สำหรับคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์ หลายคนอาจสงสัยว่าการฉีดโบท็อกซ์หรือฟิลเลอร์สามารถทำได้หรือไม่ และมีจุดไหนที่ฉีดได้บ้าง แม้หัตถการเหล่านี้จะช่วยลดริ้วรอยและเติมเต็มใบหน้าให้ดูสดใสขึ้น แต่ก็ต้องคำนึงถึงความปลอดภัยเป็นหลัก เพราะช่วงตั้งครรภ์เป็นช่วงที่ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ การรู้ข้อมูลที่ถูกต้องจะช่วยให้ตัดสินใจได้อย่างมั่นใจและปลอดภัย มาดูกันว่าคนท้องสามารถฉีดได้หรือไม่ และต้องระวังอะไรบ้าง
คนท้องฉีดโบท็อกซ์ ฉีดฟิลเลอร์ ได้ไหม
- โบท็อกซ์ คือ
- ฟิลเลอร์ คือ
- คนท้องฉีดโบท็อกซ์ได้ไหม ?
- คนท้องฉีดฟิลเลอร์ได้ไหม ?
- จุดไหนฉีดได้บ้างในช่วงตั้งครรภ์ ?
- หลังคลอดเมื่อไหร่ฉีดได้ ?
- สรุป
โบท็อกซ์ คือ
โบท็อก (Botox) คือ ชื่อทางการค้าของยาชนิดหนึ่ง คือ โบทูลินัม ท็อกซิน (Botulinum Toxin) ซึ่งเป็นสารที่ถูกสกัดมาจากแบคทีเรียสายพันธุ์เฉพาะชื่อ Clostridium botulinum โดยสารนี้จะอยู่ในรูปแบบโปรตีนที่มีคุณสมบัติพิเศษสามารถจับกับปลายของเส้นประสาทที่ควบคุมกล้ามเนื้อ แล้วเข้าไปยับยั้งการกระตุ้นกล้ามเนื้อที่ได้รับการควบคุมโดยเส้นประสาทบริเวณนั้น ทำให้กล้ามเนื้อบริเวณนั้นที่ได้ทำการฉีดโบท็อกซ์ไม่สามารถหดตัวและอยู่ในสภาพคลายตัว
ในวงการเสริมความงาม โบท็อกซ์จะช่วยในเรื่องการลดเหงื่อ เช่น โบท็อกซ์ลดเหงื่อบริเวณรักแร้ ลดริ้วรอย การปรับปรุงรูปหน้า รวมไปถึงช่วยในเรื่องผิวหนังที่หย่อนคล้อยให้เกิดความกระชับ แต่ต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์
ฟิลเลอร์ คือ
ฟิลเลอร์ คือสารเติมเต็มที่นิยมใช้ในการฉีดเข้าตรงบริเวณใต้ผิวหนัง เพื่อช่วยในการเติมเต็มร่องลึก และริ้วรอยบนใบหน้า ทำให้ผิวหนังบนใบหน้ามีความเรียบเนียน มีความอิ่มฟู รวมถึงทำให้ใบหน้าดูอ่อนกว่าวัย โดยฟิลเลอร์มีส่วนประกอบหลักของกรดไฮยาลูโรนิก (Hyaluronic Acid) ซึ่งเป็นสารที่สามารถพบได้ตามธรรมชาติในร่างกาย ซึ่งหลังจากทำการฉีดฟิลเลอร์ สาร HA จะเข้าไปจับกับโมเลกุลของน้ำ ทำให้ตรงบริเวณที่ฉีดมีปริมาณน้ำเพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้ผิวหนังมีความชุ่มชื้น ดูอิ่มฟู ริ้วรอยร่องลึกมีความตื้นขึ้น และริ้วรอยมีความจางลง นอกจากนี้ ฟิลเลอร์ยังช่วยกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินขึ้นมาใหม่ ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ผิวหนังมีความแข็งแรง และทำให้ผิวหนังมีความยืดหยุ่นขึ้น
คนท้องฉีดโบท็อกซ์ได้ไหม ?
อย่างที่ทราบ โบท็อกซ์ (Botox) เป็นชื่อทางการค้าของยาชนิดหนึ่ง คือ โบทูลินัม ท็อกซิน (Botulinum Toxin) ซึ่งเป็นสารที่ถูกสกัดมาจากแบคทีเรียสายพันธุ์เฉพาะอย่าง Clostridium botulinum โดยโบท็อกซ์จะออกฤทธิ์กับระบบประสาท ซึ่งจะช่วยยับยั้งการทำงานของเส้นประสาทที่ทำหน้าที่สั่งการให้กล้ามเนื้อเกิดการหดตัว ทำให้กล้ามเนื้อตรงบริเวณนั้นเกิดการคลายตัว และหยุดการทำงานชั่วคราว ทำให้ช่วยลดริ้วรอย ช่วยในการปรับรูปหน้า และยังช่วยลดการเกิดเหงื่อ
ถึงแม้การฉีดโบท็อกซ์สารจะไม่สามารถแพร่กระจายเข้าสู่กระแสเลือดในปริมาณที่มาก แต่ก็ยังไม่มีงานวิจัยที่ยืนยันว่าสารที่ทำการฉีดเข้าไปจะปลอดภัยกับทารกในครรภ์ นอกจากนี้ การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนระหว่างตั้งครรภ์อาจส่งผลต่อผลลัพธ์ และการกระจายตัวของสาร Botulinum Toxin อาจเสี่ยงต่อระบบประสาทของทารก ดังนั้นทางแพทย์จึงไม่แนะนำให้คนท้องฉีด จนกว่าจะหยุดการให้นมบุตร

คนท้องฉีดฟิลเลอร์ได้ไหม ?
อย่างที่ทราบ ฟิลเลอร์ (Filler) เป็นสารเติมเต็มประเภทหนึ่งที่มีส่วนประกอบหลักของกรดไฮยาลูโรนิก (Hyaluronic Acid) ซึ่งเป็นสารที่สามารถพบในร่างกายตามธรรมชาติ โดยสาร HA จะเข้าไปจับโมเลกุลของน้ำ ทำให้บริเวณที่ฉีดมีปริมาณน้ำเพิ่มมากขึ้น ทำให้ผิวหนังมีความชุ่มชื้น มีความอิ่มฟู ช่วยให้ริ้วรอยร่องลึกมีความตื้นขึ้น และทำให้ริ้วรอยมีความจางลง นอกจากนี้ ฟิลเลอร์ยังช่วยกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินขึ้นมาใหม่ ทำให้ผิวหนังมีความแข็งแรงและมีความยืดหยุ่นขึ้น
ถึงแม้ว่าการฉีดฟิลเลอร์แท้จะมีความปลอดภัยสูง และสามารถสลายได้เอง แต่ก็ไม่มีงานวิจัยจากทางการแพทย์ที่ยืนยันว่า หากคนท้องมีการฉีดฟิลเลอร์จะไม่ส่งผลกระทบต่อเด็กในครรภ์ นอกจากนี้ การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนระหว่างตั้งครรภ์อาจส่งผลต่อผลลัพธ์ และอาจเกิดผลข้างเคียง เช่น การแพ้ หรือเกิดอาการอักเสบมากกว่าปกติ เพราะภูมิคุ้มกันของร่างกายอาจมีการเปลี่ยนแปลง รวมถึงหากเกิดผลข้างเคียงที่รุนแรง อาจจะรักษาได้ยากกว่าคนปกติ เพราะยาบางชนิดอาจส่งผลกับเด็กที่อยู่ในครรภ์ ดังนั้นทางแพทย์จะไม่แนะนำให้ทำการฉีดในระหว่างตั้งครรภ์จนถึงการให้นมบุตร
จุดไหนฉีดได้บ้างในช่วงตั้งครรภ์ ?
อย่างที่ทราบ การฉีดฟิลเลอร์และการฉีดโบท็อกซ์เป็นการฉีดสารเข้าสู่ร่างกาย เพื่อช่วยแก้ไขปัญหาตามส่วนต่าง ๆ บนใบหน้า ซึ่งทั้งสองอย่างมีความปลอดภัยสูง แต่ก็ยังไม่มีงานวิจัยที่การันตีว่า หลังจากทำการฉีดจะไม่ส่งผลกระทบกับเด็กในท้อง ทางแพทย์จึงมักจะไม่แนะนำให้ทำการฉีด
ดังนั้น ระหว่างการตั้งครรภ์จึงไม่สามารถฉีดฟิลเลอร์หรือโบท็อกซ์ได้ แต่ก็ยังสามารถทำหัตถการเสริมความงามอย่างอื่นได้ เช่น การทำเลเซอร์หน้าใส การทำทรีตเมนต์บำรุงผิว และการใช้ครีมบำรุงผิวที่ไม่มีส่วนผสมของสารเรตินอลหรือสารที่ก่อให้เกิดอันตราย และทุกครั้งก่อนการทำควรมีการปรึกษากับแพทย์เพื่อความปลอดภัย และป้องกันการเกิดผลข้างเคียง

หลังคลอดเมื่อไหร่ฉีดได้ ?
โดยปกติหลังจากการคลอดบุตร แพทย์จะแนะนำให้คุณแม่สามารถฉีดโบท็อกซ์ได้หลังจากการหยุดให้นมบุตร โดยจะต้องเว้นระยะเวลา 6 เดือนขึ้นไป ส่วนการฉีดฟิลเลอร์ หากคุณแม่ไม่ได้ให้นมบุตร ก็สามารถฉีดได้หลังคลอดทันที แต่ถ้ามีการให้นมบุตรอยู่ ควรจะมีการปรึกษาแพทย์ก่อนการฉีดทุกครั้ง เพื่อความปลอดภัย และเพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบกับเด็กที่เสี่ยงต่อการแพ้สารเคมี
สรุป
อย่างที่ทราบ การฉีดฟิลเลอร์และการฉีดโบท็อกซ์ถือว่าเป็นหัตถการเสริมความงามที่ได้รับความนิยมอย่างมาก เนื่องจากเป็นวิธีที่มีความปลอดภัย และสามารถเห็นผลได้ทันทีหลังจากการฉีด แต่สำหรับบุคคลที่อยู่ระหว่างการตั้งครรภ์ และบุคคลที่กำลังให้นมบุตร ก็ยังไม่มีผลวิจัยยืนยันว่าปลอดภัยกับเด็กที่อยู่ในครรภ์ เนื่องจากระหว่างการตั้งครรภ์อาจเกิดการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน ที่อาจส่งผลให้เกิดผลข้างเคียงที่รุนแรง ดังนั้น เพื่อความปลอดภัยของคุณแม่ที่ตั้งครรภ์กับเด็กที่อยู่ในครรภ์ ควรหลีกเลี่ยงการทำหัตถการที่อาจก่อให้เกิดความเสี่ยงก่อน