Hollow cheeks filler injection

1.  ฟิลเลอร์แก้มตอบคืออะไร ?

        ฟิลเลอร์แก้มตอบ คือ การเติมสารเติมเต็มกลุ่ม ไฮยาลูรอนิค แอซิด (Hyaluronic Acid) เข้าไปแก้ไขปัญหาเนื้อแก้ม ชั้นไขมันที่หายไปได้โดยที่ผู้เข้ารับการรักษาไม่ต้องพักฟื้น ช่วยปรับลดความเด่นของกระดูกโหนกแก้ม และเป็นการแก้ไขโหงวเฮ้งตามหลักความเชื่อ เพื่อให้ใบหน้าดูอิ่มเอิบ ผ่องใสขึ้น

2.  แก้มตอบเกิดจากสาเหตุอะไร ?

        แก้มตอบ หน้าตอบ เป็นภาวะที่แก้มยุบตัวลงไปกลายเป็นแอ่งเล็ก ๆ บนใบหน้า ซึ่งปัญหาแก้มตอบนอกจากจะทำให้หน้าดูโทรม ไม่สดใส และดูแก่เกินอายุแล้ว ยังทำให้ใบหน้าเหลี่ยมและโหนกแก้มเด่นชัด จนทำให้หลายคนขาดความมั่นใจไปในที่สุด ซึ่งจริง ๆ แล้วปัญหาแก้มตอบเกิดขึ้นมาจากการเปลี่ยนแปลงของโครงสร้างใบหน้า ทั้งในเรื่องของรูปกระดูกและชั้นไขมัน สำหรับสาเหตุของแก้มตอบที่พบได้มาก มีดังนี้

(2.1). น้ำหนักลดอย่างรวดเร็ว :

เมื่อน้ำหนักลด ก็จะทำให้สูญเสียชั้นไขมันตามจุดต่างๆ ของร่างกายรวมไปถึงบริเวณใบหน้า ที่จะเห็นได้ชัดเจนว่าหน้าซูบ แก้มตอบมาก

(2.2). พันธุกรรม :

เกิดจากการที่กระดูกส่วนกลางบริเวณแก้มยุบตัวลงมากเกินไป ทำให้เนื้อยุบตามลงไปด้วย หรือคนที่มีโหนกแก้มสูง ก็จะทำให้แก้มดูตอบด้วยเช่นกัน

(2.3). อายุมากขึ้น :

เมื่ออายุของเรามากขึ้น จะทำให้ไขมันบางส่วนหายไป จากแก้มที่เคยดูอวบอิ่มก็ดูซูบตอบลง ทำให้เกิดริ้วรอยเหี่ยวย่น ดูโทรมไม่สดใส

(2.4).ทันตกรรมจัดฟัน :

เพราะการจัดฟันที่มีส่วนช่วยให้ฟันแนบชิดกันมากขึ้นนั้น ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของโครงกระดูกใบหน้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับบริเวณแนวกราม โดยการจัดฟันทั่วไปจะใช้เวลาประมาณ 2-3 ปี ดังนั้น กล้ามเนื้อในการเคี้ยวอาหารของคนจัดฟันจะเล็กลง ทำให้เกิดปัญหาหน้าตอบได้

(2.5). การฉีดโบท็อกลดกราม  :

การฉีดโบท็อกลดกรามจริงๆแล้ว จะทำให้กรามเล็กลง แต่ในกรณีที่ฉีดโบท็อกกรามแล้วหน้าตอบ เกิดจาก แพทย์ที่ไม่มีประสบการณ์ ใช้ปริมาณโบท็อกไม่เหมาะสม ฉีดมากเกินไป ทำให้กล้ามเนื้อกรามเล็กลงจนทำให้แก้มตอบลงด้วย  

3.  ปัญหาแก้มตอบ แก้ไขด้วยวิธีใดบ้าง ?

       (3.1). การเพิ่มน้ำหนัก :

เป็นเรื่องปกติไปแล้วที่เมื่อคนเราผอมลงเลยทำให้เกิดปัญหาแก้มตอบ สำหรับใครที่ผอมมากจนเกินไปให้ลองค่อย ๆ เพิ่มน้ำหนัก ด้วยการรับประทานอาหารเพิ่มขึ้น เลือกรับประทานอาหารถูกหลักโภชนาการ หรืออาจจะรับประทานอาหารเสริมจำพวกวิตามินที่ช่วยทำให้เกิดอยากรับประทานอาหารมากขึ้นร่วมด้วยก็ได้ โดยตั้งเป้าเพิ่มสักเดือนละ 1-2 กิโลกรัม ก็สามารถแก้ปัญหาแก้มตอบได้

(3.2). อาหารเสริมวิตามิน :

ให้รับประทานอาการเสริมจำพวกวิตามินรวมเซนทรัม หรือวิตามินซี ซึ่งมีส่วนช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ส่วนอาหารที่ไม่มีประโยชน์อย่างพวกชา กาแฟ หรือน้ำอัดลมก็ควรงดหรือพยายามหลีกเลี่ยง

(3.3). เทคนิคการแต่งหน้า :

เทคนิคง่าย ๆ ที่ช่วยทำให้ใบหน้าดูเอิบอิ่มยิ่งขึ้น เทคนิคสำคัญอยู่ที่การปัดแก้ม ซึ่งขอแนะนำให้สาว ๆ ที่มีปัญหา แก้มตอบ ทั้งหลายใช้บลัชออนสีชมพู ชมพูอมส้ม หรือสีแดงเชอร์รี่ ปัดลงบริเวณแก้มให้เป็นวงกลมตรงส่วนที่นูนที่สุดของแก้ม เพื่อเป็นการดึงจุดเด่นของพวงแก้มให้ดูเด่นชัดออกมา ทำให้แลดูมีแก้มมากขึ้น

(3.4).ฉีดไขมันแก้ไข ปัญหาแก้มตอบ :

การฉีดไขมันทำโดยการดูดไขมันจากบริเวณอื่นมาเติมบริเวณแก้มตอบ ช่วยลดความเสี่ยงจากอาการแพ้เพราะใช้ไขมันตัวเอง แต่ผลจะอยู่ได้ไม่นาน บางครั้งฉีดไขมันไปแล้วไขมันไม่ติด ทำให้ต้องฉีดซ้ำหลายครั้ง และอาจเกิดปัญหาผิวไม่เรียบ

(3.5).ฉีดฟิลเลอร์แก้ไข ปัญหาแก้มตอบ :

ไม่ต้องกังวลใจไปปัญหาแบบนี้สามารถใช้ฟิลเลอร์แก้ไขได้ ฟิลเลอร์เป็นการฉีดสาร Hyaluronic acid ซึ่งเป็นสารที่มีความคงตัวสูงเข้าไปเพิ่มวอลลุ่ม ในบริเวณที่ต้องการ เช่น บริเวณแก้มที่ตอบ ขมับตอบ หรือแม้กระทั่งใช้เติมโหนกแก้มในบริเวณที่ต้องการ สารชนิดนี้ค่อนข้างมีความปลอดภัยและเป็นที่ยอมรับในวงการแพทย์ ไม่ก่อให้เกิดการแพ้หรือระคายเคือง และไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย

4.  ฟิลเลอร์แก้มตอบ เหมาะกับใครบ้าง ?

(4.1).คนที่มีปัญหาแก้มตอบ แก้มเป็นแอ่งยุบ ใบหน้าดูโทรม ไม่สดใส
(4.2).เมื่อมองใบหน้าด้านข้างแล้วเห็นเป็นเส้นลงมาจากใต้โหนกแก้ม
(4.3).อยากฉีดแก้มเพื่อเติมเต็มใบหน้า
(4.4).ไม่อยากเจ็บตัว ไม่อยากมีแผล เห็นผลลัพธ์เร็ว
(4.5).อยากเสริมโหงวเฮ้ง

5.  ข้อดีของการฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบ ?

(5.1).ยกใบหน้าที่หย่อนคล้อยให้กระชับ
(5.2).ปรับรูปหน้าเรียวเล็กตึงขึ้น
(5.3).ปัญหาโหนกแก้มเด่นก็จะลดลงและร่องมุมปากตื้นขึ้น
(5.4).ปรับใบหน้าให้เป็นรูปไข่สวยงาม
(5.5).ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ สดใสดูเด็กลงอย่างเป็นธรรมชาติ

6. ข้อเสียของการฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบ ?

(6.1).ราคาฟิลเลอร์ค่อนข้างสูง เมื่อเทียบกับหัตถการอื่นๆ
(6.2).ไม่ได้อยู่ถาวร จะสลายไปแล้วแต่ยี่ห้อและชนิดฟิลเลอร์ ปกติอยู่ได้ 12-18 เดือน
(6.3).หากแพทย์ไม่เชี่ยวชาญ มีโอกาสเข้าเส้นเลือดอุดตันได้

7.  ข้อดีของการฉีดฟิลเลอร์กรอบหน้า ?

1.    เห็นผลทันทีหลังเข้ารับบริการฉีด
2.    ไม่ต้องทำการพักฟื้นเหมือนกับการผ่าตัด และสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ
3.    เหมาะกับผู้ที่ไม่ต้องการผ่าตัด หรือไม่ต้องการดมยาสลบ
4.    ไม่ต้องเสี่ยงต่อการติดเชื้อ หรืออาการบวมช้ำ
5.    หากไม่พอใจในผลลัพธ์ก็สามารถปรับแต่งแก้ไข หรือทำการฉีดสลายได้
6.    เป็นบริการที่มีความปลอดภัยสูง เมื่อครบกำหนดอายุของสารที่ฉีดเข้าไปก็สามารถสลายได้เองตามธรรมชาติ
7. The cost is not high compared to other methods.

8. การปฏิบัติตัวก่อนและหลังฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบ ?

Guidelines for conduct before filler injections and thread lifts (1 week before the procedure) =>

1. Aspirin, NSAIDs such as Ibuprofen, Diclofenac, Ponstan should be stopped for 1 week before the procedure and a doctor should be consulted before stopping the medication.

2. You should stop taking St. John Wort, Ginko biloba, Primrose oil, Garlic, Ginseng, and Vitamin E for 1 week before the procedure.

3. You should avoid using exfoliating creams such as Tretinoin (Retin-A), Retinols, Retinoids, Glycolic Acid, or any type of “Anti-Aging” cream for 3 days before the procedure.

4. Avoid waxing, peeling, pulling or shaving the hair in that area for 3 days before the procedure.

5. If you have a facial massage or laser course, you should do it at least 3 days before the filler injection or thread lift because you need to wait another 2 weeks after the procedure.

6. If you have any chronic diseases or other regular medications, you should prepare the information to inform the doctor before the procedure.

Guidelines for conduct after filler injection =>

1. Avoid laser, facial sauna, facial massage, or heat application on the face for at least 1 month.

2. Avoid taking medications or vitamins that increase bleeding, such as aspirin, vitamin E, and ginkgo biloba, during the first week.

3. Avoid drinking alcoholic beverages, liquor, beer, and smoking for at least 2 weeks.

4. Avoid heat on your face, such as blow drying your hair and washing your face with warm water.

5. Drink plenty of water, at least 2-3 liters per day, as the filler will swell up, making it last longer.

6. Do not press, massage, rub, or mold the area where the filler was injected to reduce the movement of the drug to unwanted areas.

7. You can wear makeup as usual after the filler injection.