8 questions after lip filler injections and precautions you should know before lip filler injections

Precautions after lip filler injection

หลังจากทำการฉีดฟิลเลอร์ปาก คนส่วนใหญ่มักจะเกิดข้อสงสัยที่ว่า “หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก บวมกี่วัน ?, ทาลิปได้ไหม ?,  กินอะไรได้บ้าง ?, กี่วันดื่มแอลกอฮอล์ได้ ?, จูบได้ไหม ?” ซึ่งบทความฉบับนี้ได้ตอบคำถามไว้อย่างละเอียด นอกจากนี้ยังได้บอกเกี่ยวกับข้อห้ามที่คนจะฉีดฟิลเลอร์ปากควรรู้ เพื่อลดความเสี่ยงที่จะเกิดผลข้างเคียง และเพื่อผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพ

list of contents

What is Lip Filler?

การฉีดฟิลเลอร์ปาก คือ การฉีดสารเติมเต็ม Hyaluronic acid เข้าไปในริมฝีปาก เพื่อให้ปากดูสวยได้รูป ชุ่มชื้นและอวบอิ่มมากยิ่งขึ้นค่ะ และนอกจากนั้น การฉีดฟิลเลอร์ปากยังสามารถแก้ไขปัญหา ริมฝีปากที่ไม่เท่ากัน มุมปากที่ตกลง ปากแห้งแตกเป็นขุย ในกลุ่มคนที่อายุมากขึ้น ทั้งคุณผู้หญิง และคุณผู้ชาย และด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ นอกจากการฉีดฟิลเลอร์ปากด้วยสารประกอบ Hyaluronic acid สามารถสร้างเนื้อปากและขอบปากได้สวยคมชัดแล้ว ยังสามารถทำให้ริบฝีปากนั้นดูมีสีชมพูระเรื่อได้อีกด้วยค่ะ

ข้อปฏิบัติก่อนฉีดฟิลเลอร์ปาก

Lip filler injection เป็นการฉีดสารเติมเต็มประเภทหนึ่งเข้าบริเวณริมฝีปาก ดังนั้นผู้ทำการฉีดฟิลเลอร์ควรมีการศึกษาข้อปฏิบัติก่อนฉีดฟิลเลอร์ปาก เพื่อจะได้มีการเตรียมความพร้อมทางด้านร่างกาย และเพื่อผลลัพธ์ที่ดี โดยข้อปฏิบัติก่อนฉีดฟิลเลอร์ปาก มีดังนี้

  • ก่อนจะทำการฉีดฟิลเลอร์ ผู้ทำการฉีดต้องมีการเข้าพบแพทย์ เพื่อพูดคุย และประเมินลักษณะของริมฝีปาก รวมถึงหากมีโรคประจำตัว หรือมียาที่ต้องทานเป็นประจำ ควรแจ้งแพทย์ให้ทราบ
  • ก่อนทำการฉีดฟิลเลอร์ควรพักผ่อนให้เพียงพอ และควรรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่
  • 7 วัน ก่อนทำการฉีดฟิลเลอร์ ควรงดทานยาแอสไพริน และยาแก้ปวดกลุ่ม NSAIDs เนื่องด้วยมีฤทธิ์ต้านการแข็งตัวของเลือด จึงอาจทำให้เลือดไหลออกง่ายและเกิดรอยช้ำได้
  • 7 วัน ก่อนทำการฉีดฟิลเลอร์ ควรงดทานวิตามินอี (Vitamin E) ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยให้เลือดไหลเวียนได้ดี ส่งผลให้ฟิลเลอร์กระจายตัวและซึมเข้าไปบริเวณที่ต้องการช้าลง จึงอาจทำให้ผลลัพธ์ที่ได้ไม่เป็นไปตามต้องการ
  • 3 วัน ก่อนทำการฉีดฟิลเลอร์ ควรงดยาทาที่มีผลต่อการผลัดเซลล์ผิว
  • 3 วัน ก่อนทำการฉีดฟิลเลอร์ ควรงดรับประทานอาหารที่มีรสชาติจัดจ้าน โดยเฉพาะอาหารที่มีรสเค็ม
  • 3 วัน ก่อนทำการฉีดฟิลเลอร์ ควรหลีกเลี่ยงการแว็กซ์ การดึงขน หรือโกนขน ตรงบริเวณที่จะทำการฉีด
  • หากมีการจองคอร์สทำหน้า นวดหน้า หรือเลเซอร์ต่างๆ ควรจะทำมาก่อน 3 วัน ก่อนทำการฉีด เนื่องจากหลังจากทำการฉีดต้องเว้นการทำหน้า เป็นเวลา 2 อาทิตย์

จะเห็นได้ว่า ข้อควรระวังก่อนฉีดฟิลเลอร์ปาก มีหลายจุดที่หลายคนอาจจะยังไม่รู้ ดีที่สุดคือเข้าพบแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญเพื่อทำการปรึกษา ก่อนทำการฉีดทุกครั้ง

ข้อห้ามหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก

ฉีดฟิลเลอร์ปาก เป็นการฉีดสารเติมเต็มประเภทหนึ่งเข้าบริเวณริมฝีปาก ซึ่งปากถือว่าเป็นอวัยวะที่สำคัญอย่างหนึ่งของใบหน้า ไม่ว่าจะใช้ในการพูด หรือใช้ในการรับประทานอาหาร ดังนั้นผู้ทำการฉีดฟิลเลอร์ต้องให้ความสำคัญในการดูแล และปฏิบัติตามข้อห้ามอย่างเคร่งครัด เพื่อลดความเสี่ยงที่จะเกิดอาการข้างเคียง และเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพ โดยข้อห้ามหลังทำการฉีดฟิลเลอร์ มีดังนี้

  • ห้ามใช้นิ้วมือไปสัมผัสบริเวณที่ทำการฉีดฟิลเลอร์ปาก การใช้นิ้วมือไปสัมผัสบริเวณที่ทำการฉีด อาทิเช่น การนวด การแกะ การเกา หรือการคลึง อาจจะทำให้เกิดการอักเสบ และการติดเชื้อได้ ซึ่งรวมไปถึงอาจจะทำให้ฟิลเลอร์มีการเคลื่อนตัวผิดตำแหน่ง จนปากเกิดการเสียรูป
  • ห้ามรับประทานอาหารที่มีรสชาติจัดจ้าน และอาหารที่ร้อนจัด เนื่องจากความร้อนอาจจะทำให้หลอดเลือดเกิดการขยายตัว ส่งผลให้บริเวณที่ทำการฉีด เกิดอาการบวม และอาจจะทำให้รอยเข็มที่ฉีดเกิดการติดเชื้อ
  • ห้ามรับประทานอาหารประเภทของหมักดอง เนื่องจากของหมักดองมีส่วนประสมของโซเดียมสูง ส่งผลให้บริเวณที่ทำการฉีดฟิลเลอร์มีอาการบวมกว่าปกติ และอาการหายช้าลง
  • ห้ามดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หลังจากทำการฉีดฟิลเลอร์ ผู้ทำการฉีดควรงดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เป็นเวลา 14 วัน เนื่องจากแอลกอฮอล์มีสารที่ทำให้หลอดเลือดเกิดการขยายตัว ทำให้เลือดมีการไหลเวียนมากขึ้น ส่งผลให้บริเวณที่ทำการฉีดมีอาการบวม และอักเสบได้ 
  • ห้ามรับประทานอาหารเสริม หรือวิตามินบางชนิด  ควรงดการรับประทานอาหารเสริม หรือวิตามินที่ทำให้เลือดออกมากขึ้น อาทิเช่น อาหารเสริมที่มีส่วนประกอบของ ขิง กระเทียม แปะก๊วย หรือวิตามิน E ซึ่งรวมไปถึงยาแอสไพริน และยาแก้ปวดกลุ่ม NSAIDs เพราะจะทำให้ริมฝีปากที่ทำการฉีดฟิลเลอร์มีโอกาสช้ำได้ง่ายกว่าปกติ
  • ห้ามทำการถอนขน หรือแว็กซ์ขนที่บริเวณริมฝีปาก เนื่องจากการถอนขน หรือแว็กซ์ขนที่บริเวณริมฝีปาก อาจจะทำให้บริเวณที่ทำการฉีดเกิดอาการอักเสบได้ 
  • ห้ามสูบบุหรี่ หลังจากทำการฉีดฟิลเลอร์ ควรงดสูบบุหรี่เป็นเวลา 2 สัปดาห์ เนื่องจากการสูบบุหรี่จะทำให้เลือดมีการสูบฉีดมากกว่าปากติ และทำให้บริเวณที่ทำการฉีดอาจมีการอักเสบได้
  • ห้ามออกกำลังกายที่มีแรงกระแทก หรือห้ามออกกำลังแรงๆ เนื่องจากแรงกระแทกที่เกิดจากการออกกำลังกาย อาจจะทำให้ฟิลเลอร์มีการเคลื่อนตัวผิดตำแหน่ง จนทำให้รูปปากเกิดการผิดรูป

1.หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก บวมกี่วัน ?

ก่อนทำการฉีดฟิลเลอร์ปาก คนส่วนใหญ่มักจะเกิดข้อสงสัยว่า “หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก บวมกี่วัน ?” The answer is หลังจากการฉีดฟิลเลอร์ปาก โดยปกติจะมีอาการบวมอยู่ที่ 2-3 วัน หลังจากนั้นก็จะค่อยๆ บวมน้อยลง และจะหายดีภายใน 2 สัปดาห์ ซึ่งอาการบวมจะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นชนิดของฟิลเลอร์ที่ใช้ในการฉีด เทคนิคในการฉีด และสภาพร่างกายของแต่ละบุคคล เป็นต้น แต่ถ้าหากระหว่างนี้เกิดมีอาการที่ผิดปกติควรรีบพบแพทย์ทันที

2.หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก ทาลิปได้ไหม ?

หนึ่งคำถามยอดฮิต ของคนที่คิดจะฉีดฟิลเลอร์ปาก ว่าหลังจากทำการฉีดฟิลเลอร์สามารถทาลิปได้ไหม โดยความเป็นจริงแล้ว หลังจากทำการฉีดฟิลเลอร์ปากสามารถทาลิปได้ แต่ควรจะรอให้ครบ 24 ชั่วโมงหลังจากทำการฉีดฟิลเลอร์ เนื่องจากในช่วงแรงของหลังจากการฉีด อาจจะมีอาการบวม หรืออาการอักเสบ ซึ่งการใช้ลิปสติกอาจจะทำให้บริเวณที่ทำการฉีดเกิดการระคายเคือง หรือเกิดการติดเชื้อได้ และควรหลีกเลี่ยงการใช้ลิปที่ล้างออกยาก เพราะการเช็ดหรือทำความสะอาด อาจจะต้องใช้แรงที่เยอะขึ้น โดยอาจทำให้ฟิลเลอร์มีการเคลื่อนตัวได้

3.หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก กินอะไรได้บ้าง ?

ตามปกติคนที่ทำการฉีดฟิลเลอร์ที่ปากสามารถรับประทานอาหารได้ตามปกติ แต่ควรเน้นไปทางอาหารเหล่านี้ และหลีกเลี่ยงรสจัด

  • อาหารที่มีโปรตีนสูง อาทิเช่น เนื้อไก่ ไข่ ปลา ถั่ว หรือเนื้อสัตว์ที่ไม่ติดมัน เป็นต้น เนื่องจากโปรตีนจะช่วยเสริมสร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวเกิดความแข็งแรง นอกจากนี้ยังช่วยลดความเสี่ยงการเกิดอาการติดเชื้อ และการอักเสบที่แผลได้
  • อาหารที่มีวิตามิน C สูง อาทิเช่น ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ สัปปะรด กีวี่ เป็นต้น เนื่องจากวิตามิน C จะช่วยเสริมสร้างคอลลาเจน และต้านอนุมูลอิสระ ทำให้ช่วยในเรื่องการฟื้นฟูให้แผลหายเร็วยิ่งขึ้น
  • อาหารที่มีวิตามิน A สูง อาทิเช่น ผักใบเขียว แครอท ฟักทอง เป็นต้น วิตามิน A จะช่วยเสริมสร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวเกิดความแข็งแรง และช่วยในการฟื้นฟูให้แผลหายเร็วยิ่งขึ้น
  • น้ำเปล่า น้ำถือว่าเป็นองค์ประกอบสำคัญที่ช่วยให้ฟิลเลอร์อยู่ในนานขึ้น เนื่องจากฟิลเลอร์เป็นสารที่อุ้มน้ำ การดื่มน้ำจึงทำให้ฟิลเลอร์ฟูได้รูปยิ่งขึ้น

4.หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก กี่วันดื่มแอลกอฮอล์ได้ ?

สำหรับคำถามนี้สายดื่มต้องรู้ โดยอย่างที่ทราบกันผู้ทำการฉีดฟิลเลอร์ปาก ควรงดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นเหล้า เบียร์ ไวน์ หรือวอดก้า เนื่องจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มีสารบางชนิดที่ทำให้หลอดเลือดเกิดการขยายตัว ทำให้เลือดเกิดการไหลเวียนมากขึ้น ส่งผลให้อาการบวมที่เกิดจากเข็ม มีการหายช้าลง และอาจทำให้เกิดการอักเสบ นอกจากนี้ยังอาจทำให้ฟิลเลอร์มีการเคลื่อนตัวผิดตำแหน่ง ถ้าจำเป็นต้องสังสรรค์หรือดื่มแอลกอฮอล์ ควรจะเป็นหลังจากทำการฉีดฟิลเลอร์ปากแล้วอย่างน้อย 2 สัปดาห์

5.หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก จูบได้ไหม ?

หลังจากที่ทำการฉีดฟิลเลอร์ ผู้ทำการฉีดมักเกิดการตั้งคำถามที่ว่า “หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก จูบได้ไหม ?”  The answer is หลังทำการฉีดฟิลเลอร์ปาก ควรงดการจูบปากเป็นเวลาอย่างน้อย 1 สัปดาห์ เนื่องจากการจูบอาจทำให้ฟิลเลอร์มีการเคลื่อนตัว หรืออาจทำให้เกิดการอักเสบ และติดเชื้อได้ เพราะแรงที่เกิดจากการจูบจะทำให้ฟิลเลอร์มีการเคลื่อนตัวผิดตำแหน่ง ซึ่งอาจส่งผลให้รูปปากอาจมีการผิดรูป รวมถึงการจูบจะทำให้จุดที่ทำการฉีดเกิดการระคายเคือง และติดเชื้อได้

6. หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก กี่วันถึงนวดได้

โดยทั่วไปแล้ว ไม่ควรทำการนวดปากหลังฉีดฟิลเลอร์ปากเป็นเวลา 2 สัปดาห์ เนื่องจากการนวดนั้นอาจจะไปทำให้ฟิลเลอร์ที่ทำการฉีดมานั้นเคลื่อนตัวหรือกระจายออกไปได้ ส่งผลให้ผลลัพธ์ที่ได้ไม่เป็นธรรมชาติหรืออาจทำให้เกิดผลข้างเคียง เช่น ปากเบี้ยว เป็นต้น

7. หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก แปรงฟันยังไง ?

ช่วง 1-2 วันแรกหลังจาก 2 วัน
– แปรงฟันเบาๆ โดยใช้น้ำเย็น
– แปรงฟันด้วยแปรงขนนุ่ม
– หลีกเลี่ยงการแปรงฟันบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์
– บ้วนน้ำเปล่าหลายๆ ครั้ง
– แปรงฟันได้ตามปกติ
– แปรงฟันอย่างอ่อนโยน
– ใช้ไหมขัดฟันอย่างระมัดระวัง

8. หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก งดใช้หลอดดูดน้ำกี่วัน

อีกหนึ่งคำถามยอดฮิต ของคนที่คิดจะฉีดฟิลเลอร์ปาก ว่าหลังจากทำการฉีดฟิลเลอร์สามารถใช้หลอดดูดน้ำได้ไหม โดยความเป็นจริงแล้ว หลังจากทำการฉีดฟิลเลอร์ปากสามารถใช้หลอดดูดน้ำได้ปกติ แต่ควรจะรอให้ครบ 12 ชั่วโมงหลังจากทำการฉีดฟิลเลอร์แล้ว เนื่องจากอาจทำให้ฟิลเลอร์มีการเคลื่อนตัวและทำให้รูปทรงของปากที่ทำมาเสียทรงได้


สุดท้ายนี้เชื่อว่าหลายๆ คน ที่กำลังจะทำการฉีดฟิลเลอร์ปาก และได้เข้ามาอ่านบทความนี้ คงได้คำตอบในเรื่องการดูแลทั้งก่อนและหลังการฉีดฟิลเลอร์ปากไปอย่างครบถ้วน อย่างไรก็ตาม การปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญการทำการฉีดฟิลเลอร์ ไม่ว่าจะตำแหน่งไหนก็ตาม เป็นสิ่งที่ควรทำและควรยึดปฏิบัติเป็นอย่างแรก เพื่อลดความเสี่ยงที่จะเกิดผลข้างเคียง และเพื่อผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งทางDr. Som, Dr. Grace, and the medical team from Mudan Pavilion are happy to provide free consultations without any charges.