเป็นต้องพึ่งสกินแคร์ราคาแพงเสมอไป เพราะการดูแลผิวให้สวยใสสามารถทำได้ง่าย ๆ ด้วยวิธีธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นการเลือกใช้ส่วนผสมจากธรรมชาติ การปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิต หรือการดูแลผิวอย่างถูกวิธี เมื่อลองทำอย่างสม่ำเสมอ ผิวจะค่อย ๆ แข็งแรงและดูมีออร่ายิ่งขึ้น มาดูเคล็ดลับง่าย ๆ ที่ช่วยให้ผิวหน้าของคุณกระจ่างใสแบบเป็นธรรมชาติกันเลย

หน้ากระจ่างใส คืออะไร ?

อย่างที่ทราบ หน้ากระจ่างใส คือ ลักษณะของผิวที่มีความเนียนใส สดใส เปล่งปลั่ง สีผิวสม่ำเสมอ ไม่มีความหมองคล้ำหรือจุดด่างดำ ผิวหนังมีความชุ่มชื้น ไม่แห้งกร้าน และผิวหน้าไม่มันเยิ้ม เนื่องจากสภาพผิวหน้าของทั้งผู้หญิงและผู้ชายมีความแตกต่างกัน อาจเป็นเพราะการดูแลผิวที่ไม่เหมือนกัน และฮอร์โมนที่แตกต่างกัน โดยปกติแล้ว ผิวหน้าของผู้หญิงมักมีความละเอียดมากกว่าผู้ชาย แต่ในปัจจุบัน ผู้ชายก็สามารถมีผิวหน้าที่กระจ่างใสได้ หากมีการดูแลตัวเองอย่างถูกวิธี และเหมาะสมกับสภาพผิวของตนเอง

หน้าหมองคล้ำ ไม่กระจ่างใส เกิดจากอะไร ? และส่งผลอะไรบ้าง ?

การมีหน้าหมองคล้ำ ไม่กระจ่างใส จะทำให้ผิวดูหมองคล้ำ ไม่สดใส สีผิวไม่สม่ำเสมอ ผิวขาดความชุ่มชื้น และดูไม่เปล่งปลั่ง ซึ่งส่งผลให้บุคคลนั้นขาดความมั่นใจในตนเอง หรือขาดความน่าเชื่อถือในหน้าที่การงาน เช่น พนักงานขาย พนักงานต้อนรับ

นอกจากนี้ อาจเสี่ยงต่อปัญหาผิว เช่น การเกิดฝ้า กระ จุดด่างดำ หรือสิว รวมถึงอาจบ่งบอกถึงปัญหาสุขภาพภายใน เช่น การขาดสารอาหาร หรือระบบไหลเวียนเลือดที่ไม่ดี โดยการเกิดหน้าหมองคล้ำ ไม่กระจ่างใส สามารถเกิดได้จากหลายปัจจัย ดังนี้

  • อายุที่เพิ่มมากขึ้น เมื่อคนเราอายุมากขึ้น คอลลาเจนใต้ผิวหนังจะถูกผลิตน้อยลง ส่งผลให้ผิวหนังเกิดริ้วรอยมากขึ้น ขาดความยืดหยุ่น หย่อนคล้อย และทำให้ผิวหน้าหมองคล้ำมากขึ้น
  • ฮอร์โมนเกิดการเปลี่ยนแปลง เช่น ช่วงตั้งครรภ์ วัยหมดประจำเดือน หรือการใช้ยาคุมกำเนิด อาจทำให้ใบหน้าเกิดฝ้า และผิวหมองคล้ำ
  • sunlight อย่างที่ทราบกันดีว่าแสงแดดมี UVA and UVB ซึ่งเป็นสาเหตุหลักที่ทำร้ายผิว โดย UVA ทำให้ผิวหนังหมองคล้ำ ผิวไหม้แดด ผิวคล้ำแดด เกิดฝ้า กระ และจุดด่างดำ ส่วน UVB ทำให้ผิวแก่ก่อนวัย ผิวเกรียมแดด ผิวหนังอักเสบ และอาจเสี่ยงต่อมะเร็งผิวหนัง
  • Weather conditions: เมื่ออากาศหนาวมักมาพร้อมกับความชื้นที่ลดลง ทำให้ผิวหนังสูญเสียน้ำและแห้งแตก ส่งผลให้ใบหน้าดูหมองคล้ำและไม่สดใส นอกจากนี้ เมื่ออากาศเย็น หลอดเลือดจะหดตัว ทำให้การไหลเวียนของเลือดลดลง ส่งผลให้เซลล์ผิวเก่าคั่งค้าง ทำให้ผิวหน้าหมองคล้ำและไม่เรียบเนียน
  • มลภาวะทางอากาศ เช่น สารพิษ ฝุ่นละออง และก๊าซพิษ ทำให้ผิวหน้าสูญเสียความยืดหยุ่น ไม่กระจ่างใส ใบหน้าหมองคล้ำ มีจุดด่างดำ และดูแก่ก่อนวัย เนื่องจากอนุภาคของฝุ่นละอองสามารถแทรกซึมเข้าสู่ผิวหนัง ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของผิว
  • การแต่งหน้า หากล้างเครื่องสำอางไม่หมด จะทำให้เกิดการอุดตันบริเวณรูขุมขน และทำให้ผิวหน้าหมองคล้ำ
  • Stress: ความเครียดจะกระตุ้นให้ร่างกายสร้างเม็ดสีเมลานิน ซึ่งเป็นตัวการทำให้ผิวหมองคล้ำ
  • การพักผ่อนไม่เพียงพอ จะทำให้ผิวหน้าดูไม่สดใส หมองคล้ำ เกิดริ้วรอย และสิว นอกจากนี้ หากนอนหลับไม่สนิท กระบวนการผลัดเซลล์ผิวจะลดลง
  • การดื่มน้ำไม่เพียงพอ น้ำเป็นองค์ประกอบสำคัญของร่างกาย หากร่างกายได้รับน้ำไม่เพียงพอ ระบบไหลเวียนโลหิตจะทำงานลดลง ส่งผลให้ผิวพรรณดูซีด ไม่สดใส ผิวหนังหย่อนคล้อย ไม่เรียบเนียน และอาจทำให้ผิวหน้าหมองคล้ำ
  • การสูบบุหรี่และการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ บุหรี่ทำให้หลอดเลือดหดตัว ลดการไหลเวียนของออกซิเจนในผิว ส่วนแอลกอฮอล์ทำให้ผิวขาดน้ำ
  • Daily life เช่น การจ้องสมาร์ทโฟนหรือคอมพิวเตอร์ แสง UVA ส่งผลต่อผิวหน้า ทำให้ใบหน้าหมองคล้ำ

วิธีทำหน้าใส ผิวหน้าขาว มีอะไรบ้าง?

เลเซอร์หน้าใส

เลเซอร์หน้าใส เป็นการรักษาที่แพทย์จะทำการยิงเลเซอร์ลงบริเวณผิวหนัง ซึ่งเลเซอร์จะเข้าไปทำลายเม็ดสีเมลานินที่ผลิตผิดปกติ ทำให้ผิวหน้าที่มีปัญหาดูกระจ่างใสขึ้น ผิวเรียบเนียน ช่วยลดเลือนริ้วรอย จุดด่างดำ ฝ้า กระ และลดการเกิดสิว รวมถึงช่วยปรับสภาพสีผิวให้สม่ำเสมอ และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน

ฉีดวิตามินซี

การฉีดวิตามินซี เป็นหัตถการที่แพทย์จะทำการฉีดวิตามินซี (Vitamin C) หรือกรดแอสคอร์บิก (Ascorbic Acid) เข้าไปยังบริเวณผิวหนังที่มีปัญหา ซึ่งวิตามินซีช่วยลดการสร้างเม็ดสีเมลานิน ต้านอนุมูลอิสระ กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และช่วยซ่อมแซมผิวหนัง ทำให้ผิวหน้าดูกระจ่างใส มีออร่า และลดเลือนจุดด่างดำ นอกจากนี้ยังช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทานให้กับร่างกาย

ผลัดเซลล์ผิวด้วยกรดผลไม้

การผลัดเซลล์ผิวด้วยกรดผลไม้ (Alpha Hydroxy Acids) เป็นการใช้สารสกัดจากธรรมชาติที่มีฤทธิ์เป็นกรด เช่น กรดซีตริก (Citric Acid) กรดทาร์ทาริก (Tartaric Acid) กรดไกลโคลิก (Glycolic Acid) กรดมาลิก (Malic Acid) และกรดแลคติก (Lactic Acid) ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยเร่งการผลัดเซลล์ผิวให้เร็วขึ้น ทำให้เซลล์ผิวเก่าหลุดออก นอกจากนี้ยังช่วยกระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่ ช่วยซ่อมแซมและเสริมสร้างคอลลาเจนใต้ผิว ทำให้ผิวกระจ่างใส เรียบเนียน และสีผิวสม่ำเสมอ รวมถึงช่วยลดรอยดำ

RF (Radio Frequency)

RF (Radio Frequency) เป็นการรักษาโดยการยิงคลื่นวิทยุลงสู่ชั้นผิวเพื่อกระตุ้นให้เกิดความร้อน ซึ่งจะช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินใหม่ ทำให้ใบหน้ากระชับ เรียบเนียน ช่วยลดเลือนริ้วรอย ลดจุดด่างดำ ทำให้ใบหน้าดูกระจ่างใสยิ่งขึ้น

Ultherapy

Ultherapy เป็นเทคโนโลยีที่ใช้คลื่นเสียงอัลตราซาวด์ความถี่สูง (High Intensity Focused Ultrasound) เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ผิวหนัง ทำให้ผิวหน้ากระชับ ดูอ่อนเยาว์ ผิวเรียบเนียน อิ่มฟู เปล่งปลั่ง และช่วยให้ใบหน้าดูสดใสขึ้น

Mesotherapy (เมโสหน้าใส)

การฉีดเมโสหน้าใส เป็นการรักษาด้วยการฉีดวิตามินหรือสารบำรุงเข้าสู่ผิวหนัง เช่น แร่ธาตุ กรดอะมิโน วิตามินซี วิตามินอี เปปไทด์ และไนอาซินาไมด์ โดยสารที่ฉีดเข้าสู่ผิวจะช่วยบำรุงและฟื้นฟูผิวที่เสื่อมสภาพ ทำให้ผิวมีความชุ่มชื้น และดูกระจ่างใสมากขึ้น

Filler injection

การฉีดฟิลเลอร์เป็นการฉีดสารเติมเต็มประเภท Hyaluronic Acid (HA) เข้าสู่ผิวหนังบริเวณที่มีปัญหา โดย HA มีคุณสมบัติอุ้มน้ำได้ดี ทำให้หลังจากการฉีดฟิลเลอร์ เช่น Forehead filler ฟิลเลอร์ใต้ตา ผิวจะสามารถกักเก็บความชุ่มชื้นได้ยาวนานขึ้น พร้อมช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน ทำให้ผิวฉ่ำวาว เรียบเนียน อิ่มฟู ดูสุขภาพดี และช่วยแก้ปัญหาผิวแห้ง

ฉีด Skin Booster

Skin Booster หรือ สกินบูสเตอร์ คือ การฉีดสารบำรุงผิวชนิดเข้มข้นเข้าสู่ชั้นผิวหนังกลาง (Dermis) เปรียบเสมือนการเติมอาหารให้ผิว ช่วยฟื้นฟูสภาพผิว นอกจากนี้ Skin Booster ยังช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน ปรับสีผิว เติมความชุ่มชื้นให้ผิว ทำให้ผิวมีความยืดหยุ่น ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ และดูกระจ่างใสขึ้น

ทรีตเมนต์หน้าใส

การทำทรีตเมนต์หน้าใส เป็นอีกหนึ่งวิธีในการฟื้นฟูและซ่อมแซมผิวหน้า ซึ่งสามารถทำได้หลายวิธี เช่น การทำความสะอาดผิวหน้า การขัดผิว การขจัดเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพ การมาสก์หน้า หรือการนวดหน้า เพื่อช่วยกระตุ้นการทำงานของผิว ส่งเสริมการไหลเวียนของเลือด และช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ ทำให้ผิวหน้ากระจ่างใส ดูอ่อนวัย เรียบเนียน และไม่แห้งกร้าน

10 วิธีดูแลผิวหน้าให้กระจ่างใสด้วยตัวเองแบบง่าย ๆ

วิธีดูแลผิวหน้าให้กระจ่างใสด้วยตัวเอง เป็นวิธีการดูแลตนเองเบื้องต้น แบบที่ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย แต่ต้องทำอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้ได้เห็นผลลัพธ์ 

1. เริ่มต้นด้วยล้างหน้า

การทำความสะอาดผิวหน้าด้วยผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับสภาพผิว เช้า – เย็น เพื่อช่วยขจัดสิ่งสกปรก เครื่องสำอาง และน้ำมันส่วนเกินที่สะสมอยู่บนใบหน้า

2. บำรุงผิวอย่างสม่ำเสมอ / มาร์กหน้า

ปัจจุบันการใช้ชีวิตประจำวันหรือมลภาวะอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ผิวหน้าหมองคล้ำ การใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวอย่างสม่ำเสมอจะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นและรักษาให้ผิวมีสุขภาพดี นอกจากนี้ หากอยากให้ใบหน้ากระจ่างใส ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีส่วนผสมของไวท์เทนนิ่ง

Sun Protection

3. ทากันแดดทุกวัน

เนื่องจากแสงแดดมีรังสี UV ซึ่งเป็นปัจจัยที่คอยทำร้ายคอลลาเจนและอีลาสตินในผิวหนัง ทำให้ผิวขาดความชุ่มชื้น ขาดความสมดุล และขาดความยืดหยุ่น ส่งผลให้เกิดริ้วรอยและรอยย่นบนผิวหนังได้

4. ดื่มน้ำให้เพียงพอ

น้ำเป็นส่วนประกอบสำคัญของร่างกาย โดยน้ำช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวหนัง ทำให้ผิวไม่แห้งกร้าน ผิวหน้าดูสุขภาพดี ช่วยให้ระบบไหลเวียนเลือดทำงานได้ดี รวมถึงช่วยให้ระบบขับถ่ายของเสียของร่างกายเป็นปกติ

5. พักผ่อนให้เพียงพอ

นอนหลับให้ได้อย่างน้อย 7-8 ชั่วโมงต่อคืน ขณะที่เรานอนหลับ ร่างกายจะซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอและสร้างเซลล์ใหม่ แต่หากพักผ่อนไม่เพียงพอ ร่างกายจะเกิดความเหนื่อยล้า ส่งผลให้ใบหน้าหมองคล้ำ ใต้ตาคล้ำ และขอบตาดำ นอกจากนี้ยังทำให้ผิวหย่อนคล้อย เกิดริ้วรอย และทำให้ใบหน้าดูแก่ก่อนวัย

6. ทานอาหารที่มีประโยชน์

เน้นผัก ผลไม้และโปรตีน การรับประทานผักใบเขียว การรับประทานปลาทะเล และการรับประทานผลไม้จำพวกตระกูลเบอร์รี่ เป็นต้น อาหารประเภทนี้จะช่วยต้านสารอนุมูลอิสระและช่วยชะลอการเสื่อมของเซลล์ผิวหนัง

7. ออกกำลังกายสม่ำเสมอ

เมื่อคนเรามีอายุเพิ่มมากขึ้น ระบบไหลเวียนเลือดจะเสื่อมลง ทำให้ผิวหนังไม่เปล่งปลั่งและไม่สดใส การออกกำลังกายสัปดาห์ละ 2 – 3 ครั้ง ครั้งละ 30 นาที จะช่วยให้ระบบไหลเวียนเลือด ระบบทางเดินหายใจ และระบบอื่นๆ ในร่างกายทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงช่วยให้ร่างกายเกิดการเผาผลาญ ส่งผลให้ใบหน้าดูเด็ก ผิวหน้าดูสุขภาพดี และช่วยให้ร่างกายแข็งแรง

8. อย่าบีบสิว

การจับ แกะ บีบ หรือสัมผัสบริเวณที่เกิดสิว จะทำให้เชื้อแบคทีเรียกระจายตัว นอกจากนี้ การบีบสิวอาจทำให้เกิดรอยดำ รอยแผลเป็น และอาจเกิดการอักเสบรุนแรงกว่าเดิม

9. ใช้ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร

การเลือกรับประทานผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มีส่วนผสมของ กลูต้าไธโอน, โคเอนไซม์คิวเทน, ไลโคปีน, แอสตาแซนธิน และวิตามิน C จะช่วยปรับสภาพผิวให้ขาวขึ้นและมีความกระจ่างใส นอกจากนี้ยังช่วยส่งเสริมกระบวนการสร้างและฟื้นฟูคอลลาเจนใต้ชั้นผิว

10. หลีกเลี่ยงปัจจัยที่ทำร้ายผิว

หลีกเลี่ยงปัจจัยที่ทำร้ายผิว เช่น แสงแดด การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ การสูบบุหรี่ การล้างหน้าแรงเกินไป และการรับประทานอาหารที่ไม่มีประโยชน์ สิ่งเหล่านี้อาจทำให้ผิวหน้าหมองคล้ำ โทรม ขาดความชุ่มชื้น เกิดริ้วรอย และอาจทำให้ผิวเกิดการระคายเคืองได้

วิธีเลือกคลินิกทำหน้าใสที่ไหนดี ?

อย่างที่ทราบ การมีผิวหน้าที่เปล่งปลั่ง เนียนใส ไม่หมองคล้ำ และมีสีผิวที่สม่ำเสมอ จะทำให้บุคคลนั้นมีความมั่นใจในภาพลักษณ์ และช่วยส่งเสริมหน้าที่การงานสำหรับบางอาชีพ เช่น พนักงานต้อนรับหรือพนักงานขาย รวมถึงช่วยลดปัญหาผิวในระยะยาว ซึ่งการทำให้ผิวหน้ากระจ่างใสมีหลากหลายวิธี ดังนั้น เพื่อความปลอดภัยและเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ตรงตามความต้องการ ควรเลือกคลินิกที่มีลักษณะดังนี้

  • Clinics or service establishments must have a medical facility license and a clear, verifiable 11-digit license number.
  • The medical team must have a medical license or a medical license.
  • วิธีการทำหน้าใส เช่น การทำเลเซอร์หน้าใส การทำ Ultherapy การทำเมโสหน้าใส ฉีด Skin Booster และฉีดฟิลเลอร์ ควรทำโดยแพทย์ที่มีความชำนาญ เพื่อความปลอดภัย และเพื่อป้องกันการเกิดผลข้างคียง
  • คลินิกต้องเลือกใช้อุปกรณ์ที่ได้มาตรฐาน และเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เป็นของแท้ เพื่อลดความเสี่ยงที่จะเกิดอาการแพ้และผลข้างเคียงที่รุนแรง
  • The clinic must provide consultation services and be able to answer patients' questions correctly.
  • ต้องมีรีวิวจากผู้ที่เข้ามาใช้บริการจริง โดยเฉพาะเคสที่เกี่ยวกับการทำหน้าใส
  • The clinic or service location must be up to standard, clean, sanitary and have sufficient equipment for safety.
  • The clinic or service provider must provide detailed explanations before the procedure and how to take care of yourself after the procedure. The medical team must also follow up on the results after the procedure.
  • คลินิกหรือสถานบริการต้องตั้งอยู่ในทำเลที่สะดวกต่อการเดินทางและการเข้าไปใช้บริการ