ปัญหาใบหน้าไม่เท่ากัน เกิดจากอะไร? พร้อมวิธีปรับรูปหน้าให้สมส่วน

ปัญหาใบหน้าไม่เท่ากัน

เมื่อมองดูใบหน้าของเราในกระจกหรือรูปถ่าย บางครั้งเราอาจพบว่าส่วนต่างๆ ของใบหน้าไม่เท่ากันหรือไม่สมดุลกัน ซึ่งส่วนใหญ่เกิดได้จากหลายปัจจัยทั้งภายนอกและภายในร่างกาย เป็นปัญหาที่มีผลกระทบต่อความมั่นใจและรูปร่างของบุคคลได้มาก เพื่อให้ผู้อ่านหรือผู้ที่สนใจจะปรับรูปหน้าเข้าใจเกี่ยวกับปัญหานี้ บทความนี้จะมาไขข้อสงสัยรวมถึงปัญหาที่เกิดขึ้น พร้อมวิธีการแก้ไขและการป้องกัน

ใบหน้าไม่เท่ากัน เกิดจากอะไร ?

ใบหน้าไม่เท่ากัน เป็นปัญหาที่พบบ่อย สังเกตได้จากหลายส่วน เช่น โหนกแก้ม คาง แก้ม หรือรูปปาก ที่มีความแตกต่างกันระหว่างสองข้าง สาเหตุหลักๆ ที่ทำให้ใบหน้าไม่เท่ากัน สามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุ ดังนี้

  • กรรมพันธุ์ เป็นสาเหตุที่สามารถพบเห็นได้บ่อยที่สุด ที่เกิดจากการพัฒนาของโครงสร้างใบหน้าที่มีมาตั้งแต่กำเนิด โดยพันธุกรรมจะส่งผลต่อรูปร่างของกระดูก และเนื้อเยื่อบนใบหน้า อาทิเช่น โหนกแก้ม คาง แก้ม ที่ทำให้ใบหน้าทั้งสองข้างมีความแตกต่างกัน ซึ่งหากมีบุคคลในครอบครัวมีใบหน้าที่ไม่เท่สกัน ก็อาจจะมีโอกาสที่จะส่งต่อทางพันธุกรรม
  • อายุ อย่างที่ทราบกันเมื่อคนเรามีอายุที่เพิ่มมากขึ้น กล้ามเนื้อ และกระดูกบนใบหน้าจะเริ่มมีความหย่อนคล้อย และมีการสูญเสียความยืดหยุ่น ซึ่งส่งผลให้เกิดริ้วรอย รอยร่องลึก และความไม่สมส่วนของใบหน้า
  • การเติบโตของกระดูก เนื่องจากกระดูกของแต่ละส่วนบนใบหน้ามีอัตราการเจริญเติบโตที่ไม่เท่ากัน ซึ่งกระดูกบางส่วนอาจจุมีการหยุดพัฒนา ในขณะที่บางส่วนยังคงเจริญเติบโตต่อไป ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของใบหน้าที่ไม่สมดุล
  • อุบัติเหตุ การเกิดอุบัติเหตุที่ส่งผลกระทบร้ายแรงต่อใบหน้า อาทิเช่น กระดูกหัก ฟันหัก และกล้ามเนื้อใบหน้าฉีดขาด โดยสาเหตุข้างต้นจะส่งผลต่อความไม่สมดุลของใบหน้า
  • โรคบางชนิด อาทิเช่นโรคปากเบี้ยว โรคคอเอียง โรคไทรอยด์ และฮอร์โมนที่ไม่สมดุล เป็นต้น อาจจะส่งผลต่อกล้ามเนื้อ และเส้นประสาทบนใบหน้า จนทำให้ใบหน้าไม่เท่ากัน หรือมีความเบี้ยว
  • พฤติกรรมการใช้ชีวิต อาทิเช่นการนอนตะแคง การนอนคว่ำ การนอนทับใบหน้าเป็นเวลานาน และการเคี้ยวอาหารด้านใดด้านหนึ่ง โดยสาเหตุที่กล่าวมาล้วนส่งผลต่อรูปร่างของใบหน้าในระยะยาว
  • ผ่าตัดศัลยกรรม การผ่าตัดศัลยกรรมบางอย่าง เช่นการผ่าตัดขากรรไกร การผ่าตัดเสริมคาง และการผ่าตัดเสริมจมูก ซึ่งอาจส่งผลต่อความไม่สมส่วนของใบหน้า

สัดส่วนใบหน้าที่ดี

การมีสัดส่วนใบหน้าที่ดี หมายถึง การมีใบหน้าที่มีความสมมาตร อวัยวะบนใบหน้ามีขนาด และตำแหน่งที่เหมาะสม ซึ่งอัตราส่วนที่ดีมักจะถูกเรียกว่า “อัตราส่วนทองคำ” หรือ “Golden Ratio” โดยจะมีลักษณะดังนี้

  • ความยาวของใบหน้า ใบหน้าควรมีความยาวมากกว่าความกว้างของใบหน้าประมาณ 1.5 เท่า โดยให้วัดจากไรผม จนถึงคาง
  • ความกว้างของใบหน้า ใบหน้าควรแบ่งออกได้เป็น 3 ส่วนที่เท่ากัน โดยแต่ละส่วนควรมีความกว้างที่เท่ากับความกว้างของดวงตา ซึ่งวัดจากโหนกแก้มด้านซ้ายไปจนถึงโหนกแก้มด้านขวา
  • ความยาวของดวงตา ดวงตาควรมีความยาวประมาณ 1/5 ของความกว้างใบหน้า ซึ่งจะวัดจากหัวตาถึงหางตา
  • ระยะห่างระหว่างดวงตา ควรมีความกว้างประมาณ 1 ดวงตา
  • ความยาวของจมูก จมูกควรมีความยาวประมาณ 1/3 ของความยาวใบหน้า ซึ่งจะวัดจากสันจมูกถึงปลายจมูก
  • ความกว้างของจมูก จมูกควรมีความกว้างประมาณ 1/3 ของความกว้างใบหน้า
  • ความยาวของริมฝีปาก ริมฝีปากควรมีความยาวประมาณ 1/5 ของความยาวใบหน้า ซึ่งจะวัดจากรอยบุ๋มใต้ริมฝีปากบนจนถึงรอยบุ๋มใต้ริมฝีปากล่าง
  • ความกว้างของริมฝีปาก ควรมีความกว้างประมาณ 1/2 ของความกว้างจมูก
  • ความยาวของคาง คางควรมีความยาวประมาณ 1/6 ของความยาวใบหน้า ซึ่งจะวัดจากปลายคางจนถึงใต้ริมฝีปากล่าง

ซึ่งหากบุคคลใดมีใบหน้าที่ตรงกับอัตราส่วนทองคำ ตามศาสตร์โหงวเฮ้งใบหน้าของจีน จะถือว่าเป็นบุคคลที่มีสติปัญญา มีความคิดสร้างสรรค์ เป็นบุคคลที่มีความสามารถ มีความเป็นผู้นำ มีอายุยืน มีสุขภาพที่ดี มีโชคลาภ มีความมั่นคง และประสบความเสร็จในชีวิต เป็นต้น

ปัญหาหน้าไม่เท่ากัน อันตรายไหม ?

การที่บุคคลใดบุคคลหนึ่งมีปัญหาเกี่ยวกับใบหน้าที่ไม่เท่ากัน ไม่ได้เป็นอันตรายต่อร่างกาย หรือชีวิตกับบุคคลนั้น แต่มันจะส่งผลต่อความมั่นใจ บุคลิกภาพ โหงวเฮ้ง และอาจส่งผลต่อการใช้ชีวิตในบางกรณี อาทิเช่น

  • การถูกบุคคลอื่นทัก หรือล้อเลียน ที่อาจจะส่งผลต่อความมั่นใจ
  • การสูญเสียความมั่นใจ จนทำให้เกิดการหลีกเลี่ยงการเข้าสังคม
  • การสูญเสียความน่าเชื่อถือทางด้านการงาน อาทิเช่น บุคคลที่เป็นพนักงานต้อนรับ พนักงานขาย เป็นต้น

การป้องกันการเกิดใบหน้าไม่เท่ากัน

การเกิดปัญหาเกี่ยวกับใบหน้าที่ไม่เท่ากัน อาจจะส่งผลเสียให้กับบุคคลนั้น ไม่ว่าจะทำให้สูญเสียความมั่นใจทางด้านภาพลักษณ์ หรือขาดความน่าเชื่อถือทางด้านการทำงาน แต่ไม่ต้องกังวลใจไป ปัญหาเหล่านี้สามารถป้องกันได้ ดังนี้

  • ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการนอน พยายามนอนหงาย หลีกเลี่ยงการนอนตะแคงข้างใดข้างหนึ่งเป็นเวลานาน เนื่องจากการนอนตะแคงเป็นเวลานานหรือเป็นประจำ จะส่งผลต่อรูปหน้า กล้ามเนื้อใบหน้า และบริเวณหนังศีรษะ
  • หลีกเลี่ยงการเคี้ยวอาหารข้างเดียว ควรมีการฝึกเคี้ยวอาหารทั้งสองข้าง จะช่วยให้กล้ามเนื้อใบหน้าทำงานสมดุล และช่วยป้องกันใบหน้าเบี้ยว
  • ฝึกบริหารกล้ามเนื้อบริเวณใบหน้า เช่นการอ้าปาก หรือการพูดเสียงอา อู อี เพื่อให้กล้ามเนื้อทุกส่วนได้มีการขยับ
  • การทำทรีทเม้นบำรุงผิวหน้าอยู่เป็นประจำ เพื่อที่จะทำให้ผิวหนังบริเวณใบหน้ามีความแข็งแรง และไม่ให้เกิดความหย่อนคล้อยได้ง่าย
  • หลีกเลี่ยงการใช้โทรศัพท์เป็นเวลานาน การก้มหน้าเล่นโทรศัพท์เป็นเวลานาน จะทำให้กล้ามเนื้อคอ และใบหน้าตึง ส่งผลต่อความสมมาตรของใบหน้า

5 วิธีปรับรูปหน้าให้เท่ากันด้วยวิธีทางการแพทย์

อย่างที่ทราบกันการเกิดปัญหารูปหน้าไม่เท่ากัน มีสาเหตุมาจากหลายปัจจัย อาทิเช่นพันธุกรรม อายุที่เพิ่มมากขึ้น การเจริญเติบโตของกระดูก หรือจากอุบัติเหตุ เป็นต้น ซึ่งการมีรูปหน้าที่ไม่เท่ากัน ทำให้เกิดผลกระทบมากมาย เช่นสูญเสียความน่าเชื่อถือ สูญเสียความมั่นใจ หรือทำให้เกิดผลกระทบต่อจิตใจ ซึ่งแนวทางการปรับรูปหน้าให้เท่ากันด้วยวิธีทางการแพทย์เป็นการใช้เทคโนโลยีและเทคนิคทางการแพทย์เพื่อปรับปรุงรูปร่างและความสมมาตรของหน้านั้นมีดังนี้

  • การรักษาทันตกรรม อย่างเช่นการจัดฟัน จะช่วยแก้ไขให้ฟันไม่ยื่น และฟันล้ม ซึ่งจะช่วยให้โครงสร้างของใบหน้าเกิดความสมดุล
  • การฉีดโบท็อกซ์ เป็นการแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับใบหน้าที่ไม่เท่ากัน ที่มีสาเหตุมาจากกล้ามเนื้อตรงบริเวณกรามที่ใหญ่ไม่เท่ากัน โดยแพทย์จะทำการฉีดโบท็อกซ์ เพื่อลดการทำงานของกล้ามเนื้อกราม ซึ่งจะทำให้ใบหน้าทั้งสองข้างมีความเรียว และจะทำให้ใบหน้ามีความสมดุลมากขึ้น
  • การฉีดฟิลเลอร์ เป็นการแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับใบหน้าไม่เท่ากัน ที่มีสาเหตุมาจากเนื้อเยื่อตรงนั้นไม่เท่ากัน โดยแพทย์จะทำการฉีดสารเติมเต็มเข้าไปตรงบริเวณที่เกิดปัญหา ซึ่งฟิลเลอร์จะเข้าไปช่วยเพิ่มเนื้อเยื่อ ทำให้ใบหน้าเกิดความสมดุล และมีใบหน้าที่ดูอุดมสมบูรณ์ ซึ่งวิธีนี้หลังเข้ารับการรักษาจากแพทย์จะเห็นผลได้ทันที และใช้เวลาพักฟื้นที่ไม่นาน
  • การร้อยไหม เป็นการแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับใบหน้าไม่เท่ากัน ที่มีสาเหตุมาจากแก้มที่เกิดความหย่อนคล้อย หรือไขมันที่เกิดการสะสม โดยแพทย์จะมีการใช้ไหมละลายร้อยเข้าไปยังใต้ผิวหนัง เพื่อช่วยในการยกกระชับแก้มให้เข้ารูป ส่งผลให้ใบหน้ามีความเต่งตึง และเกิดความสมดุลมากยิ่งขึ้น
  • การผ่าตัด เป็นการแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับใบหน้าไม่เท่ากัน ที่มีสาเหตุมาจากโครงสร้างของกระดูก หรือกล้ามเนื้อที่มีความผิดปกติ อาทิเช่นโหนกแก้มไม่เท่ากัน หรือขากรรไกรมีความเบี้ยว เป็นต้น ซึ่งแพทย์จะทำการผ่าตัดเพื่อทำการปรับโครงสร้างของกระดูก หรือผ่าตัดกล้ามเนื้อให้มีความเท่ากัน ส่งผลให้ใบหน้ามีความสมดุล สมส่วนมากขึ้น โดยวิธีนี้จะใช้การพักฟื้นที่ยาวนานกว่าวิธีอื่นๆ

โดยทั้งนี้ควรปรึกษาแพทย์หรือนักเสริมความงามที่เชี่ยวชาญในด้านนี้เพื่อข้อเสนอแนะและแผนการรักษาที่เหมาะสมกับความต้องการและสภาพของผิวหน้าของแต่ละบุคคล ซึ่งทาง หมอส้ม หมอเกรซ และทีมแพทย์ Mudan Pavilion ยินดีให้คำปรึกษาฟรี