ปัญหาหน้าผากเกิดรอยย่น หรือมีรอยย่อนระหว่างคิ้ว ถือว่าเป็นปัญหากวนใจให้กับใครหลายคน ไม่ว่าจะเป็นชายหรือหญิงก็ตาม โดยปัจจุบันมีคนสนใจในการแก้ไขปัญหานี้มากขึ้น การเกิดหน้าผากย่น หรือเกิดรอยย่อระหว่างคิ้วนั้น อาจจะส่งผลกระทบมากมายไม่ว่าจะเป็นการขาดความมั่นใจด้านภาพลักษณ์ หรือการขาดความน่าเชื่อในด้านการงาน รวมไปถึงถือว่าเป็นคนมีโหงวเฮ้งที่ไม่ดี โดยบทความฉบับได้นำวิธีลดรอยย่นที่หน้าผาก และลดรอยย่อนระหว่างคิ้ว มาให้กับทุกท่าน
รอยย่นหน้าผาก รอยย่นระหว่างคิ้ว
- รอยย่นหน้าผาก เกิดจาก ?
- รอยย่นหน้าผาก พบมากในใคร ?
- หน้าผาก กับโหงวเฮ้งผู้ชาย
- หน้าผาก กับโหงวเฮ้งผู้หญิง
- วิธีลดรอยย่นหน้าผาก
รอยย่นหน้าผาก เกิดจาก ?
รอยย่นที่หน้าผาก อาจมีสาเหตุจากหลายปัจจัย อาทิเช่น เมื่อคนเรามีอายุที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้ระบบ หรือเซลล์ที่อยู่ภายในร่างกายมีการทำงานที่ไม่เหมือนเดิม อย่างการผลิตคอลลาเจน หรืออีลาสติน ที่มีการผลิตที่น้อยลง ทำให้ผิวหนังบริเวณหน้าผากเกิดรอยย่น นอกจากอายุที่เพิ่มขึ้นที่ทำให้เกิดรอยย่นแล้ว ยังมีปัจจัยภายนอกอย่างอื่นอีก อาทิเช่น
- การแสดงออกทางสีหน้าเป็นประจำ การแสดงออกทางสีหน้าเป็นประจำ หรือเป็นเวลานาน อย่าง การขมวดคิ้ว การยิ้ม การหัวเราะ และการเลิกคิ้ว ทำให้กล้ามเนื้อตรงบริเวณใบหน้าเกิดการหดตัวเป็นเวลานาน ๆ ซ้ำ ๆ จนทำให้เกิดรอยพับที่ผิวหนังบนหน้า และเกิดการสะสมเป็นรอยลึกจนเห็นได้ชัด
- ความเครียดที่เกิดจากการทำงาน ความเครียดจากการทำงาน ส่งผลให้เกิดรอยร่องลึกบริเวณระหว่างคิ้ว
- แสงแดด เนื่องจากแสงแดด มีรังสี UV ที่เป็นปัจจัยคอยทำร้ายคอลลาเจน และอีลาสติน ที่อยู่ในผิวหนัง ทำให้ผิวหนังขาดความชุ่มชื้น ผิวหนังขาดความสมดุล และทำให้ผิวหนังขาดความยืดหยุ่น ส่งผลให้ผิวหนังเกิดรอยย่น และเกิดริ้วรอย
- การใช้สายตาดูโทรศัพท์มือถือเป็นเวลานาน ส่งผลให้กล้ามเนื้อบริเวณหน้าผาก มีการหดเกร็ง ทำให้เกิดรอยย่นบนหน้าผาก
- การสูบบุหรี่ เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดรอยย่นบนผิวหน้า เนื่องจากในบุหรี่มีสารเคมีที่คอยทำร้ายเซลล์ผิวให้เกิดความเสียหาย และยิ่งหากมีการสูบบุหรี่เป็นประจำก็จะทำให้มีรอยย่นเพิ่มมากขึ้น
- ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประสมของแอลกอฮอล์ และสารกันเสีย โดยส่งผลให้ผิวหนังเกิดความระคายเคือง ผิวแห้ง ซึ่งผิวแห้งเป็นบ่อเกิดของปัญหาริ้วรอย และรอยย่นได้
- การขาดสารอาหาร การที่ร่างกายขาดสารบางอย่าง อาทิเช่น วิตามินซี วิตามินอี และกรดอะมิโน มีส่วนทำให้ผิวหนังเกิดความอ่อนแอ และทำให้เกิดรอยย่นบนผิวหนัง
รอยย่นหน้าผาก พบมากในใคร ?
คนส่วนใหญ่เกิดคำถามที่ว่า “รอยย่นหน้าผาก พบมากในใคร?” โดยรอยย่นสามารถพบได้กับคนทุกเพศ และทุกวัย เนื่องจากรอยย่น เกิดได้จากหลายสาเหตุ อาทิเช่น แสงแดด พฤติกรรมการใช้ชีวิต เป็นต้น แต่ถ้าพบมากที่สุด คงเป็นกลุ่มคนที่มีอายุตั้งแต่ 30 ปีขึ้นไป เนื่องจากเมื่อคนเรามีอายุที่เพิ่มมากขึ้น คอลลาเจน และอีลาสติน ที่อยู่ภายในร่างกาย จะมีการผลิตที่น้อยลง ส่งผลให้ผิวหนังตรงบริเวณหน้าผากเกิดรอยย่น และเกิดริ้วรอยได้ง่าย
หน้าผาก กับโหงวเฮ้งผู้ชาย
หน้าผาก ถือว่าเป็นองค์ประกอบสำคัญของใบหน้า ซึ่งตามศาสตร์โหงวเฮ้งใบหน้าของจีน หน้าผาก จะบ่งบอกถึงเรื่องการทำธุรกิจ และอาชีพการงาน โดยลักษณะโหงวเฮ้งหน้าผากของผู้ชายที่ดี ต้องมีความโหนกนูนพอดี ไม่บุบ มีความใส เกลี้ยงเกลา จะถือได้ว่าเป็นผู้ชายที่มีวาสนาดี มีความเจริญรุ่งเรือง และจะประสบความสำเร็จในชีวิต ซึ่งรวมไปถึงจะได้รับการสนับสนุนจากผู้ใหญ่ แต่ถ้าหากผู้ชายมีหน้าผากเป็นรอยย่น ไม่เรียบเนียน จะถือว่าไม่เป็นมงคล และในชีวิตจะเจอแต่อุปสรรค ไม่ว่าจะเป็นด้านการงาน การทำธุรกิจ หรือด้านครอบครัว
หน้าผาก กับโหงวเฮ้งผู้หญิง
ผู้หญิงที่มีลักษณะโหงวเฮ้งที่ดี จะต้องมีใบหน้า 3 สัดส่วน เท่ากันตามแบบฉบับ Golden Ratio หน้าผากกว้างโหนกนูน โค้งมน เนียนสวย คิ้วเรียงสวยเป็นระเบียบ ริมฝีปากอวบอิ่ม ปลายคางมีความโค้งมน ซึ่งตามศาสตร์โหงวเฮ้งเชื่อว่า จะเป็นผู้หญิงที่มีวาสนาดี ช่วยส่งเสริมให้ชีวิตสมบูรณ์ และอยู่อย่างสุขสบาย
โดยโหงวเฮ้งหน้าผาก บ่งบอกถึงเรื่องการทำธุรกิจ และอาชีพการงาน โดยลักษณะโหงวเฮ้งหน้าผากที่ดี ต้องมีความโหนกนูนพอดี ไม่บุบ มีความใส เกลี้ยงเกลา จะถือได้ว่าเป็นคนที่มีวิสัยทัศน์กว้างไกล มีความรุ่งเรือง ส่วนด้านธุรกิจจะได้รับแรงสนับสนุน ซึ่งหากเกิดปัญหาหน้าผากเป็นร่องบุ๋ม มีริ้วรอย ไม่เรียบเนียน กระดูกโปน สามารถแก้ไขได้ด้วยการฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก หรือการฉีดโบท็อก
วิธีลดรอยย่นหน้าผาก
เมื่อเราทราบสาเหตุของการเกิดริ้วรอยย่นบนหน้าผากแล้ว ต่อจากนี้ ก็จะเป็นวิธีการลดริ้วรอยบนหน้าผาก โดยการลดริ้วรอยบนหน้าผากสามารถทำได้หลายวิธี ขึ้นอยู่กับความชอบและความสะดวกของแต่ละบุคคล ดังนี้
วิธีธรรมชาติ
วิธีการลดรอยย่นตรงบริเวณหน้าผากแบบธรรมชาติ เป็นวิธีที่คนส่วนใหญ่สามารถทำได้ด้วยตนเอง แต่อาจจะต้องใช้เวลานานกว่าจะเห็นผล และต้องทำอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งวิธีการรักษาด้วยธรรมชาติ มีดังนี้
- แตงกวา เป็นผักที่มีส่วนประกอบของน้ำ ร้อยละ 90 และมีฤทธิ์เย็น จึงช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นที่ผิวหนัง ลดอาการบวม และอาการอักเสบ ซึ่งรวมไปถึงช่วยในเรื่องริ้วรอย และลดการเกิดรอยย่นที่ผิวหนัง
วิธีการใช้คือ นำแตงกวามาล้างน้ำให้สะอาด แล้วนำมาหั่นเป็นแว่น แล้วนำไปแช่ให้เย็น จากนั้นค่อยนำมาวางตรงผิวหนังที่เกิดรอยย่น หรือวางทั่วใบหน้า ทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที - ไข่ขาว มีคุณสมบัติช่วยให้ผิวหนังมีความเต่งตึง ช่วยป้องกันการเกิดริ้วรอย และช่วยลดการเกิดรอยย่นที่ผิวหนัง
วิธีการใช้คือ แยกไข่ขาวออกจากไข่แดง แล้วนำไข่ขาวที่แยกไว้มาทาลงบริเวณผิวหนังที่เกิดรอยย่น ทาทิ้งไว้จนกว่าจะรู้สึกตึงที่ผิว แล้วค่อยล้างด้วยน้ำสะอาด - อะโวคาโด มีไขมันดีอยู่ในปริมาณมากที่ดีต่อผิวหนัง ซึ่งอะโวคาโดจะช่วยในการลดริ้วรอย และช่วยลดความเหี่ยวย่นของผิวหนัง ยังรวมไปถึงช่วยเรื่องริ้วรอยคล้ำใต้ตา
วิธีการใช้คือ นำอะโวคาโดมาหั่นเป็นแผ่นบาง ๆ แล้วนำไปแปะตรงบริเวณหน้าผากที่เกิดรอยย่นหรือวางไปทั่วใบหน้า ใช้มือกดอย่างเบามือ แปะทิ้งไว้ 15 นาที เพื่อในไขมันซึมลงสู่ผิวหนัง - น้ำมันมะพร้าว มีคุณสมบัติช่วยในเรื่องการลดริ้วรอยใต้ตา และช่วยฟื้นฟูผิวหนัง รวมไปถึงช่วยในเรื่องผิวหนังที่เหี่ยวย่น
วิธีการใช้คือ นำน้ำมันมะพร้าวมาทาบริเวณผิวหนังที่เกิดรอยย่น แล้วใช้นิ้วนวดเบา ๆ ประมาณ 10 นาที แล้วทิ้งไว้ข้ามคืน ตื่นมาค่อยล้างด้วยน้ำสะอาด - แครอท มีส่วนประกอบของ วิตามิน เกลือแร่ สารเบต้าแคโรทีน สารเพกติน กรดอะมิโน เหล็ก แมงกานีส และทองแดง ซึ่งช่วยให้ผิวหนังมีความเรียบเนียน เต่งตึง และผิวหนังมีความชุ่มชื้น นอกจากนี้ยังช่วยให้เรื่องริ้วรอย และป้องกันการเกิดรอยย่นที่ผิวหนัง
วิธีการใช้คือ นำแครอทมาปลอกเปลือก แล้วล้างด้วยน้ำสะอาด จากนั้นหั่นเป็นชิ้น ผสมน้ำเล็กน้อย ก่อนจะทำการปั่น ปั่นพอให้เนื้อมีความเหนียว จากนั้นนำมาพอกไปทั่วบริเวณผิวหน้า พอกทิ้งไว้ 15 นาที หลังจากนั้นล้างด้วยน้ำสะอาด - ใบบัวบก เป็นสมุนไพรที่คนนิยมนำมาเป็นส่วนประสอบของเครื่องสำอาง หรือครีมบำรุงผิว เนื่องจากในใบบัวจะมีสารที่เข้าไปกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และอีลาสติน ในร่างกาย ซึ่งจะในเรื่องการลดริ้วรอย และป้องกันการเกิดรอยย่นที่ผิวหนัง วิธีการใช้คือ นำใบบัวบกมาล้างน้ำให้สะอาด จากนั้นค่อยนำมาปั่น กรองเอาแต่น้ำ จากนั้นนำสำลีมาชุ่มน้ำ แล้วนำไปล้างทั่วบริเวณใบหน้า พอกทิ้งไว้ 15 นาที แล้วค่อยล้างด้วยน้ำสะอาด
- การรับประทานถั่วเหลือง ถั่วเหลืองมีสารที่ชื่อว่า isoflavones ที่จะคอยช่วยในการสร้างฮอร์โมนเอสโตรเจนให้กับร่างกาย ซึ่งฮอร์โมนเอสโตรเจน จะทำให้ผิวหนังมีความลื่น และมีความยืดหยุ่น นอกจากนี้ยังช่วยให้เรื่องการลดริ้วรอย และช่วยป้องกันการเกิดรอยย่นที่ผิวหนัง
- การพักผ่อนให้เพียงพอ ขณะที่ร่างกายมีการพักผ่อน ระบบภายในจะทำการซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ และการนอนจะช่วยในเรื่องการปรับฮอร์โมนในร่างกาย ส่งผลให้ผิวพรรณดูเปล่งปลั่ง และไม่เกิดริ้วรอย รวมถึงช่วยป้องกันการเกิดรอยย่นที่ผิวหนัง
- การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ควรรับประทานให้ครบทั้ง 5 หมู่ และควรรับประทานผักและผลไม้ ที่มีส่วนประสมของแอนติออกซิแดนท์ อาทิเช่น อะโวคาโด แตงกวา กล้วย มะละกอ องุ่นแดง ฟักทอง เป็นต้น
- การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้า เป็นการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประสมของ สารโคเอนไซม์ คิวเทน ,กรดไฮยาลูรอน,เพนทาเป๊ปไทด์ ,ซาโปนิน วิตามินเอ และเรตินอล ซึ่งจะช่วยในเรื่องการลดริ้วรอย และลดการเกิดรอยย่นที่ผิวหนัง
วิธีทางการแพทย์
วิธีการลดรอยย่นที่หน้าผากแบบทางการแพทย์ เป็นการรักษาได้อย่าตรงจุด ไม่ต้องใช้เวลานาน และสามารถเห็นผลได้แบบทันที โดยการรักษารอยย่นที่หน้าผากแบบทางการแพทย์ มีดังนี้
การฉีดฟิลเลอร์ (Filler)
อย่างที่ทราบกันการรักษารอยย่นที่หน้าผากด้วยการฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก ถือว่าเป็นวิธีการรักษาที่ได้รับความนิยมอย่างมาก เนื่องจากไม่ต้องเสียเวลาพักฟื้น สามารถเห็นผลได้ทันที การฉีดฟิลเลอร์ จะเป็นการรักษาโดยการฉีดสารเติมเต็มประเภทไฮยาลูโรนิค แอซิด (Hyaluronic Acid : HA) เข้าสู่บริเวณหน้าผาก ซึ่งฟิลเลอร์จะเข้าไปช่วยแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับการลดริ้วรอยเหี่ยวย่นบนหน้าผาก และช่วยในการปรับรูปหน้าผาก รวมไปถึงยังช่วยให้การแก้ไขหน้าผากแบน หรือหน้าผากบุ๋ม
การฉีดโบท็อก (Botox)
เป็นการรักษาโดยการฉีดสารชนิดหนึ่งที่ชื่อว่า โบทูลินั่ม ท็อกซิน เอ (Botulinum toxin type A) โดยจะฉีดเข้าตรงบริเวณหน้าผาก โดยโบท็อกจะทำให้กล้ามเนื้อหยุดการทำงานชั่วคราว และทำให้กล้ามเนื้อเกิดการเกร็งตัว ส่งผลให้ผิวหนังบริเวณหน้าผากเกิดความกระชับ จึงทำให้ลดริ้วรอยเหี่ยวย่นบริเวณหน้าผากได้ ซึ่งวิธีนี้ก็จะเห็นผลทันทีหลังรับการฉีดโบท็อก
และทั้งหมดนี้ก็คือวิธีลดรอยย่นบนหน้าผาก ริ้วรอยที่มักมากวนใจทั้งคุณผู้ชายและคุณผู้หญิง จนทำให้ขาดความมั่นใจ ทั้งแบบธรรมชาติที่ทำได้ด้วยตนเองและแบบการแพทย์ ซึ่งวิธีที่เห็นผลและรวดเร็วที่สุด มีทั้งการฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก โบท็อก และการร้อยไหม ซึ่งไม่ว่าจะวิธีไหน ก็ควรทำการปรึกษาแพทย์ก่อนทำการตัดสินใจ โดยทาง หมอส้ม หมอเกรซ ทีมแพทย์จาก Mudan Pavilion ยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย