ฟิลเลอร์เกาหลี VS อเมริกา แตกต่างกันอย่างไร? เลือกแบรนด์ไหนดี

• Share on Facebook
• Email this Page
• Share on LINE

เมื่อพูดถึงการดูแลความงามและการลดริ้วรอยในยุคปัจจุบัน ฟิลเลอร์เป็นหนึ่งในวิธีการที่ได้รับความนิยมอย่างมาก ด้วยการเห็นผลลัพธ์ที่ไวและปลอดภัย ซึ่งเรื่องของการเลือกใช้ฟิลเลอร์นั้นไม่เพียงแต่มีผลต่อความสวยงามของใบหน้า เเต่ยังส่งผลต่อความมั่นใจและความรู้สึกดีของบุคคลนั้นด้วย ซึ่งในตลาดฟิลเลอร์ในบ้านเรา มีหลายแบรนด์ที่มาจากหลากหลายประเทศ แต่ที่ได้รับความนิยมในบ้านเราคงหนีไม่พ้นแบรนด์จากประเทศเกาหลีเเละอเมริกา ซึ่งทั้ง 2 แบรนด์ มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ ทั้งเรื่องของการออกแบบ, เทคโนโลยีที่ใช้, ประสิทธิภาพ, ราคา, และเป้าหมายในการรักษา ในบทความนี้ เราจะเจาะลึกเข้าไปในความแตกต่างระหว่างฟิลเลอร์แบรนด์เกาหลีและอเมริกา เพื่อช่วยในการตัดสินใจเลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมที่สุดสำหรับความต้องการของเรา

ฟิลเลอร์คืออะไร ?

ฟิลเลอร์ (Filler) คือ สารเติมเต็มประเภทไฮยาลูโรนิค แอซิด (Hyaluronic Acid : HA) ซึ่งสารประเภทนี้การผลิตขึ้นมาเพื่อเลียนแบบสารที่มีอยู่ภายในร่างกายตามธรรมชาติ ซึ่งจะช่วยทดแทนส่วนสำคัญของโครงสร้างผิวหนัง คอลลาเจน และไฮยาลูรอน ที่มีการสูญเสียเมื่ออายุเพิ่มขึ้น ซึ่งการฉีดฟิลเลอร์ จะช่วยในเรื่องการปรับรูปหน้าให้ดูสวยงามสมส่วน นอกจากนี้ยังช่วยรักษา และแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับหน้าผาก ไม่ว่าจะเป็นหน้าผากยุบ หน้าผากบุ๋ม และหน้าผากแบน รวมไปถึงช่วยในการแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับริ้วรอยบนใบหน้า อาทิเช่น รอยร่องลึก รอยร่องแก้ม หรือใต้ตา และบางสถานบริการก็ยังใช้เทคนิคการฉีดฟิลเลอร์นี้ช่วยในการเสริมโหงวเฮ้งบนใบหน้าอีกด้วย

ประเภทของฟิลเลอร์

ฟิลเลอร์ถูกแบ่งออกเป็น 3 ประเภท ดังนี้

• ฟิลเลอร์เนื้อนิ่ม เนื้อของฟิลเลอร์ชนิดนี้จะมีเนื้อที่ค่อนข้างเหลว มีเนื้อสัมผัสที่เรียบเนียน และมีความยืดหยุ่น แต่ข้อเสียของฟิลเลอร์เนื้อนิ่มจะมีการคงรูปที่ค่อนข้างต่ำ โดยฟิลเลอร์ประเภทนี้ส่วนใหญ่เหมาะสำหรับการฉีดตรงบริเวณผิวหนังที่มีความบาง ไม่ต้องการประมาณ และไม่ต้องการให้เห็นเป็นก้อน อาทิเช่น ฉีดตรงบริเวณใต้ตา ร่องน้ำตา และริมฝีปาก เป็นต้น นอกจากนี้ยังใช้ฉีดสำหรับเพื่อเติมเต็มริ้วรอยเหี่ยวย่น และรอยพับที่ละเอียดอ่อนได้อีกด้วย
• ฟิลเลอร์เนื้อกลาง เนื้อของฟิลเลอร์ชนิดนี้มีเนื้อสัมผัสที่นิ่มกลางๆ และมีความยืดหยุ่น แต่สามารถคงรูปได้ดี โดยฟิลเลอร์ประเภทนี้ส่วนใหญ่เหมาะสำหรับการฉีดให้กับบุคคลที่มีผิวบาง หรือบุคคลที่ไม่ต้องการให้รูปหน้าเกิดการเปลี่ยนแปลงมากเกินไป รวมไปถึงบุคคลที่อยากเติมเต็มให้รูปหน้ามีความเต็มแบบธรรมชาติ ส่งผลให้ใบหน้ามีความละมุน และมีความนุ่มนวลมากขึ้น ซึ่งบริเวณที่นิยมฉีด จะฉีดตรงบริเวณหน้าผาก ขมับ ปาก แก้ม แก้มตอบ ร่องน้ำหมาก และร่องแก้ม
• ฟิลเลอร์เนื้อแข็ง เนื้อของฟิลเลอร์จะมีความหนาแน่นสูง และมีความยืดหยุ่นสูง ซึ่งเวลาทำการฉีดขึ้นทรงจะคงรูปได้ดี โดยฟิลเลอร์ประเภทนี้ส่วนใหญ่เหมาะสำหรับใช้ในการฉีดปรับโครงสร้างของใบหน้า หรือใช้ในการปั้นรูปหน้าให้มีความชัดเจน รวมไปถึงเหมาะกับบุคคลที่มีปัญหาเกี่ยวผิวหนังบนใบหน้าเริ่มห้อย ซึ่งบริเวณที่นิยมฉีดจะเป็นบริเวณหน้าแก้ม ขมับ จมูก และคาง เป็นต้น

ฟิลเลอร์แบรนด์เกาหลี

อย่างที่ทราบกันว่าในปัจจุบันสินค้าจากประเทศเกาหลีเป็นที่นิยมอย่างมากในประเทศเรา ไม่ว่าจะเป็นด้านอาหาร การแต่งกาย ดนตรี รวมไปถึงด้านความสวยความงาม ด้วยเช่นกัน ซึ่งการฉีดฟิลเลอร์ด้วยแบรนด์เกาหลี ก็ถือว่าเป็นที่นิยมที่คนส่วนใหญ่มักจะเลือกฉีด

โดยฟิลเลอร์แบรนด์เกาหลี เป็นฟิลเลอร์ที่ได้มีความปลอดภัยสูง เนื่องจากได้รับการรับรองจาก Korea Food & Drug Administration (KFDA) ที่เป็นหน่วยงานหลักของรัฐบาลเกาหลี โดยฟิลเลอร์เหล่านี้ส่วนใหญ่จะให้เนื้อสัมผัสที่นุ่มนวล และมีความเรียบเนียน ส่งผลให้ได้ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติ ซึ่งส่วนใหญ่นิยมนำไปฉีดเพื่อเติมเต็มรอยร่องลึก หรือริ้วรอย รวมไปถึงการเพิ่มปริมาตรให้กับริมฝีปาก การปรับรูปทรงของจมูก การเสริมโหนกแก้ม และการปรับรูปใบหน้า ส่วนใหญ่แล้วบริเวณที่ฉีด จะเป็นริมฝีปาก จมูก ร่องแก้ม ร่องน้ำหมาก รอยพับระหว่างคิ้ว ใต้ตา ขมับ คาง เป็นต้น ฟิลเลอร์แบรนด์เกาหลีจะมีอายุอยู่ได้นานถึง 12 เดือน

ตัวอย่างฟิลเลอร์แบรนด์เกาหลี ที่ได้รับความนิยมในบ้านเรา

• ฟิลเลอร์ Neuramis เป็นฟิลเลอร์ที่ผ่านการรับรองของ US.FDA และ EDQM ซึ่งถูกผลิตโดยใช้เทคโนโลยีอย่าง Shape Technology ซึ่งตัวฟิลเลอร์จะมีความคงรูป ฉีดแล้วไม่มีการเคลื่อนที่ และไม่มีการจับตัวเป็นก่อน
• ฟิลเลอร์ Yvoire เป็นฟิลเลอร์ที่ผ่านการรับรองของ US.FDA และ EDQM ซึ่งถูกผลิตโดยใช้เทคโนโลยีอย่าง HICE Cross-link ซึ่งจะช่วยในเรื่องการเพิ่มระยะเวลาของการยึดเกาะ ฉีดแล้วให้ความเรียบเนียน และไม่เป็นก้อน

ฟิลเลอร์แบรนด์อเมริกา

หากพูดฟิลเลอร์ที่ได้รับความนิยม และเป็นแบรนด์ที่คนส่วนใหญ่จะเลือกหยิบมาฉีด นั้นคือ ฟิลเลอร์แบรนด์อเมริกาซึ่งเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ได้รับความนิยมในบ้านเรา โดยฟิลเลอร์จากฝั่งอเมริกานี้มีความปลอดภัย และมีประสิทธิภาพ เนื่องจากจะต้องได้รับการทดสอบ และการรับรองจาก Food and Drug Administration (FDA) ของประเทศสหรัฐอเมริกา

โดยฟิลเลอร์แบรนด์อเมริกา จะมีเนื้อฟิลเลอร์ที่มีความยืดหยุ่น และมีความคงทนสูง ส่วนใหญ่จึงนิยมฉีดเพื่อแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับริ้วรอย และรอยร่องลึกได้อย่างเป็นธรรมชาติ นอกจากนี้ยังช่วยในเรื่องการเพิ่มมิติให้กับใบหน้า การปรับรูปหน้า และการเสริมโหนกแก้ม เป็นต้น บริเวณที่นิยมฉีด ได้แก่ รอยร่องแก้ม รอยพับระหว่างคิ้ว ริมฝีปาก คาง ขมับ ใต้ตา โหนกแก้ม จมูก และหน้าผาก  ฟิลเลอร์แบรนด์อเมริกาจะอยู่ได้นานถึง 2 ปี

ตัวอย่างฟิลเลอร์แบรนด์อเมริกา ที่ได้รับความนิยมในบ้านเรา

ความแตกต่างระหว่างฟิลเลอร์แบรนด์เกาหลีและอเมริกา

ตารางความแตกต่างระหว่างฟิลเลอร์แบรนด์เกาหลีและอเมริกาสามารถแบ่งออกเป็นหลายด้านต่างๆ ซึ่งสามารถเปรียบเทียบกันได้ดังนี้

ลักษณะ	ฟิลเลอร์แบรนด์เกาหลี	ฟิลเลอร์แบรนด์ยุโรป
ส่วนประกอบหลัก	HA กรดไฮยาลูโรนิก	HA กรดไฮยาลูโรนิก
ความเข้มข้น	ปานกลางถึงสูง	สูง
ราคา	ถูกกว่า	แพงกว่า
เหมาะสำหรับ	เติมเต็มร่องลึก ปรับรูปหน้า	เติมเต็มร่องลึก ปรับรูปหน้า เสริมโหนกแก้ม
ผลลัพธ์	ให้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติและนุ่มนวล	ให้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ เด่นชัดและคงทน
ระยะเวลาคงผลลัพธ์	6-12 เดือน	1-2 ปี

การเลือกใช้ฟิลเลอร์ที่เหมาะสมที่สุดขึ้นอยู่กับความต้องการและความพึงพอใจของแต่ละบุคคล โดยควรพิจารณาประสิทธิภาพของผลลัพธ์ ความปลอดภัย และคุณภาพของสารเติมที่ใช้ในการผลิตฟิลเลอร์ให้เหมาะสมกับความต้องการของผู้ใช้

ฟิลเลอร์แบรนด์ไหนดีกว่ากัน

สรุป

อย่างที่ทราบกันในปัจจุบันนี้มีฟิลเลอร์มากมายหลายแบรนด์ ไม่ใช่แค่แบรนด์เกาหลี หรือแบรนด์อเมริกา (ยุโรป) โดยทุกแบรนด์มีจุดหมายในการช่วยแก้ไขปัญหาในด้านต่างๆ อาทิเช่นการปรับรูปหน้า การเติมเต็มริ้วรอยร่องลึก หรือการเสริมโหงวเฮ้งให้กับใบหน้า ดังนั้นเพื่อความปลอดภัย ลดความเสี่ยงที่จะเกิดผลข้างเคียง และเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี ผู้ที่จะทำการฉีดควรมีการเข้าพบแพทย์เพื่อขอคำปรึกษา และของคำแนะนำจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ นอกจากนี้ควรเลือกคลินิก หรือสถานพยาบาลที่ได้มาตรฐาน และควรเลือกฉีดฟิลเลอร์ที่เป็นของแท้เท่านั้น