โปรแกรม เมโสแฟต
สลายไขมันด้วย เมโสแฟต (Meso Fat)
เมโสแฟต Babi Neo one คืออะไร?
เมโสไขแฟต Babi Neo one คือ เมโสที่ฉีดเพื่อลดสัดส่วน เมื่อฉีดเมโสแฟตแล้ว สัดส่วนในบริเวณนั้นๆ จะกระชับขึ้น และไม่หย่อนคล้อย. นอกจากนี้ สำหรับใครที่เล่นกีฬา และพบว่าร่างกายบางส่วนใหญ่ขึ้น ไม่สวย การฉีดเมโสแฟตก็เป็นอีกหนึ่งทางออกที่จะช่วยแก้ปัญหาเหล่านี้ได้.
เมโสไขมัน Babi Neo one สามารถฉีดลดสัดส่วนได้ทั่วร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นบริเวณใบหน้า แก้ม คาง เหนียง สะโพก ต้นแขน ต้นขา หรือน่อง
Babi Neo ตัวยาเป็นสารสกัดจากธรรมชาติ จึงไม่มีอาการแสบ พร้อมpeptide หลายชนิดช่วยออกฤทธิ์ยกกระชับทำให้เห็นผลทันที หลังจากการฉีดเมโสทันที ไขมันบริเวณที่ทำการฉีดจะค่อยๆบางลงไป พร้อมกับผิวกระชับมากขึ้น ไม่ต้องห่วงเรื่อง ฉีดสลายไขมันแล้วผิวหย่อนคล้อยอีกต่อไป.
Babi Neo one ส่วนประกอบอะไรบ้าง?
สารสกัด จากธรรมชาติและดอกไม้นานาชนิด วัตถุดิบ นำเข้า จาก USA & South Korea
- สารสกัดจากจมูกข้าวสาลี ช่วยย่อยสลายโปรตีนและไขมันผิวชั้นนอก และยังสามารถชะลอความเสื่อมของผิว
- สารสกัดจากสัปปะรด เอนไซม์ช่วยย่อยไขมัน และทำให้โปรตีนมีขนาดเล็ก
- สารสกัดจากรากตังเซียม ช่วยลดการเกิดผิวแตกแห้ง ลดอาการบวม
- สารสกัดจากรากสคิวคาเลีย ใบคาเลนซีส ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่น ช่วยต้านการเกิดริ้วรอย
- ยกกระชับด้วย Peptides นานาชนิด
เมโสแฟต บาบิ นีโอ วัน (Meso Babi Neo One) เห็นผลลัพธ์ภายในกี่วัน?
เมโสแฟตยี่ห้อ บาบิ นีโอ วัน ซึ่งสามารถ ช่วยลดได้ทั้งไขมันสะสม และกระชับผิวให้เต่งตึง จะเข้าไปช่วยเผาผลาญและสลายไขมัน ในส่วนที่ไม่ต้องการ. สามารถยกกระชับสัดส่วนได้ดี แถมยังเป็น สารสกัดจากธรรมชาติ 100%. ออกฤทธิ์ได้ภายใน 3-7 วัน. โดยปกติผู้เข้ารับ จะสามารถเริ่มเห็นผลลัพธ์ หลังจากฉีดเมโสแฟตไปแล้วตั้งแต่ภายใน 1-2 สัปดาห์แรกหลังรับบริการ. แต่จะเห็นการเปลี่ยนแปลงได้ชัดที่สุดเมื่อครบ 1 เดือน. และจะอยู่ได้นานประมาณ 3 เดือน ส่วนความถี่ในการฉีดเมโสแฟต จะขึ้นอยู่กับความต้องการ ของผู้เข้ารับบริการแต่ละท่าน ในการคงความต่อเนื่องของผลลัพธ์เอาไว้ รวมถึงตามคำแนะนำของแพทย์ ในการลดขนาดสัดส่วนที่จะแตกต่างกันไปในแต่บุคคลด้วย.
การดูแลหลังรับบริการ เมโสแฟต บาบิ นีโอ วัน (Meso Babi Neo One)
ผู้ที่รับบริการควรทำตามข้อปฏิบัติในการดูแลตนเองดังต่อไปนี้
- ดื่มน้ำให้มาก อย่างน้อยวันละ 2 ลิตร เนื่องจากการดื่มน้ำจะช่วยขับไขมันก้อนที่ถูกสลายเป็นไขมันเหลวด้วยเมโสแฟตออกมามากที่สุด
- ควรปรับอาหารควบคู่กันไปด้วย คือลดอาหารที่มีไขมันสูงหรือของหวาน
- 1 สัปดาห์หลังทำควรงดดื่มแอลกอฮอลล์และสูบบุหรี่
- ออกกำลังกายเบาๆ เพื่อช่วยเผาผลาญไขมันได้มากขึ้น
- เลี่ยงการอบซาวน่าหรือการนวดหากพบอาการบวมช้ำหลังทำ
ทำไมหลังฉีด เมโสแฟตแล้วหน้าบวม?
จากประสบการณ์ของหมอ หลังฉีดเมโสแฟต (Meso Fat) ไม่ว่ายี่ห้อไหนก็จะมีอาการบวมเป็นปกติค่ะ. อาการบวมหลังฉีดเมโสแฟต เกิดจากทำงานของตัวยา Meso fat จะทำปฏิกิริยาให้ไขมันแตกตัว. ส่งผลทำให้เกิดอาการบวมแต่จะบวมในช่วงแรกเท่านั้น. หลังฉีดตัวยาจะซึมยุบไปเองใน 3-4 ชั่วโมง ดังนั้นคนไข้ไม่ต้องกังวล ในบางเคสอาจจะมีอาการบวมเข็มได้เล็กน้อยเป็นปกติค่ะ.
ฉีดเมโสแฟตแล้ว ไขมันส่วนเกินหายไปไหน?
เมื่อสารยาเมโสแฟต เข้าไปจับไขมันส่วนเกิน ภายในร่างกายเรียบร้อยแล้ว ไขมันจะละลายและถูกขับออกไขมันตามกลไกธรรมชาติของร่างกาย เช่น ปัสสาวะ อุจาระ หรือเหงื่อ
ความแตกต่างของการฉีดเมโสแฟต เทียบกับการสลายไขมันด้วยวิธีอื่นๆ?
นอกจากการฉีดเมโสแฟต ยังมีนวัตกรรมและวิธีการสลายไขมันอื่นๆ ที่ถือเป็นคู่แข่งสำคัญของการฉีดเมโสแฟตอีก เช่น
- การทำเทอร์มาจ(Thermage) : เป็นเทคโนโลยีการยิงพลังงานคลื่นวิทยุ (High Radio Frequency) ลงไปชั้นใต้ผิวหนัง เพื่อสลายเซลล์ไขมันส่วนเกินและแก้ปัญหาความหย่อนยานของผิว ส่งผลให้ผิวแน่นกระชับขึ้น เข้าไปกระตุ้นยังชั้นโครงสร้างผิว ที่มีหน้าที่ในการผลิตคอลลาเจนและอิลาสติน เมื่อได้รับคลื่นพลังงาน ก็จะช่วยกระตุ้นการทำงานของคอลลาเจนเพิ่มมากขึ้น ส่งผลทำให้ผิวหนังตึงกระชับและมีความยืดหยุ่น ช่วยลดเลือนริ้วรอย ปรับผิวให้เรียบเนียนยิ่งขึ้น
- การทำเครื่องยกกระชับ(Ultraformer III / Ulthera): เป็นเทคโนโลยีการยิงพลังงานยื่นอัลตราซาวด์ (Ultrasound) เพื่อลดชั้นไขมันส่วนเกิน พร้อมเสริมโครงสร้างคอลลาเจนผิวให้ยืดหยุ่นและแข็งแรงอีกครั้ง จึงทำให้ผิวที่หย่อนคล้อย ไม่เรียวสวยกลับมาเต่งตึง มีสัดส่วนเล็ก และกระชับขึ้น โดยเครื่องทำไฮฟู่ที่ได้รับความนิยมจนมีชื่อเสียงติดหูในท้องตลาดจะแบ่งเป็น 2 เครื่อง คือ เครื่องอัลตราฟอร์เมอร์ (Ultraformer III) และเครื่องอัลเทอร์รา (Ulthera)
- การฉีดโบท็อกซ์ เป็นการฉีดสารที่มีชื่อเต็มว่า “สารโบทูลินั่ม ท็อกซิน เอ ( Botulinum Toxin Type A) ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยยกกระชับผิวให้ตึงและมีกรอบใบหน้าชัดขึ้น รวมถึงลดขนาดของริ้วรอยแห่งวัย หรือผิวส่วนที่หย่อนคล้อยให้เล็กลง เป็นอีกการทำหัตถการโดยใช้เข็มฉีดยาที่ได้รับความนิยมไม่แพ้การฉีดเมโสแฟต และยังช่วยลดอาการเหงื่อออกผิดปกติตามร่างกายได้เช่นกัน
ในส่วนของความแตกต่าง ระหว่างการฉีดเมโสแฟต กับการทำหัตถการอื่นๆ เพื่อการลดสัดส่วนไขมันส่วนเกิน การฉีดเมโสแฟตจะเป็นวิธีใช้ “สารยา” เพื่อเร่งกระบวนการต่างๆ ของร่างกายให้นำไขมันส่วนเกินออกไปให้ได้มากที่สุด ในขณะที่วิธีกำจัดไขมันแบบอื่นๆ จะมีกลไกการกำจัดไขมันที่ต่างออกไป
ฉีดเมโสแฟตกับการดูดไขมัน ควรเลือกแบบไหนดี ?
การฉีดเมโสแฟตและการดูดไขมันมีกระบวนการที่ค่อนข้างแตกต่างกัน ซึ่งผู้เข้ารับบริการต้องมีการศึกษาข้อมูลอย่างรอบคอบเสียก่อน
การฉีดเมโสแฟต จะมีกระบวนการเพียง ฉีดสารยาลงไปใต้ผิวไม่ต่างจากการฉีดยาทั่วไป. จากนั้นผู้เข้ารับบริการก็สามารถกลับบ้านได้ทันที และมีการดูแลตนเองต่อเพียงเล็กเล็กน้อย เช่น งดอาหารที่มีไขมันสูง งดวิตามินบางกลุ่มชั่วคราว หมั่นออกกำลังกายบ่อยๆ ส่วนผลลัพธ์จะอยู่ได้นานประมาณ 3 เดือน
ส่วนการดูดไขมัน จะมีกระบวนการคล้ายกับการ ผ่าตัดเล็กๆ โดยบางสถานพยาบาลจะมีการจ่ายยาแก้ปวด ยาฆ่าเชื้อ หรืออาจให้ยาสลบ กับผู้เข้ารับบริการก่อนเริ่มทำหัตถการ. วิธีการดูดไขมันจะเป็นการสอดท่อเล็กๆ ลงไปใต้ผิวเพื่อดูดไขมันส่วนเกินออกมา และอาจต้องมีการเย็บแผล รวมทั้งต้องเดินทางมาตรวจ ความเรียบร้อยของแผลหลังรับบริการเสร็จด้วย
ดังนั้นในส่วนของ ผลกระทบด้านร่างกายหลังจากทำหัตถการเสร็จ เมื่อเทียบกับการฉีดเมโสแฟตแล้ว. การดูดไขมันจึงมีโอกาสทำให้รู้สึกเจ็บได้มากกว่า และอาจทำให้เกิดอาการช้ำ บวม หรือผิวหนังอักเสบได้มากกว่า นอกจากนี้ยังต้องใช้เวลาในการพักฟื้นร่างกาย ต้องใส่ปลอก หรือชุดกระชับสัดส่วนตามที่แพทย์แนะนำด้วย.
ในขณะที่ การฉีดเมโสแฟต มักจะมีเพียงอาการผิวบวมแดงบริเวณที่ใช้เข็มฉีดยาประมาณ 1-2 วันเท่านั้น หลังจากนั้นก็สามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ
อย่างไรก็ตาม การดูดไขมันก็มีจุดเด่นด้าน การดึงเซลล์ไขมันออกไปได้ทันที และยังทำได้หลายบริเวณของร่างกาย ซึ่งหากไปใช้บริการในสถานพยาบาลที่มีเครื่องมือทันสมัย ได้มาตรฐาน และมีความเชี่ยวชาญ ก็จัดเป็นวิธีการกำจัดไขมันที่น่าสนใจเช่นเดียวกัน
ฉีดเมโสแฟตได้ตั้งแต่อายุเท่าไร? เจ็บหรือไม่?
ผู้ที่ต้องการฉีดเมโสแฟตต้องมีอายุ 20 ขึ้นไปเท่านั้น และเนื่องจากเป็นการทำหัตถการที่ใช้เข็มฉีดยา จึงอาจทำให้รู้สึกเจ็บได้ แต่มักอยู่ในระดับที่ทนได้เช่นเดียวกับการฉีดวัคซีน และอาจมีอาการผิวบวมแดงได้ในช่วง 1-2 วันแรก หลังจากนั้นอาการก็จะค่อยๆ ดีขึ้นเอง
อย่างไรก็ตาม ที่ มูตาน พาวิลเลี่ยน คลินิก จะมีการประคบน้ำแข็งเพื่อให้เกิดความรู้สึกชาชั่วขณะก่อนเริ่มการฉีดเมโสแฟต เพื่อป้องกันอาการเจ็บที่ผู้เข้ารับบริการบางท่านอาจเป็นกังวล
ใครที่เหมาะกับการฉีดเมโสแฟต?
ผู้ที่เหมาะกับการลดไขมันด้วยการฉีดเมโสแฟต ได้แก่
- ผู้ที่มีไขมันส่วนเกินและอยากกำจัดออกเฉพาะจุด
- ผู้ที่ออกกำลังกายมาอย่างต่อเนื่องแล้ว แต่สัดส่วนไขมันตามร่างกายและใบหน้ายังไม่ลดลง
- ผู้ที่ต้องการลดไขมันอย่างเร่งด่วน และมีงบประมาณไม่สูงนัก
- ผู้ที่ต้องการลดสัดส่วนไขมันโดยไม่ใช้การผ่าตัดและกังวลเรื่องความเจ็บ
ใครที่ไม่เหมาะกับการฉีดเมโสแฟต ?
การฉีดเมโสแฟตเป็นวิธีการกำจัดไขมันส่วนเกินที่สามารถทำได้กับบุคคลทั่วไปทุกกลุ่ม ยกเว้นหญิงตั้งครรภ์และกำลังให้นมบุตร รวมถึงผู้ที่มีปัญหาผิวหนังอักเสบ ผิวหนังติดเชื้อ หรือกำลังเป็นสิวอักเสบอย่างรุนแรง ซึ่งควรรักษาให้หายเสียก่อนรับบริการ
ข้อควรระวังในการไปรับบริการ ฉีดเมโสแฟต?
เนื่องจากการฉีด เมโสแฟต เป็นการทำหัตถการความงาม ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในปัจจุบัน. จึงมีสถานพยาบาลหลายแห่ง นำเข้าสารเมโสแฟตปลอม ซึ่งมีราคาถูกและไม่ได้มาตรฐานมาใช้. เพื่อดึงดูดลูกค้าที่ต้องการฉีดเมโสแฟต หรือ ต้องการสลายไขมันในราคาย่อมเยา. ซึ่งสารเหล่านี้สามารถส่งผลกระทบ ที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพของผู้เข้ารับบริการได้อย่างมหาศาล
ผู้เข้ารับบริการทุกท่าน จึงต้องมีการตรวจสอบมาตรฐาน และชื่อเสียงของสถานพยาบาล ที่ต้องการไปใช้บริการให้แน่ใจเสียก่อน เพื่อป้องกันการเกิดปัญหาใช้สารเมโสแฟต ที่ไม่มีคุณภาพในภายหลัง
ขั้นตอนการฉีดเมโสแฟต?
กระบวนการฉีดเมโสแฟตเพื่อลดไขมันส่วนเกินมักมีขั้นตอนโดยหลักๆ ดังต่อไปนี้
- ผู้เข้ารับบริการพบแพทย์เพื่อปรึกษาปัญหาไขมันส่วนเกินและปัญหาผิวที่อยากยกกระชับกับแพทย์
- แพทย์ประเมินยี่ห้อ ปริมาณ และอาจรวมถึงจำนวนครั้ง ในการมาฉีดเมโสแฟต ให้เห็นผลตามความต้องการของผู้เข้ารับบริการ.
- เมื่อพูดคุยเกี่ยวกับแผนการกำจัดไขมันเรียบร้อยแล้ว เจ้าหน้าที่จะพาผู้เข้ารับบริการ ไปทำความสะอาดผิวบริเวณที่จะฉีดเมโสแฟต และมีการประคบน้ำแข็ง เพื่อให้เกิดความรู้สึกชาชั่วขณะ.
- หลังจากนั้นแพทย์จะเริ่มฉีดเมโสแฟตให้ตามปริมาณที่เหมาะสม โดยส่วนมากมักใช้เวลาไม่เกิน 15 นาที
การดูแลตนเองหลังรับบริการ เพื่อให้เห็นผลของการกำจัดไขมันมากขึ้น?
ผู้เข้ารับบริการ ควรงดการดื่ม เครื่องดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่ เพื่อลดโอกาสเสื่อมตัวของสารยาเมโสแฟต รวมถึงควรดื่มน้ำให้มากๆ เพื่อเร่งการขับไขมันออกจากร่างกาย.
นอกจากนี้ยังควรหลีกเลี่ยง กิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับความร้อน เช่น การอบซาวน่า การแช่น้ำร้อน การทำทรีตเมนต์หรือนวดตัว เป็นเวลา 1 สัปดาห์ เพื่อลดโอกาสเกิดปัญหาฟกช้ำที่ผิว และหากมีอาการแพ้ หรือรู้สึกผิดปกติใดๆ ให้ติดต่อแพทย์โดยทันที.
ส่วนการดูแลตนเองเพิ่มเติม ผู้เข้ารับบริการควรหมั่นออกกำลังกายเบาๆ เพื่อกระตุ้น ความกระชับของผิวส่วนที่ ฉีดเมโสแฟต ควรหลีกเลี่ยงการกินอาหารที่มีไขมันสูงหรือมีน้ำตาลสูง เพื่อลดโอกาสเกิดเซลล์ไขมันใหม่. และควรพักผ่อนให้เพียงพอทุกคืน เพื่อให้ระบบเผาผลาญ และระบบเมตาบอลิซึม ของร่างกายซึ่งมีส่วนช่วย กำจัดไขมันทำงานได้อย่างเต็มที่
.
เมโสไขมัน Babi Neo one คืออะไร ?
เป็นเมโสที่ฉีดเพื่อลดสัดส่วน เมื่อฉีดเมโสแฟตแล้ว สัดส่วนในบริเวณต่างๆ จะกระชับขึ้น และไม่หย่อนคล้อย นอกจากนี้ สำหรับใครที่เล่นกีฬาและพบว่าร่างกายบางส่วนใหญ่ขึ้น ไม่สวย การฉีดเมโสแฟตก็เป็นอีกหนึ่งทางออกที่จะช่วยแก้ปัญหาเหล่านี้ได้
สามารถฉีดลดสัดส่วนได้ทั่วร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นบริเวณใบหน้า แก้ม คาง เหนียง สะโพก ต้นแขน ต้นขา หรือน่อง
Babi Neo สลายไขมัน ทำให้ ไขมันลดลง และยังช่วยยกกระชับผิวได้อีกด้วย
Babi Neo ตัวยาเป็นสารสกัดจากธรรมชาติ จึงไม่มีอาการแสบ พร้อม peptide หลายชนิดช่วยออกฤทธิ์ยกกระชับหลังทำจึงดูออกทันที
ไขมันจะค่อยๆบางลงไปพร้อมกับผิวกระชับมากขึ้น ไม่ต้องห่วงเรื่องฉีดสลายไขมันแล้วผิวหย่อนคล้อยอีกต่อไป
Babi Neo one ส่วนประกอบอะไรบ้าง ?
สารสกัด จากธรรมชาติและดอกไม้นานาชนิด วัตถุดิบ นำเข้า จาก USA & South Korea
- สารสกัดจากจมูกข้าวสาลี ช่วยย่อยสลายโปรตีนและไขมันผิวชั้นนอก และยังสามารถชะลอความเสื่อมของผิว
- สารสกัดจากสัปปะรด เอนไซม์ช่วยย่อยไขมัน และทำให้โปรตีนมีขนาดเล็ก
- สารสกัดจากรากตังเซียม ช่วยลดการเกิดผิวแตกแห้ง ลดอาการบวม
- สารสกัดจากรากสคิวคาเลีย ใบคาเลนซีส ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่น ช่วยต้านการเกิดริ้วรอย
- ยกกระชับด้วย Peptides นานาชนิด
เมโสแฟต บาบิ นีโอ วัน (Meso Babi Neo One) เห็นผลลัพธ์ภายในกี่วัน ?
เมโสแฟตยี่ห้อ บาบิ นีโอ วัน ซึ่งสามารถช่วยลดได้ทั้งไขมันสะสมและกระชับผิวให้เต่งตึง จะเข้าไปช่วยเผาผลาญและสลายไขมัน ในส่วนที่ไม่ต้องการ สามารถยกกระชับสัดส่วนได้ดี แถมยังเป็นสารสกัดจากธรรมชาติ 100% ออกฤทธิ์ได้ภายใน 3-7 วัน
การดูแลหลังรับบริการ เมโสแฟต บาบิ นีโอ วัน (Meso Babi Neo One) ?
ผู้ที่รับบริการควรทำตามข้อปฏิบัติในการดูแลตนเองดังต่อไปนี้
- ดื่มน้ำให้มาก อย่างน้อยวันละ 2 ลิตร เนื่องจากการดื่มน้ำจะช่วยขับไขมันก้อนที่ถูกสลายเป็นไขมันเหลวด้วยเมโสแฟตออกมามากที่สุด
- ควรปรับอาหารควบคู่กันไปด้วย คือลดอาหารที่มีไขมันสูงหรือของหวาน
- 1 สัปดาห์หลังทำควรงดดื่มแอลกอฮอลล์และสูบบุหรี่
- ออกกำลังกายเบาๆ เพื่อช่วยเผาผลาญไขมันได้มากขึ้น
- เลี่ยงการอบซาวน่าหรือการนวดหากพบอาการบวมช้ำหลังทำ
ทำไมหลังฉีดเมโสแฟตแล้วหน้าบวม ?
จากประสบการณ์ของหมอหลังฉีดเมโสแฟต (Meso Fat) ไม่ว่ายี่ห้อไหนก็จะมีอาการบวมเป็นปกติค่ะ
อาการบวมหลังฉีดเมโสแฟตเกิดจากทำงานของตัวยา Meso fat จะทำปฏิกิริยาให้ไขมันแตกตัว ส่งผลทำให้เกิดอาการบวมแต่จะบวมในช่วงแรกเท่านั้น หลังฉีดตัวยาจะซึมยุบไปเองใน 3-4 ชั่วโมง ดังนั้นคนไข้ไม่ต้องกังวล ในบางเคสอาจจะมีอาการบวมเข็มได้เล็กน้อยเป็นปกติค่ะ
ฉีดเมโสแฟตแล้ว ไขมันส่วนเกินหายไปไหน?
เมื่อสารยาเมโสแฟต เข้าไปจับไขมันส่วนเกิน ภายในร่างกายเรียบร้อยแล้ว ไขมันจะละลายและถูกขับออกไขมันตามกลไกธรรมชาติของร่างกาย เช่น ปัสสาวะ อุจาระ หรือเหงื่อ.
ความแตกต่างของการฉีดเมโสแฟต เทียบกับการสลายไขมันด้วยวิธีอื่นๆ?
นอกจากการฉีดเมโสแฟต ยังมีนวัตกรรมและวิธีการสลายไขมันอื่นๆ ที่ถือเป็นคู่แข่งสำคัญของการฉีดเมโสแฟตอีก เช่น
- การทำเทอร์มาจ(Thermage) : เป็นเทคโนโลยีการยิงพลังงานคลื่นวิทยุ (High Radio Frequency) ลงไปชั้นใต้ผิวหนัง เพื่อสลายเซลล์ไขมันส่วนเกินและแก้ปัญหาความหย่อนยานของผิว ส่งผลให้ผิวแน่นกระชับขึ้น เข้าไปกระตุ้นยังชั้นโครงสร้างผิว ที่มีหน้าที่ในการผลิตคอลลาเจนและอิลาสติน เมื่อได้รับคลื่นพลังงาน ก็จะช่วยกระตุ้นการทำงานของคอลลาเจนเพิ่มมากขึ้น ส่งผลทำให้ผิวหนังตึงกระชับและมีความยืดหยุ่น ช่วยลดเลือนริ้วรอย ปรับผิวให้เรียบเนียนยิ่งขึ้น
- การทำเครื่องยกกระชับ(Ultraformer III / Ulthera): เป็นเทคโนโลยีการยิงพลังงานยื่นอัลตราซาวด์ (Ultrasound) เพื่อลดชั้นไขมันส่วนเกิน พร้อมเสริมโครงสร้างคอลลาเจนผิวให้ยืดหยุ่นและแข็งแรงอีกครั้ง จึงทำให้ผิวที่หย่อนคล้อย ไม่เรียวสวยกลับมาเต่งตึง มีสัดส่วนเล็ก และกระชับขึ้น โดยเครื่องทำไฮฟู่ที่ได้รับความนิยมจนมีชื่อเสียงติดหูในท้องตลาดจะแบ่งเป็น 2 เครื่อง คือ เครื่องอัลตราฟอร์เมอร์ (Ultraformer III) และเครื่องอัลเทอร์รา (Ulthera)
- การฉีดโบท็อกซ์ เป็นการฉีดสารที่มีชื่อเต็มว่า “สารโบทูลินั่ม ท็อกซิน เอ ( Botulinum Toxin Type A) ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยยกกระชับผิวให้ตึงและมีกรอบใบหน้าชัดขึ้น รวมถึงลดขนาดของริ้วรอยแห่งวัย หรือผิวส่วนที่หย่อนคล้อยให้เล็กลง เป็นอีกการทำหัตถการโดยใช้เข็มฉีดยาที่ได้รับความนิยมไม่แพ้การฉีดเมโสแฟต และยังช่วยลดอาการเหงื่อออกผิดปกติตามร่างกายได้เช่นกัน
ในส่วนของความแตกต่าง ระหว่างการฉีดเมโสแฟต กับการทำหัตถการอื่นๆ เพื่อการลดสัดส่วนไขมันส่วนเกิน การฉีดเมโสแฟตจะเป็นวิธีใช้ “สารยา” เพื่อเร่งกระบวนการต่างๆ ของร่างกายให้นำไขมันส่วนเกินออกไปให้ได้มากที่สุด ในขณะที่วิธีกำจัดไขมันแบบอื่นๆ จะมีกลไกการกำจัดไขมันที่ต่างออกไป.
ฉีดเมโสแฟตกับการดูดไขมัน ควรเลือกแบบไหนดี?
การฉีดเมโสแฟตและการดูดไขมันมีกระบวนการที่ค่อนข้างแตกต่างกัน ซึ่งผู้เข้ารับบริการต้องมีการศึกษาข้อมูลอย่างรอบคอบเสียก่อน.
การฉีดเมโสแฟต จะมีกระบวนการเพียง ฉีดสารยาลงไปใต้ผิวไม่ต่างจากการฉีดยาทั่วไป. จากนั้นผู้เข้ารับบริการก็สามารถกลับบ้านได้ทันที และมีการดูแลตนเองต่อเพียงเล็กเล็กน้อย เช่น งดอาหารที่มีไขมันสูง งดวิตามินบางกลุ่มชั่วคราว หมั่นออกกำลังกายบ่อยๆ ส่วนผลลัพธ์จะอยู่ได้นานประมาณ 3 เดือน.
ส่วนการดูดไขมัน จะมีกระบวนการคล้ายกับการ ผ่าตัดเล็กๆ โดยบางสถานพยาบาลจะมีการจ่ายยาแก้ปวด ยาฆ่าเชื้อ หรืออาจให้ยาสลบ กับผู้เข้ารับบริการก่อนเริ่มทำหัตถการ. วิธีการดูดไขมันจะเป็นการสอดท่อเล็กๆ ลงไปใต้ผิวเพื่อดูดไขมันส่วนเกินออกมา และอาจต้องมีการเย็บแผล รวมทั้งต้องเดินทางมาตรวจ ความเรียบร้อยของแผลหลังรับบริการเสร็จด้วย.
ดังนั้นในส่วนของ ผลกระทบด้านร่างกายหลังจากทำหัตถการเสร็จ เมื่อเทียบกับการฉีดเมโสแฟตแล้ว. การดูดไขมันจึงมีโอกาสทำให้รู้สึกเจ็บได้มากกว่า และอาจทำให้เกิดอาการช้ำ บวม หรือผิวหนังอักเสบได้มากกว่า นอกจากนี้ยังต้องใช้เวลาในการพักฟื้นร่างกาย ต้องใส่ปลอก หรือชุดกระชับสัดส่วนตามที่แพทย์แนะนำด้วย.
ในขณะที่ การฉีดเมโสแฟต มักจะมีเพียงอาการผิวบวมแดงบริเวณที่ใช้เข็มฉีดยาประมาณ 1-2 วันเท่านั้น หลังจากนั้นก็สามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ .
อย่างไรก็ตาม การดูดไขมันก็มีจุดเด่นด้าน การดึงเซลล์ไขมันออกไปได้ทันที และยังทำได้หลายบริเวณของร่างกาย ซึ่งหากไปใช้บริการในสถานพยาบาลที่มีเครื่องมือทันสมัย ได้มาตรฐาน และมีความเชี่ยวชาญ ก็จัดเป็นวิธีการกำจัดไขมันที่น่าสนใจเช่นเดียวกัน.
ฉีดเมโสแฟตได้ตั้งแต่อายุเท่าไร? เจ็บหรือไม่?
ผู้ที่ต้องการฉีดเมโสแฟตต้องมีอายุ 20 ขึ้นไปเท่านั้น และเนื่องจากเป็นการทำหัตถการที่ใช้เข็มฉีดยา จึงอาจทำให้รู้สึกเจ็บได้ แต่มักอยู่ในระดับที่ทนได้เช่นเดียวกับการฉีดวัคซีน และอาจมีอาการผิวบวมแดงได้ในช่วง 1-2 วันแรก หลังจากนั้นอาการก็จะค่อยๆ ดีขึ้นเอง
อย่างไรก็ตาม ที่กังนัมคลินิกจะมีการประคบน้ำแข็งเพื่อให้เกิดความรู้สึกชาชั่วขณะก่อนเริ่มการฉีดเมโสแฟต เพื่อป้องกันอาการเจ็บที่ผู้เข้ารับบริการบางท่านอาจเป็นกังวล
ใครที่เหมาะกับการฉีดเมโสแฟต?
ผู้ที่เหมาะกับการลดไขมันด้วยการฉีดเมโสแฟต ได้แก่
- ผู้ที่มีไขมันส่วนเกินและอยากกำจะจัดออกเฉพาะจุด
- ผู้ที่ออกกำลังกายมาอย่างต่อเนื่องแล้ว แต่สัดส่วนไขมันตามร่างกายและใบหน้ายังไม่ลดลง
- ผู้ที่ต้องการลดไขมันอย่างเร่งด่วน และมีงบประมาณไม่สูงนัก
- ผู้ที่ต้องการลดสัดส่วนไขมันโดยไม่ใช้การผ่าตัดและกังวลเรื่องความเจ็บ
ใครที่ไม่เหมาะกับการฉีดเมโสแฟต ?
การฉีดเมโสแฟตเป็นวิธีการกำจัดไขมันส่วนเกินที่สามารถทำได้กับบุคคลทั่วไปทุกกลุ่ม ยกเว้นหญิงตั้งครรภ์และกำลังให้นมบุตร รวมถึงผู้ที่มีปัญหาผิวหนังอักเสบ ผิวหนังติดเชื้อ หรือกำลังเป็นสิวอักเสบอย่างรุนแรง ซึ่งควรรักษาให้หายเสียก่อนรับบริการ
ข้อควรระวังในการไปรับบริการ ฉีดเมโสแฟต?
เนื่องจากการฉีด เมโสแฟต เป็นการทำหัตถการความงาม ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในปัจจุบัน. จึงมีสถานพยาบาลหลายแห่ง นำเข้าสารเมโสแฟตปลอม ซึ่งมีราคาถูกและไม่ได้มาตรฐานมาใช้. เพื่อดึงดูดลูกค้าที่ต้องการฉีดเมโสแฟต หรือ ต้องการสลายไขมันในราคาย่อมเยา. ซึ่งสารเหล่านี้สามารถส่งผลกระทบ ที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพของผู้เข้ารับบริการได้อย่างมหาศาล.
ผู้เข้ารับบริการทุกท่าน จึงต้องมีการตรวจสอบมาตรฐาน และชื่อเสียงของสถานพยาบาล ที่ต้องการไปใช้บริการให้แน่ใจเสียก่อน เพื่อป้องกันการเกิดปัญหาใช้สารเมโสแฟต ที่ไม่มีคุณภาพในภายหลัง.
ขั้นตอนการฉีดเมโสแฟต?
กระบวนการฉีดเมโสแฟตเพื่อลดไขมันส่วนเกินมักมีขั้นตอนโดยหลักๆ ดังต่อไปนี้
- ผู้เข้ารับบริการพบแพทย์เพื่อปรึกษาปัญหาไขมันส่วนเกินและปัญหาผิวที่อยากยกกระชับกับแพทย์
- แพทย์ประเมินยี่ห้อ ปริมาณ และอาจรวมถึงจำนวนครั้ง ในการมาฉีดเมโสแฟต ให้เห็นผลตามความต้องการของผู้เข้ารับบริการ.
- เมื่อพูดคุยเกี่ยวกับแผนการกำจัดไขมันเรียบร้อยแล้ว เจ้าหน้าที่จะพาผู้เข้ารับบริการ ไปทำความสะอาดผิวบริเวณที่จะฉีดเมโสแฟต และมีการประคบน้ำแข็ง เพื่อให้เกิดความรู้สึกชาชั่วขณะ.
- หลังจากนั้นแพทย์จะเริ่มฉีดเมโสแฟตให้ตามปริมาณที่เหมาะสม โดยส่วนมากมักใช้เวลาไม่เกิน 15 นาที.
การดูแลตนเองหลังรับบริการ เพื่อให้เห็นผลของการกำจัดไขมันมากขึ้น?
ผู้เข้ารับบริการ ควรงดการดื่ม เครื่องดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่ เพื่อลดโอกาสเสื่อมตัวของสารยาเมโสแฟต รวมถึงควรดื่มน้ำให้มากๆ เพื่อเร่งการขับไขมันออกจากร่างกาย.
นอกจากนี้ยังควรหลีกเลี่ยง กิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับความร้อน เช่น การอบซาวน่า การแช่น้ำร้อน การทำทรีตเมนต์หรือนวดตัว เป็นเวลา 1 สัปดาห์ เพื่อลดโอกาสเกิดปัญหาฟกช้ำที่ผิว และหากมีอาการแพ้ หรือรู้สึกผิดปกติใดๆ ให้ติดต่อแพทย์โดยทันที.
ส่วนการดูแลตนเองเพิ่มเติม ผู้เข้ารับบริการควรหมั่นออกกำลังกายเบาๆ เพื่อกระตุ้น ความกระชับของผิวส่วนที่ ฉีดเมโสแฟต ควรหลีกเลี่ยงการกินอาหารที่มีไขมันสูงหรือมีน้ำตาลสูง เพื่อลดโอกาสเกิดเซลล์ไขมันใหม่. และควรพักผ่อนให้เพียงพอทุกคืน เพื่อให้ระบบเผาผลาญ และระบบเมตาบอลิซึม ของร่างกายซึ่งมีส่วนช่วย กำจัดไขมันทำงานได้อย่างเต็มที่.
✓ ทุกเคสทำการฉีดโดยแพทย์ Speaker ผู้สอนฉีดฟิลเลอร์ ที่มีความเชี่ยวชาญ
✓ การันตีด้วยรางวัล Trainer Honorable Recognition Award 2022
✓ มั่นใจ ปลอดภัย ด้วยฟิลเลอร์แท้
✓ พร้อมให้คำปรึกษาและมีการวิเคราะห์ออกแบบปรับรูปหน้าเฉพาะบุคคลได้อย่างตรงจุด
✓ เทคนิคเฉพาะของทีมแพทย์ ที่ Mudan Pavilion Wellness Center
✓ ใส่ใจติดตามผลหลังทำหัตถการทุกเคสดูแลคุณเหมือนคนในครอบครัว
“ยืนยันจากทุกเสียงของคนไข้ถึงความมือเบา ความปราณีตของคุณหมอ”