ฟิลเลอร์ปรับโครงหน้า คืออะไร ? กับแก้ไขปรับรูปหน้าให้สมส่วน

ฟิลเลอร์ปรับโครงหน้า คืออะไร

ฟิลเลอร์ปรับโครงหน้าเป็นเทคนิคทางการแพทย์ที่ใช้ในการปรับเปลี่ยนและปรับรูปหน้าให้สมส่วน โดยการฉีดฟิลเลอร์ซึ่งเป็นสารที่ช่วยเพิ่มปริมาตรและเติมเต็มพื้นที่ที่ขาดหายไป ช่วยให้ใบหน้าดูเรียบเนียนและมีมิติที่ดีขึ้น กระบวนการนี้ไม่เพียงแต่ช่วยเสริมความงามให้กับใบหน้า แต่ยังสามารถแก้ไขรูปหน้าในกรณีที่มีปัญหาเช่น ร่องลึก หรือรูปหน้าไม่สมส่วนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ฟิลเลอร์ปรับโครงหน้า

ฉีดฟิลเลอร์ปรับโครงหน้า คืออะไร ?

การฉีดฟิลเลอร์ปรับโครงหน้า เป็นการฉีดสารเติมเต็มประเภทไฮยาลูรอนิก แอซิด (Hyaluronic acid) ซึ่งเป็นสารที่เกิดขึ้นภายในร่างกายของมนุษย์ตามธรรมชาติ โดยใช้เป็นประเภทโมเลกุลใหญ่ เพื่อใช้สำหรับเติมเต็มและแก้ไขปัญหาโครงสร้างใบหน้าที่ขาดหายไป หรือเติมเต็มใบหน้าที่ไม่สมส่วน เพื่อให้ใบหน้าดูมีมิติและตรงตามโหงวเฮ้งใบหน้า

ลักษณะใบหน้าที่สมส่วน

การมีสัดส่วนใบหน้าที่ดีหรือสมส่วน หมายถึง การมีใบหน้าที่มีความสมมาตร อวัยวะบนใบหน้ามีขนาด และตำแหน่งที่เหมาะสม ซึ่งอัตราส่วนที่ดีมักจะถูกเรียกว่า “อัตราส่วนทองคำ” หรือ “Golden Ratio” โดยจะมีลักษณะดังนี้

  • ความยาวของใบหน้า ใบหน้าควรมีความยาวมากกว่าความกว้างของใบหน้าประมาณ 1.5 เท่า โดยให้วัดจากไรผม จนถึงคาง
  • ความกว้างของใบหน้า ใบหน้าควรแบ่งออกได้เป็น 3 ส่วนที่เท่ากัน โดยแต่ละส่วนควรมีความกว้างที่เท่ากับความกว้างของดวงตา ซึ่งวัดจากโหนกแก้มด้านซ้ายไปจนถึงโหนกแก้มด้านขวา
  • ความยาวของดวงตา ดวงตาควรมีความยาวประมาณ 1/5 ของความกว้างใบหน้า ซึ่งจะวัดจากหัวตาถึงหางตา
  • ระยะห่างระหว่างดวงตา ควรมีความกว้างประมาณ 1 ดวงตา
  • ความยาวของจมูก จมูกควรมีความยาวประมาณ 1/3 ของความยาวใบหน้า ซึ่งจะวัดจากสันจมูกถึงปลายจมูก
  • ความกว้างของจมูก จมูกควรมีความกว้างประมาณ 1/3 ของความกว้างใบหน้า
  • ความยาวของริมฝีปาก ริมฝีปากควรมีความยาวประมาณ 1/5 ของความยาวใบหน้า ซึ่งจะวัดจากรอยบุ๋มใต้ริมฝีปากบนจนถึงรอยบุ๋มใต้ริมฝีปากล่าง
  • ความกว้างของริมฝีปาก ควรมีความกว้างประมาณ 1/2 ของความกว้างจมูก
  • ความยาวของคาง คางควรมีความยาวประมาณ 1/6 ของความยาวใบหน้า ซึ่งจะวัดจากปลายคางจนถึงใต้ริมฝีปากล่าง

ซึ่งหากบุคคลใดมีใบหน้าที่ตรงกับอัตราส่วนทองคำ ตามศาสตร์โหงวเฮ้งใบหน้าของจีน จะถือว่าเป็นบุคคลที่มีสติปัญญา มีความคิดสร้างสรรค์ เป็นบุคคลที่มีความสามารถ มีความเป็นผู้นำ มีอายุยืน มีสุขภาพที่ดี มีโชคลาภ มีความมั่นคง และประสบความเสร็จในชีวิต เป็นต้น

ฟิลเลอร์ปรับโครงหน้า ช่วยเรื่องอะไร ?

การฉีดฟิลเลอร์ปรับโครงหน้า สามารถช่วยแก้ปัญหาต่างๆ บนใบหน้าได้มากมาย ดังนี้

  • ช่วยแก้ไขรูปหน้าให้ดูสมส่วน เช่น การเติมคางให้ยาวขึ้น การเติมโหนกแก้มให้ดูมีมิติ และการเติมหน้าผากให้โหนกนูนไม่เรียบแบน ส่งผลให้ใบหน้าดูสมส่วน สวยงามมากขึ้น
  • ช่วยแก้ปัญหาเรื่องริ้วรอย โดยฟิลเลอร์จะเข้าไปช่วยเติมเต็มริ้วรอยร่องลึกต่าง ๆ บนใบหน้า เช่น รอยร่องแก้ม ร่องน้ำหมาก และร่องใต้ตา จึงทำให้ผิวหนังมีความเรียบเนียนขึ้น
  • ช่วยยกกระชับผิวหนังบนใบหน้าที่มีความหย่อนคล้อย เช่น ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก โหนกแก้ม และคาง ทำให้ใบหน้าดูเรียวสวย
  • ช่วยแก้ปัญหาเกี่ยวกับรอยคล้ำใต้ตา ทำให้ใบหน้าดูสดใสมากขึ้น
  • ช่วยเติมเต็มริมฝีปากให้ดูอวบอิ่ม สมส่วนขึ้น ส่งผลให้ใบหน้าดูมีเสน่ห์
  • ช่วยในเรื่องการเสริมโหงวเฮ้งบนใบหน้า และยังช่วยเสริมสร้างความมั่นใจด้านภาพลักษณ์

ฟิลเลอร์ปรับโครงหน้า เหมาะกับใคร ?

การฉีดฟิลเลอร์ปรับโครงหน้า เหมาะกับบุคคลดังต่อไปนี้

  • บุคคลที่ต้องการแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับรูปหน้าที่ไม่สมส่วน ใบหน้าไม่เท่ากัน
  • บุคคลที่ต้องการยกกระชับผิวหนังใบหน้าที่มีความหย่อนคล้อย
  • บุคคลที่ต้องการแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับรอยคล้ำใต้ตา
  • บุคคลที่ต้องการแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับริ้วรอย ร่องลึก เช่น รอยร่องแก้ม ร่องน้ำหมาก และร่องใต้ตา
  • บุคคลที่ต้องการเติมเต็มในจุดต่างๆ บนใบหน้า เช่น การเติมริมฝีปากให้ดูอวบอิ่ม หรือการเติมจมูกให้มีความโด่ง เป็นต้น
  • บุคคลที่ต้องการเสริมโหงวเฮ้งบนใบหน้า และต้องการเสริมสร้างความมั่นใจให้กับตนเอง

12 จุดฉีดฟิลเลอร์ปรับโครงหน้า

การฉีดฟิลเลอร์กลายเป็นหนึ่งในตัวเลือกยอดนิยมสำหรับการปรับโครงหน้า เสริมโหงวเฮ้ง และเพิ่มความมั่นใจให้กับหลายๆ คน เพราะสามารถช่วยเติมเต็มริ้วรอย แก้ไขรูปหน้าที่ไม่สมส่วน ไม่เท่ากัน และเสริมจุดเด่นบนใบหน้าให้ชัดเจนขึ้น โดยการปรับโครงหน้านี้สามารถฉีดฟิลเลอร์ได้ถึง 12 จุดด้วยกัน ดังนี้

1. บริเวณหน้าผากการฉีดฟิลเลอร์หน้าผากช่วยแก้ปัญหาหน้าผากแบนหรือยุบ ทำให้หน้าผากดูมนสวยและเพิ่มมิติให้ใบหน้า นอกจากนี้ยังช่วยลดริ้วรอยบริเวณหน้าผาก ทำให้ผิวเรียบเนียนและเสริมโหงวเฮ้งได้อีกด้วย
2. บริเวณขมับการฉีดฟิลเลอร์ขมับช่วยแก้ปัญหาขมับตอบและโหนกแก้มสูง ทำให้ขมับดูเต็มขึ้นและโหนกแก้มที่สูงเด่นน้อยลง นอกจากนี้ยังช่วยยกหางตาและหางคิ้วที่ตก ทำให้ใบหน้าดูกระชับและสวยสมส่วน การมีขมับที่เต็มยังเสริมโหงวเฮ้งด้านความรัก การค้า และเพิ่มความมั่นใจอีกด้วย
3. บริเวณใต้ตาการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาช่วยแก้ปัญหาตาโหล เบ้าตาลึก ร่องใต้ตา และถุงไขมันใต้ตา ทำให้ใต้ตาดูสดใสและใบหน้าอ่อนวัย นอกจากนี้ยังช่วยลดรอยคล้ำและกระชับถุงใต้ตาได้อีกด้วย
4. บริเวณแก้มส้มการฉีดฟิลเลอร์แก้มส้ม จะเป็นการฉีดตรงบริเวณพวงแก้ม ที่จะอยู่กึ่งกลางของใบหน้า หลังจากการฉีดจะทำให้แก้มดูเต็มอิ่ม และทำให้ใบหน้าดูเด็กมากขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยให้ความหย่อนคล้อยของแก้มหายไป และยังช่วยเรื่องริ้วรอยบริเวณรอบ ๆ แก้ม เช่น ร่องแก้ม หรือร่องน้ำหมาก เป็นต้น
5. บริเวณแก้มตอบการฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบช่วยแก้ปัญหาแก้มตอบ โดยฟิลเลอร์จะพยุงเส้นเอ็นที่ยึดกับหน้า ทำให้ใบหน้าไม่โทรม ดูอ่อนวัย แก้มเต็มขึ้น และผิวหนังบริเวณร่องใต้โหนกแก้มเรียบเนียนขึ้น แก้มดูเข้ารูปและสวยงามสมส่วน
6. บริเวณจมูกการฉีดฟิลเลอร์จมูก เป็นการฉีดเพื่อช่วยในการปรับรูปทรงของจมูก เช่น ต้องการให้มีสันจมูก หรือต้องการให้ปลายจมูกดูพุ่งแบบธรรมชาติ เป็นต้น
7. บริเวณฐานจมูกเป็นอีกหนึ่งจุดที่การฉีดฟิลเลอร์ปรับโครงหน้า ห้ามมองข้ามเลย เพราะการฉีดฟิลเลอร์ฐานจมูก ที่อยู่ตรงฐานของปีกจมูก บริเวณเหนือร่องแก้ม จะช่วยให้หน้าดูอ่อนวัยรวมไปถึงยังช่วยให้ริ้วรอยดูจางลง ซึ่งการฉีดฐานจมูกมักจะควบคู่กับการฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม
8. บริเวณร่องแก้มการฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม เป็นการฉีดเพื่อแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับรอยร่องแก้มลึก และช่วยแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับรอยพับที่ร่องแก้ม ซึ่งหลังจากการฉีดจะทำให้ร่องแก้มมีความตื้นขึ้น และทำให้ใบหน้าดูเด็ก รวมไปถึงยังช่วยให้ริ้วรอยดูจางลงอีกด้วย
9. บริเวณร่องน้ำหมากการฉีดฟิลเลอร์ร่องน้ำหมาก เป็นการฉีดฟิลเลอร์ตรงบริเวณร่องลึกตรงมุมปาก ซึ่งการฉีดฟิลเลอร์จะช่วยให้ร่องน้ำหมากมีความตื้นขึ้น และช่วยยกผิวหนังตรงบริเวณมุมปาก เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีเยี่ยม และเป็นธรรมชาติ ควรฉีดควบคู่กับฟิลเลอร์ร่องแก้ม
10. บริเวณปากการฉีดฟิลเลอร์ปากช่วยเติมเต็มและแก้ไขปัญหามุมปากตก ริมฝีปากบาง หรือปากไม่ได้รูป ทำให้ริมฝีปากดูอวบอิ่ม ชุ่มชื้น และเรียบเนียน นอกจากนี้ยังช่วยปรับรูปทรงริมฝีปากให้เข้ากับใบหน้าอย่างสมบูรณ์
11. บริเวณคางการฉีดฟิลเลอร์คาง เป็นการฉีดเพื่อแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับ คางไม่ได้รูป คางเบี้ยว คางสั้น คางตัดหรือคางบุ๋ม เป็นต้น ฟิลเลอร์สามารถปั้นรูปทรงคางให้เข้ากับรูปหน้าได้ และช่วยให้ใบหน้าดูมีมิติ รวมไปถึงทำให้ใบหน้ามีความเรียวสวย สมส่วนแบบธรรมชาติ และยังส่งเสริมให้ใบหน้ามีความหวานมากขึ้น
12. บริเวณกรอบหน้าการฉีดฟิลเลอร์กรอบหน้า เป็นการฉีดเพื่อแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับใบหน้าที่หย่อนคล้อย กรอบรูปหน้าไม่ชัดเจน และกรามไม่คม หลังจากการฉีดจะช่วยให้โครงหน้ามีความชัดขึ้น และช่วยให้กรอบหน้าดูกระชับ รวมไปถึงทำให้โครงหน้ามีความเรียวสวย และมีมิติมากยิ่งขึ้น

ฉีดฟิลเลอร์ปรับโครงหน้า ที่ไหนดี ?

สิ่งสำคัญคือการเลือกหาคลินิกที่มีความน่าเชื่อถือ ซึ่งหลายคนก็คงจะหนักใจไม่น้อยเมื่อในปัจจุบันเกิดคลินิกเสริมความงามขึ้นมาเยอะแยะมากมาย ที่อาจมีคลินิกเถื่อนแฝงตัวอยู่ จุดสังเกตสามารถเช็คได้จากปัจจัยเหล่านี้

  • เลือกคลินิกที่มีรีวิวเยอะหลากหลายรูปแบบ
    ไม่แนะนำให้ดูแค่รูปภาพเปรียบเทียบก่อนหลังเพียงอย่างเดียว เพราะภาพเหล่านี้สามารถตกแต่งขึ้นมาได้อย่างง่ายดาย ดังนั้นสิ่งที่ดีที่สุดคือควรเช็คจากคลิปวิดีโอ สร้างความน่าเชื่อถือของบริการนั้นๆ ได้
  • เลือกคลินิกที่มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการปรับรูปหน้า หรือ อาจารย์แพทย์
    เราสามารถอิงได้จากเคสรีวิวของผู้ที่เคยเข้ามาใช้บริการ ว่าแพทย์ที่ดูแลเคสนี้มีการปรับรูปหน้าแล้วเกิดผลลัพธ์ที่ดีขึ้นมากน้อยแค่ไหน ซึ่งแพทย์ประจำคลินิกก็ควรเป็นแพทย์ที่มีใบวิชาชีพและผ่านการรับรองมาอย่างถูกต้อง คนไข้สามารถเช็กได้จากเว็บไซต์ของแพทยสภา นอกจากนี้เทคนิคที่แพทย์เลือกใช้จะต้องเหมาะสมกับปัญหาที่เกิดขึ้นกับใบหน้าของคนไข้
  • เลือกคลินิกที่มีการเปิดให้บริการอย่างถูกต้องตามกฎหมาย
    คลินิกเหล่านั้นจะต้องมีป้ายเลขที่ใบอนุญาต 11 หลัก ป้ายชื่อคลินิกติดอย่างชัดเจน และสามารถตรวจสอบเลขที่ใบอนุญาตได้ทั้งผู้ดำเนินการสถานพยาบาล และผู้อนุญาตเปิดสถานพยาบาล
  • เลือกคลินิกที่ใช้ผลิตภัณฑ์แท้ และอุปกรณ์ที่ได้มาตรฐาน
    คลินิกจะต้องนำเข้าผลิตภัณฑ์ที่เป็นของแท้ ได้มาตรฐานและผ่านการรับรองจาก อย. เพื่อผลลัพธ์ที่มีความปลอดภัยต่อผู้เข้ารับบริการ โดยแพทย์ควรมีการแกะกล่องใหม่ หรือบรรจุภัณฑ์ต่อหน้าคนไข้ทุกครั้ง นอกจากนี้ยังสามารถขอนำกล่องหรือบรรจุภัณฑ์ไปตรวจสอบแหล่งที่มาได้
  • เลือกคลินิกที่มีการนัดติดตามผลหลังทำ
  • ควรมีการนัดติดตามผลเพื่อเช็คอาการกับคนไข้อย่างใกล้ชิดในทุก ๆ เคส พร้อมให้คำแนะนำเกี่ยวกับการดูแลตัวเองหลังทำอย่างถูกต้อง และควรมีช่องทางการติดต่อที่คนไข้สามารถพูดคุยสอบถามเพิ่มเติมได้ตลอดเวลา