ฟิลเลอร์น้องสาว (Vagina Filler) กำลังเป็นที่สนใจในหมู่สาวๆ ที่อยากเพิ่มความมั่นใจในจุดซ่อนเร้น ช่วยให้น้องสาวดูอวบอิ่ม นูนสวย และกระชับขึ้น แต่หลายคนอาจสงสัยว่า ก่อน-หลังฉีดฟิลเลอร์น้องสาว ต้องดูแลตัวเองอย่างไร และมีข้อห้ามอะไรบ้าง โดยเฉพาะคำถามยอดฮิตอย่าง “มีเซ็กส์ได้ไหม?” บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักขั้นตอนการเตรียมตัวก่อนฉีด และวิธีดูแลหลังฉีดอย่างถูกต้อง เพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาสวยเป๊ะและปลอดภัยที่สุด
การดูแลก่อน-หลังฉีดฟิลเลอร์น้องสาว
- ฟิลเลอร์น้องสาว คือ
- ข้อปฏิบัติก่อนฉีดฟิลเลอร์น้องสาว
- ข้อปฏิบัติหลังฉีดฟิลเลอร์น้องสาว
- คำถามที่พบบ่อย
ฟิลเลอร์น้องสาว คือ
ฟิลเลอร์น้องสาว (Vaginal filler) หรือจุดซ่อนเร้น คือ การฉีดสารเติมเต็มประเภทไฮยาลูรอนิกแอซิด (Hyaluronic Acid – HA) ซึ่งเป็นสารที่สามารถพบได้ตามธรรมชาติในร่างกาย มาฉีดตรงบริเวณจุดซ่อนเร้น เช่น หัวหน่าว แคมเล็ก แคมใหญ่ หรือบริเวณช่องคลอด หลังจากการฉีดฟิลเลอร์จะช่วยเพิ่มขนาด และทำให้บริเวณที่ทำการฉีดมีความอิ่มฟู ดูเป็นธรรมชาติ นอกจากนี้ยังช่วยเติมเต็มน้องสาวให้อยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ ไม่เหี่ยวย่น ไม่หมองคล้ำ ทำให้มีรูปทรงสวยงาม ดูอ่อนเยาว์ และทำให้เกิดความกระชับ ฟิลเลอร์น้องสาวมีผลลัพธ์ที่อยู่ได้ประมาณ 8 เดือน – 1 ปี ขึ้นอยู่กับยี่ห้อที่ฉีดและการดูแลหลังจากการทำ
ข้อปฏิบัติก่อนฉีดฟิลเลอร์น้องสาว
อย่างที่ทราบกัน การฉีดฟิลเลอร์น้องสาวเป็นการฉีดสารเติมเต็มเข้าตรงบริเวณจุดซ่อนเร้น เช่น หัวหน่าว แคมเล็ก แคมใหญ่ หรือบริเวณช่องคลอด โดยจะช่วยเพิ่มขนาด ทำให้เกิดความอิ่มฟู ช่วยเติมเต็มน้องสาวให้มีสภาพที่สมบูรณ์ รูปทรงดูสวยงาม มีความกระชับ ไม่เหี่ยวย่น ไม่หมองคล้ำ และทำให้ดูอ่อนเยาว์ ซึ่งหากต้องการให้ผลลัพธ์ออกมาตรงตามความต้องการ และระยะเวลาคงอยู่ของผลลัพธ์ รวมถึงความปลอดภัย ควรปฏิบัติตัวให้เหมาะสมก่อนฉีดฟิลเลอร์น้องสาว ดังนี้
- ก่อนทำการฉีด ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อรับคำแนะนำที่เหมาะสมกับสภาพร่างกายและความต้องการของแต่ละบุคคล โดยแพทย์จะทำการตรวจประเมินและให้คำแนะนำเกี่ยวกับชนิดของฟิลเลอร์ที่เหมาะสมและปริมาณที่ควรฉีด
- ก่อนทำการฉีดฟิลเลอร์น้องสาว ควรพักผ่อนให้เพียงพอเพื่อเตรียมความพร้อมของร่างกาย
- งดรับประทานยา วิตามิน หรืออาหารเสริม เช่น แอสไพริน ยากลุ่มต้านการอักเสบ (NSAIDs) วิตามิน C วิตามิน E น้ำมันตับปลา และโสม เป็นเวลา 7 วันก่อนการฉีด เนื่องจากอาจทำให้เลือดไหลไม่หยุดระหว่างการฉีดและทำให้เกิดรอยช้ำได้ง่าย
- งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และงดสูบบุหรี่ เป็นเวลา 7 วันก่อนการฉีด เพราะแอลกอฮอล์และสารนิโคตินในบุหรี่จะทำให้หลอดเลือดขยายตัว ส่งผลให้เลือดเกิดการสูบฉีดมากขึ้นและทำให้อาการบวมช้ำหายช้า
- หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนัก ๆ ก่อนการฉีดฟิลเลอร์ประมาณ 1 สัปดาห์ เพื่อลดการไหลเวียนของเลือดและลดความเสี่ยงต่อการเกิดรอยช้ำ
- ควรงดการมีเพศสัมพันธ์ก่อนการฉีดเป็นเวลา 7 วัน เพื่อให้บริเวณที่จะฉีดได้พักและลดโอกาสการติดเชื้อ นอกจากนี้ยังช่วยป้องกันการบาดเจ็บและการระคายเคือง
- งดฉีดฟิลเลอร์น้องสาวในระหว่างที่มีประจำเดือน เนื่องจากการฉีดฟิลเลอร์ในช่วงมีประจำเดือนอาจทำให้ร่างกายมีความไวต่อการติดเชื้อมากขึ้น
- ควรทำความสะอาดน้องสาว เช่น การโกนหรือการแว็กซ์ขนอย่างถูกวิธี เพื่อป้องกันการติดเชื้อหรือการอักเสบที่อาจมาจากอุปกรณ์การโกน อย่างน้อย 3 วันก่อนการฉีด
- หากผู้เข้ารับการฉีดมีการติดเชื้อตรงบริเวณช่องคลอด แพทย์จะให้ยาฆ่าเชื้อหรือยาเหน็บช่องคลอดก่อนการฉีด 2 – 3 วัน
- แจ้งประวัติสุขภาพอย่างละเอียดให้แพทย์ทราบ เช่น โรคประจำตัว ยาที่รับประทานอยู่ อาการแพ้ และประวัติการแพ้ยา เพื่อให้แพทย์สามารถประเมินความเสี่ยงและวางแผนการรักษาได้อย่างเหมาะสม
ข้อปฏิบัติหลังฉีดฟิลเลอร์น้องสาว
หลังจากการฉีดฟิลเลอร์น้องสาว เพื่อให้ผลลัพธ์ดี และลดความเสี่ยงจากผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น รวมถึงการคงอยู่ของผลลัพธ์ ควรปฏิบัติตัวหลังฉีดฟิลเลอร์น้องสาว ดังนี้
- หลีกเลี่ยงการสัมผัส นวด คลึง หรือกดตรงบริเวณที่ทำการฉีด เป็นเวลา 14 วันหลังการฉีด เพื่อป้องกันไม่ให้ฟิลเลอร์เกิดการเคลื่อนตัว หรือเกิดความไม่สมดุล
- งดการมีเพศสัมพันธ์ หลังจากการฉีดเป็นเวลา 14 วัน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการระคายเคือง หรือเกิดการบาดเจ็บตรงบริเวณที่ฉีด
- หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนัก เช่นการวิ่ง การยกน้ำหนัก หรือกิจกรรมที่ต้องใช้แรงกด เป็นเวลา 14 วันหลังจากการฉีด เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอาการบาดเจ็บ หรืออาการบวม
- งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และงดสูบบุหรี่ เป็นเวลา 7 วันหลังจากการฉีด เพราะอาจส่งผลต่ออาการบวมแดง หรือการเกิดการอักเสบ
- งดการยิงเลเซอร์ตรงบริเวณอวัยวะเพศ เป็นเวลา 1 เดือน เพราะอาจทำให้เกิดการระคายเคือง
- หลีกเลี่ยงการสวมชุดชั้นในที่รัดแน่น เพราะชุดชั้นในที่รัดแน่นจะทำให้เกิดการกดทับตรงบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ ซึ่งอาจทำให้ฟิลเลอร์มีการเคลื่อนตัว หรือเกิดการกระจายตัวไม่เป็นธรรมชาติ ส่งผลให้เกิดการระคายเคือง หรือบวมได้
- ควรรักษาความสะอาดตรงบริเวณที่ทำการฉีด โดยล้างด้วยน้ำสะอาด หรือสบู่อ่อน ๆ ซึ่งควรหลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่อาจก่อให้เกิดการระคายเคือง และควรทำอย่างเบามือ เพื่อป้องกันฟิลเลอร์เกิดการผิดรูป
- ควรดื่มน้ำอย่างเพียงพอ โดยน้ำช่วยลดอาการบวมหลังการฉีดฟิลเลอร์ และช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับน้องสาว รวมถึงช่วยให้ฟิลเลอร์เกิดกระจายตัวได้ดี และผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติ
- หากมีอาการปวด อาการบวม หรืออาการช้ำ หลังจากการฉีด สามารถประคบเย็น หรือทานยาแก้ปวดเพื่อบรรเทาอาการได้
- หากเกิดอาการข้างเคียง เช่น มีอาการปวดหนักมาก เกิดการอักเสบ หรือเกิดการติดเชื้อ ควรรีบพบแพทย์ทันที
คำถามที่พบบ่อย
ก่อนฉีดฟิลเลอร์น้องสาว ต้องงดมีเซ็กส์ไหม
ก่อนการฉีดฟิลเลอร์น้องสาว ควรงดการมีเพศสัมพันธ์เป็นเวลา 7 วัน เนื่องจากระหว่างการมีเพศสัมพันธ์จะทำให้เนื้อเยื่อตรงบริเวณที่ทำการฉีดฟิลเลอร์เกิดการระคายเคืองมากขึ้น ซึ่งส่งผลกระทบต่อผลลัพธ์ที่ได้จากการฉีดฟิลเลอร์ นอกจากนี้ การมีเพศสัมพันธ์ยังกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด และอาจทำให้เกิดการบาดเจ็บ รวมถึงเพิ่มโอกาสการอักเสบและการติดเชื้อ ดังนั้น การงดเว้นจึงช่วยให้บริเวณที่จะทำการฉีดได้พัก
หลังฉีดฟิลเลอร์น้องสาว มีเซ็กส์ได้ไหม
หลังจากการฉีดฟิลเลอร์น้องสาว ควรงดการมีเพศสัมพันธ์เป็นเวลา 7 วัน เนื่องจากการมีเพศสัมพันธ์อาจทำให้เกิดการเสียดสีหรือการระคายเคือง ซึ่งอาจทำให้ฟิลเลอร์เคลื่อนตัวและเกิดการอักเสบได้ รวมถึงอาจทำให้เกิดการติดเชื้อตรงบริเวณที่ฉีดได้ การงดเว้นจึงช่วยให้บริเวณที่ทำการฉีดได้พักฟื้นอย่างเหมาะสม
ฉีดฟิลเลอร์น้องสาว ต้องโกนก่อนไหม
การโกนขนก่อนฉีดฟิลเลอร์น้องสาวนั้นไม่จำเป็นต้องทำเอง โดยส่วนใหญ่แล้วทางคลินิกจะเตรียมอุปกรณ์สำหรับกำจัดขนให้เรียบร้อยก่อนทำหัตถการอยู่แล้ว เพราะการใช้ใบมีดโกนด้วยตนเองอาจทำให้เกิดบาดแผลเล็ก ๆ ซึ่งอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการติดเชื้อได้ ดังนั้น เพื่อความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญที่คลินิกเพื่อขอคำแนะนำเกี่ยวกับการเตรียมตัวก่อนทำหัตถการ นอกจากนี้ ควรหลีกเลี่ยงการทำหัตถการในช่วงที่มีประจำเดือนอีกด้วย
หลังฉีดฟิลเลอร์น้องสาว ออกกำลังกายได้ไหม
หลังจากฉีดฟิลเลอร์น้องสาว ควรหลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนัก ๆ เช่น การวิ่ง การยกน้ำหนัก หรือกิจกรรมที่ต้องใช้แรงกดเป็นเวลา 14 วัน เนื่องจากอาจทำให้เกิดอาการบวม อาการช้ำ หรือการระคายเคืองตรงบริเวณที่ทำการฉีดได้ รวมถึงอาจส่งผลต่อผลลัพธ์ของฟิลเลอร์ ซึ่งหากครบ 14 วันแล้วไม่มีอาการบวม หรือระคายเคือง สามารถออกกำลังกายได้ตามปกติ