กระตุ้นคอลลาเจนใบหน้า มีกี่วิธี กิน ทา ฉีด เติมอันไหนเพิ่มดีกว่ากัน

กระตุ้นคอลลาเจนใบหน้า มีกี่วิธี กิน ทา ฉีด เติมอันไหนเพิ่มดีกว่ากัน

การกระตุ้นคอลลาเจนใบหน้าเป็นหนึ่งในวิธีที่หลายคนเลือกใช้เพื่อรักษาความอ่อนเยาว์และความเรียบเนียนของผิว แต่ในยุคที่มีตัวเลือกหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการกิน การทาสกินแคร์ การฉีด หรือการใช้เครื่องมือทางการแพทย์ เราควรเลือกแบบไหนจึงจะได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด? บทความนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจถึงวิธีการกระตุ้นคอลลาเจนในรูปแบบต่าง ๆ เพื่อให้คุณสามารถตัดสินใจได้อย่างมั่นใจว่าควรเลือกวิธีไหนในการดูแลผิวให้สวยเปล่งปลั่งอย่างยั่งยืนและเหมาะกับคุณมากที่สุด

กระตุ้นคอลลาเจนใบหน้า

การกระตุ้นคอลลาเจน คืออะไร ?

คอลลาเจน (Collagen) คือโปรตีนชนิดหนึ่งที่เปรียบเสมือนโครงสร้างหลักของผิวหนัง ช่วยให้ผิวเราดูอ่อนเยาว์ เต่งตึง และยืดหยุ่น แต่เมื่ออายุมากขึ้น หรือเจอแสงแดดมากเกินไป การผลิตคอลลาเจนจึงลดลง ทำให้เกิดริ้วรอย ผิวหย่อนคล้อย และดูแก่กว่าวัย

การกระตุ้นคอลลาเจน โดยเฉพาะบริเวณใบหน้า จึงเป็นวิธีการที่หลายคนให้ความสนใจ เพื่อชะลอความเสื่อมของผิวและฟื้นฟูผิวให้กลับมาดูอ่อนเยาว์อีกครั้ง โดยการกระตุ้นให้ร่างกายสร้างคอลลาเจนขึ้นมาใหม่ ซึ่งจะช่วยเติมเต็มร่องลึก ลดเลือนริ้วรอย ทำให้ผิวกลับมามีความยืดหยุ่น และดูอิ่มน้ำ เปรียบเสมือนการเติมเต็มโครงสร้างผิวให้กลับมาแข็งแรงอีกครั้ง

ทำไมต้อง กระตุ้นคอลลาเจนใบหน้า

เหตุผลที่เราต้องกระตุ้นคอลลาเจนใบหน้า ก็เพราะว่า เมื่ออายุมากขึ้น หรือเผชิญกับปัจจัยภายนอกต่างๆ  เช่น แสงแดด มลภาวะ การสูบบุหรี่ การพักผ่อนไม่เพียงพอ ร่างกายของเราจะผลิตคอลลาเจนได้น้อยลง ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางกายภาพบนผิวหนัง จึงเป็นสาเหตุว่าทำไมเราต้องกระตุ้นคอลลาเจนบนใบหน้า

  1. ลดเลือนริ้วรอย คอลลาเจนจะช่วยเติมเต็มร่องลึก ทำให้ริ้วรอยดูจางลง
  2. เพิ่มความยืดหยุ่น ผิวจะกลับมามีความยืดหยุ่น ไม่หย่อนคล้อย
  3. ผิวดูอิ่มน้ำ คอลลาเจนจะช่วยให้ผิวดูชุ่มชื้น อิ่มน้ำ
  4. ผิวกระจ่างใส การสร้างเซลล์ผิวใหม่จะช่วยให้ผิวดูสว่างใสขึ้น
  5. ผิวแข็งแรง คอลลาเจนช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับผิว ช่วยปกป้องผิวจากมลภาวะ

ดังนั้น การกระตุ้นคอลลาเจน จึงเป็นการแก้ไขปัญหาที่ต้นเหตุ โดยการกระตุ้นให้ร่างกายสร้างคอลลาเจนขึ้นมาใหม่ ทำให้ผิวหนังกลับมามีความแข็งแรง ยืดหยุ่น เต่งตึง และดูอ่อนเยาว์ขึ้นนั้นเอง

กระตุ้นคอลลาเจนใบหน้า เหมาะกับใคร

การกระตุ้นคอลลาเจนใบหน้าเหมาะสำหรับหลายกลุ่มคนที่ต้องการดูแลและปรับปรุงคุณภาพของผิวหน้า โดยแต่ละกลุ่มอาจมีเป้าหมายและปัญหาผิวที่แตกต่างกันไป โดยใครบ้างที่เหมาะสมกับการกระตุ้นคอลลาเจนใบหน้า

  • ผู้ที่เริ่มมีอายุ 25 ปีขึ้นไป หลังจากอายุ 25 ปี ร่างกายเราจะผลิตคอลลาเจนลดลง ทำให้เกิดริ้วรอยและผิวหย่อนคล้อย การกระตุ้นคอลลาเจนตั้งแต่เนิ่นๆ จึงเป็นการลงทุนเพื่อผิวสวยในระยะยาว ช่วยให้ผิวดูอ่อนเยาว์และชะลอความแก่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • ผู้ที่มีปัญหาริ้วรอยและร่องลึก ผู้ที่มีปัญหาผิวหนังที่เริ่มแสดงสัญญาณของการแก่ตัว เช่น ริ้วรอย ร่องลึก หรือผิวที่หย่อนคล้อย การกระตุ้นคอลลาเจนสามารถช่วยลดเลือนริ้วรอยเหล่านี้ และช่วยทำให้ผิวดูเต่งตึงและเรียบเนียนขึ้นได้
  • ผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อย เมื่ออายุมากขึ้นหรือลดน้ำหนักอย่างรวดเร็ว ผิวจะหย่อนคล้อยเพราะคอลลาเจนลดลง การกระตุ้นคอลลาเจนจะช่วยให้ผิวกลับมากระชับ ยืดหยุ่น เหมาะสำหรับคนที่อยากให้ผิวกลับมาเต่งตึงอีกครั้ง
  • ผู้ที่มีผิวที่ดูหมองคล้ำหรือขาดความสดใส การกระตุ้นคอลลาเจนช่วยให้ผิวดูสดใสและเปล่งปลั่งขึ้น เนื่องจากคอลลาเจนเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ผิวดูชุ่มชื้นและมีความเงางาม ผู้ที่มีผิวหมองคล้ำหรือขาดความสดใสสามารถได้รับประโยชน์จากการกระตุ้นคอลลาเจนได้
  • ผู้ที่มีปัญหารูขุมขนกว้างและผิวไม่เรียบเนียน การกระตุ้นคอลลาเจนช่วยซ่อมแซมผิว ทำให้รูขุมขนกระชับ ผิวเรียบเนียน เหมาะสำหรับคนที่มีปัญหาผิวไม่เรียบเสมอกัน
  • ผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ที่ไม่ต้องผ่าตัด การกระตุ้นคอลลาเจนด้วยวิธีที่ไม่ต้องผ่าตัด เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการปรับปรุงคุณภาพผิวโดยไม่ต้องการเข้ารับการผ่าตัดหรือการรักษาที่มีความเสี่ยงสูง

การกระตุ้นคอลลาเจนใบหน้าจึงเหมาะสำหรับคนที่ต้องการดูแลผิวหน้าอย่างต่อเนื่องทั้งในด้านความงามและสุขภาพผิวในระยะยาว รวมถึงผู้ที่อยากให้ใบหน้าดูมีโหงวเฮ้ง โดยสามารถปรับวิธีการให้เหมาะสมกับสภาพผิวและปัญหาที่ต้องการแก้ไขได้อย่างมีประสิทธิภาพได้

15 วิธีกระตุ้นคอลลาเจนให้ใบหน้า

การกระตุ้นคอลลาเจนให้ใบหน้ามีหลากหลายวิธี ตั้งแต่วิธีที่ให้ผลลัพธ์อย่างรวดเร็วไปจนถึงวิธีที่ใช้เวลานานแต่เป็นธรรมชาติและยั่งยืน มาดูกันว่า 15 วิธีไหนบ้างที่สามารถช่วยกระตุ้นคอลลาเจนให้ผิวหน้าได้

1. ฉีดฟิลเลอร์ (Fillers)

ฟิลเลอร์ หรือ สารเติมเต็ม Hyaluronic Acid (ไฮยาลูรอนิค แอซิด) ที่หลาย ๆ คนเรียกสั้น ๆ ว่า HA จะเติมเต็มผิวและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ในชั้นผิวลึก ช่วยให้ผิวดูอิ่มเอิบและเรียบเนียนทันทีหลังการฉีด

2. โบท็อกซ์ (Botox)

การฉีดโบท็อกซ์จะช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อและลดริ้วรอย ช่วยให้ผิวมีเวลาในการสร้างคอลลาเจนใหม่ได้ โบท็อกซ์จะให้ผลลัพธ์ที่รวดเร็วและชัดเจน

3. สกินบูสเตอร์ (Skin Booster)

การฉีดสารบำรุงผิวชนิดเข้มข้น ตรงบริเวณชั้นผิวหนังชั้นกลาง (Dermis) เปรียบเสมือนการเติมอาหารให้ผิว ช่วยฟื้นฟูสภาพผิว แถมยังช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินให้กับผิว ทำให้ผิวมีความยืดหยุ่นและดูอ่อนเยาว์มากขึ้น ตัวอย่างที่เห็นได้ชัด คือ การฉีด Sculptra

4. เลเซอร์ (Laser Resurfacing)

เลเซอร์ สามารถเจาะลึกถึงชั้นผิวหนังเพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ ช่วยให้ผิวดูเต่งตึงและเรียบเนียนขึ้นทันทีภายในไม่กี่สัปดาห์

5. Thermage

เป็นการใช้คลื่นวิทยุความถี่สูงเพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ชั้นผิว ช่วยกระชับผิวและลดริ้วรอย ผลลัพธ์จะเห็นได้ใน 1-2 สัปดาห์หลังการทำ

6. Ultherapy

การใช้คลื่นเสียงอัลตร้าซาวด์ที่เจาะลึกถึงชั้นผิว SMAS เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ในชั้นลึกของผิว ผลลัพธ์จะเริ่มเห็นได้ภายใน 2-3 เดือน และคงอยู่ได้นานถึง 1 ปี

7. ไมโครนีดลิง (Microneedling)

ใช้เข็มขนาดเล็กเจาะผิวเพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวเรียบเนียนและกระชับขึ้น เห็นผลลัพธ์ในระยะเวลาไม่กี่สัปดาห์

8. รับประทานอาหารเสริมคอลลาเจน

การทานคอลลาเจนเสริม เช่น คอลลาเจนเปปไทด์ หรือไฮโดรไลซ์คอลลาเจน ช่วยเสริมการสร้างคอลลาเจนในร่างกาย ทำให้ผิวดูอ่อนเยาว์และแข็งแรงขึ้น

9. การใช้สกินแคร์ (Skincare)

ใช้สกินแคร์ (Skincare) ที่มีส่วนผสมของเรตินอล (Retinol) , วิตามินซี (Vitamin C) หรือ เปปไทด์ (Peptides) ที่เป็นสารสำคัญที่ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนเมื่อใช้เป็นประจำ โดยวิตามินซีช่วยให้คอลลาเจนในผิวแข็งแรงขึ้น ส่วนเรตินอลช่วยผลัดเซลล์ผิวและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและเปปไทด์ช่วยเสริมการสร้างคอลลาเจนในผิวหนัง

10. การนวดหน้า (Facial Massage)

การนวดหน้าช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด และสามารถช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนอย่างเป็นธรรมชาติ การนวดหน้าด้วยน้ำมันหรือน้ำมันสกัดจากพืชจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการกระตุ้นคอลลาเจน

11. การใช้หน้ากากแผ่นคอลลาเจน (Collagen Sheet Mask)

หน้ากากแผ่นที่มีส่วนผสมของคอลลาเจนหรือเปปไทด์สามารถให้ความชุ่มชื้นและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในผิว ทำให้ผิวดูสดใสและกระชับขึ้น

12. การออกกำลังกายเป็นประจำ

การออกกำลังกายช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดและส่งเสริมการสร้างคอลลาเจนในร่างกาย การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้ผิวดูเต่งตึงและมีสุขภาพดีขึ้น

13. การลดความเครียด

ความเครียดสามารถทำลายคอลลาเจนในร่างกายได้ การทำสมาธิหรือกิจกรรมผ่อนคลายสามารถช่วยลดความเครียดและส่งเสริมการสร้างคอลลาเจนในผิว

Sun Protection

14. การปกป้องผิวจากแสงแดด (Sun Protection)

การใช้ครีมกันแดดที่มี SPF สูงช่วยปกป้องผิวจากรังสี UV ซึ่งเป็นสาเหตุหลักในการทำลายคอลลาเจนในผิว การป้องกันแสงแดดอย่างมีประสิทธิภาพเป็นวิธีสำคัญในการรักษาคอลลาเจนในผิว

15. การรับประทานอาหารที่อุดมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ

อาหารที่มีวิตามินซี วิตามินอี และสารต้านอนุมูลอิสระอื่น ๆ เช่น ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ ผักใบเขียว และถั่ว สามารถช่วยปกป้องคอลลาเจนในผิวจากการถูกทำลาย และส่งเสริมการสร้างคอลลาเจนใหม่

การเลือกวิธีการกระตุ้นคอลลาเจนขึ้นอยู่กับเป้าหมายและความต้องการของแต่ละบุคคล บางคนอาจต้องการผลลัพธ์ที่รวดเร็ว ส่วนบางคนอาจเน้นวิธีที่เป็นธรรมชาติและยั่งยืน

กระตุ้นคอลลาเจนใบหน้า ที่ไหนดี ?

ถ้าเป็นการกระตุ้นคอลลาเจนบนใบหน้าแบบเร่งด่วน ที่กล่าวมาข้างต้น จำเป็นต้องดำเนินการด้วยแทพย์หรือผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง ดังนั้น เพื่อความปลอดภัย ควรมีการเลือกคลินิกหรือสถานพยาบาลที่มีลักษณะ ดังนี้

  • คลินิกหรือสถานบริการ ต้องมีใบอนุญาตสถานพยาบาลและเลขที่อนุญาตจำนวน 11 หลัก อย่างชัดเจน และสามารถตรวจสอบได้
  • ทีมแพทย์ต้องมีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเวชกรรม หรือใบอนุญาตประกอบโรคศิลปะ และต้องมีความชำนาญในหัตถการนั้นๆ
  • คลินิกต้องเลือกใช้อุปรณ์ หรือตัวยาที่เป็นของแท้ อย่างการเลือกใช้ฟิลเลอร์แท้ เพื่อลดความเสี่ยงที่จะเกิดอาการแพ้ สามารถอ่านบทความ วิธีเช็คฟิลเลอร์แท้ดูยังไง
  • คลินิกต้องมีบริการให้คำปรึกษา และสามารถตอบคำถามให้กับคนไข้ได้อย่างถูกต้อง
  • ต้องมีรีวิวจากผู้ที่เข้ามาใช้บริการจริง
  • คลินิกหรือสถานที่ให้บริการ ต้องได้มาตรฐาน และมีอุปกรณ์ที่เพียงพอเพื่อความปลอดภัย
  • คลินิกหรือสถานที่ให้บริการ ต้องมีการอธิบายรายละเอียดก่อนทำ และวิธีการดูแลตัวเองหลังจากทำ ไว้อย่างละเอียด รวมไปถึงทีมแพทย์ต้องมีการติดตามผลหลังการทำ
  • คลินิกหรือสถานที่ให้บริการ ควรตั้งอยู่ในตำแหน่งที่สะดวกต่อการเดินทาง

คำถามที่พบบ่อย

กินคอลลาเจน แล้วผิวใส จริงไหม?

การที่ผิวใสขึ้นจากการกินคอลลาเจน มีความเป็นไปได้ โดยผลจากการที่คอลลาเจนช่วยเสริมสร้างและฟื้นฟูโครงสร้างของผิวหนัง ทำให้ผิวดูแข็งแรง เรียบเนียน และมีความยืดหยุ่นมากขึ้น เมื่อผิวหนังมีความแข็งแรงและชุ่มชื้นอย่างเหมาะสม ก็จะทำให้ดูเปล่งปลั่งและสดใสขึ้น อย่างไรก็ตาม ผิวใสที่เกิดขึ้นจากการกินคอลลาเจนไม่ได้เป็นผลลัพธ์ที่เห็นได้ทันที แต่ต้องใช้เวลาอย่างน้อย 4-8 สัปดาห์ หรือมากกว่านั้นขึ้นอยู่กับบุคคล

ครีมกระตุ้นคอลลาเจน เห็นผลจริงไหม ?

เห็นผลจริง แต่ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ครีมต้องมีส่วนผสมของ ส่วนผสมของเรตินอล (Retinol) , วิตามินซี (Vitamin C) หรือ เปปไทด์ (Peptides) ที่เป็นสารสำคัญที่ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนเมื่อใช้เป็นประจำ แม้ว่าครีมเหล่านี้จะช่วยได้บ้างในเรื่องของการบำรุงผิวชั้นนอก แต่ผลลัพธ์อาจไม่ชัดเจนหรือเร็วเท่ากับวิธีการรักษาอื่น ๆ ที่เข้าถึงชั้นผิวที่ลึกกว่า เช่น การฉีด Sculptra การฉีดฟิลเลอร์ หรือการทำ Ultherapy